ธนาคารกลางออสเตรเลียอาจยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ 

ดอลลาร์ออสเตรเลียกลับมาทรงตัวอีกครั้งหลังจะอ่อนค่าโรงเกลือ 2% ในรอบสัปดาห์ โดยได้รับแรงกดดันจากดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยน้อยลง ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ประธาน Fed เจอโรม พาวเวลล์ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่าธนาคารกลางจะไม่รีบลดอัตราดอกเบี้ยเนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีแนวโน้มที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ ดอลลาร์ออสเตรเลียยังเผชิญกับแรงกดดันจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่อ่อนตัวลงและความกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว โดยผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางออสเตรเลีย มิเชล บูลล็อก ยืนยันอีกครั้งว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนั้นจะต้องให้แน่ใจว่าอัตราเงินเฟ้อจะสามารถอยู่ภายใต้การควบคุมได้ 

การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อของผู้บริโภคในออสเตรเลียลดลงเหลือ 3.8% ในเดือนพฤศจิกายน ลดลงจาก 4.0% ในเดือนก่อนหน้า ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงได้อีก โดยในเดือนกันยายน อัตราเงินเฟ้อเมื่อเทียบเป็นรายเดือนเพิ่มขึ้น เพียง 2.1% นับเพื่อเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 2021  และอยู่ในช่วงกรอบเป้าหมายของธนาคารกลางที่ 2-3% เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน โดยอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงนี้ได้รับแรงหน่วงมาจากการช่วยเหลือและบรรเทาค่าพลังงานจากทางรัฐบาล อย่างไรก็ตามรายการประชุมเดือนพฤศจิกายน ผู้กำหนดนโยบายยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้เป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน โดยมีคำให้การเพิ่มเติมว่าแม้ว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญและอาจมีแนวโน้มลดลงไปอีกครั้งระยะ อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ใช้พิจารณาแนวทางการลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต 

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลตลาดแรงงานของออสเตรเลียที่อ่อนแอ โดยทรงตัวอยู่ที่ 4.1% เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และมีการสำรวจเพิ่มเติมพบว่าการเติบโตของการจ้างงานช้ากว่าที่คิด ซึ่งมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง  15,900 ตำแหน่ง จากที่คาดไว้ที่ 25,000 ตำแหน่ง อาจเป็นตัวเร่งให้ธนาคารกลางพิจารณาการปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้เร็วขึ้นได้

Fitch Ratings ยังคงยืนยันอันดับเครดิตของประเทศออสเตรเลียไว้ที่ระดับ AAA พร้อมแนวโน้มคงที่ โดยอ้างถึงรายได้ต่อหัวที่สูงขึ้นภายในประเทศและแนวโน้มการเติบโตในระยะกลางที่มั่นคง ตลอดจนสถาบันการเงินที่เข้มแข็งและกรอบนโยบายที่มีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม สำนักงานจัดอันดับเครดิตเตือนว่าตัวชี้วัดทางการคลังของออสเตรเลียมีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงเล็กน้อยในอีก 2 ปีข้างหน้า เนื่องจากธนาคารกลางจำเป็นต้องสนับสนุนเศรษฐกิจเพิ่มเติมโดยการช่วยลดรายจ่ายบางส่วน อย่างไรก็ตาม การขาดดุลการค้าที่เกิดขึ้นยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้การคลังของออสเตรเลียอ่อนตัวลง

สินเชื่อภาคเอกชนในออสเตรียเพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเทียบเป็นรายเดือนในเดือนกันยายน ซึ่งยังคงรักษาระดับเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน และสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด อย่างไรก็ตาม สินเชื่อส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 0.3% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนสิงหาคม แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการใช้จ่ายที่ลดลงเมื่อเทียบกับแนวโน้มในระยะยาว ในขณะที่สินเชื่อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 0.5% ในทางกลับกัน การเติบโตของสินเชื่อธุรกิจลดลงเหลือ 0.6% จาก 0.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยได้รับผลกระทบมาจากการคงอัตราดอกเบี้ยที่สูงและยาวนาน ทำให้บริษัทต่างๆมีต้นทุนด้านการเงินที่เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 5.3% สู่ระดับ 94.6 จุดในเดือนพฤศจิกายน นับเป็นการปรับเพิ่มขึ้นเดือนที่ 2 ติดต่อกันและแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปี เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในอนาคตที่ลดลง โดยผู้บริโภคมองว่าการเงินในระดับครัวเรือนอาจมีแนวโน้มที่ดีมากขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตาม ดัชนีดังกล่าวยังคงอยู่ต่ำกว่า 100 มาเกือบ 3 ปี แม้ว่าสถานะทางการเงินของภาคครัวเรือนจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นกว่า 6.8% ในช่วงปีที่ผ่านมา ในขณะที่มีการคาดการณ์ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจในปีหน้าอาจเพิ่มสูงขึ้นกว่า 8.7% 

Matthew Hassan นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ Westpac ให้ความเห็นว่า “ผู้บริโภครู้สึกกดดันเรื่องการเงินในครอบครัวน้อยลง และไม่ต้องกังวลเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นอีกต่อไป ส่งผลให้มีความมั่นใจในแนวโน้มเศรษฐกิจมากขึ้น”