ฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯ หลากหลาย ก่อนผลประกอบการ Nvidia และข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ

ฟิวเจอร์สและดัชนีหุ้นสหรัฐฯ เผชิญแนวโน้มหลากหลายในช่วงเปิดสัปดาห์ ท่ามกลางการจับตาผลประกอบการสำคัญของบริษัทชั้นนำและข้อมูลเศรษฐกิจที่มีกำหนดเผยแพร่ โดยนักลงทุนให้ความสนใจเป็นพิเศษกับผลประกอบการไตรมาสที่สามของ Nvidia ซึ่งถูกมองว่าเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของกระแสปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ขับเคลื่อนตลาดในปีนี้ 

ดัชนี Nasdaq และ S&P 500 ฟื้นตัวเล็กน้อยในวันจันทร์ หลังจากเผชิญแรงกดดันในสัปดาห์ก่อน โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค โทรคมนาคม และเทคโนโลยี ขณะที่ Tesla พุ่งขึ้น 5.6% จากรายงานเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนกฎระเบียบที่เอื้อต่อรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ โดยหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีของ S&P 500 ยังถูกกดดันจากการขาดทุนของ Nvidia, Alphabet และ Microsoft 

ทั้งนี้ ผลประกอบการของ Nvidia ที่จะประกาศในวันพุธนี้ถือเป็นตัวชี้วัดสำคัญสำหรับนักลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และความยั่งยืนของกระแสการลงทุนที่ขับเคลื่อนโดย AI แม้ว่าหุ้น Nvidia จะพุ่งขึ้นเกือบ 200% ในปีนี้และก้าวขึ้นเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดในโลก แต่รายงานเกี่ยวกับปัญหาความร้อนของชิป AI รุ่นใหม่ อาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการเติบโตของบริษัท 

ขณะเดียวกัน ผลประกอบการของ Walmart และ Lowe’s จะสะท้อนการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงใกล้เทศกาลจับจ่ายปลายปี ซึ่งในปัจจุบัน 93% ของบริษัทใน S&P 500 ได้รายงานผลประกอบการไปแล้ว โดย 75% มีกำไรต่อหุ้นสูงกว่าที่คาดการณ์ และ 61% มีรายได้เกินความคาดหมาย ตามข้อมูลจาก FactSet 

ทางด้าน Morgan Stanley ปรับเป้าหมายดัชนี S&P 500 ขึ้นเป็น 6,500 จุดภายใน 12 เดือน โดยมีปัจจัยหนุนจากการเติบโตของกำไรและสภาพแวดล้อมทางการเงินที่เอื้ออำนวย โดยคาดการณ์ว่ามูลค่าหุ้นอาจมีการปรับตัวเล็กน้อย แม้จะอยู่ในระดับที่สูง แต่ยังมองเห็นโอกาสในกลุ่มอุตสาหกรรมเฉพาะ เช่น การให้ความสำคัญกับซอฟต์แวร์มากกว่าชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ และยังชี้ว่ากฎระเบียบที่ผ่อนคลายและความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นหลังการเลือกตั้งอาจช่วยผลักดันตลาด โดยคงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มการเงิน แต่เตือนถึงความเสี่ยงในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคจากผลกระทบของภาษีศุลกากร 

อย่างไรก็ดี ความเชื่อมั่นของนักลงทุนยังคงอยู่ท่ามกลางความระมัดระวัง หลังจากที่ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ส่งสัญญาณว่าอาจลดอัตราดอกเบี้ยในอัตราที่ช้าลง และตลาดยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนในด้านข้อมูลเงินเฟ้อและนโยบายการเงิน โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตลาดหุ้นอาจปรับฐาน 5%-9% ในระยะสั้นจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและนโยบาย 

ทั้งนี้ ไฮไลต์ของสัปดาห์นี้ได้แก่ผลประกอบการของ Nvidia และรายงานจากบริษัทใหญ่ เช่น Walmart และ Palo Alto Networks ขณะที่นักลงทุนจะจับตาดูข้อมูลการผลิตและการว่างงานเพื่อประเมินความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจ แม้ว่าตลาดจะเผชิญความผันผวนเมื่อเร็ว ๆ นี้ นักวิเคราะห์ยังมองว่าการปรับฐานในหุ้นหลักอาจเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ ท่ามกลางความต้องการที่แข็งแกร่งในนวัตกรรม AI และสินค้าอุปโภคบริโภค

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD US 500 [S&P 500]

แนวต้านสำคัญ : 5896.8, 5898.5, 5901.3

แนวรับสำคัญ : 5891.2, 5889.5, 5886.7         

1H Outlook  

ที่มา: TradingView                                                    

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 5885.2 - 5891.2 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 5891.2 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5898.6 และ SL ที่ประมาณ 5882.2 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 5896.8 - 5902.8 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5907.3 และ SL ที่ประมาณ 5888.2 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 5896.8 - 5902.8 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 5896.8 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5891.2 และ SL ที่ประมาณ 5905.8 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 5885.2 - 5891.2 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5878.0 และ SL ที่ประมาณ 5899.8 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Nov 19, 2024 09:12AM GMT+7