ECB จ่อลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง เศรษฐกิจซบเซา ความเสี่ยงการค้ากดดันยูโรโซน
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อเข้าใกล้เป้าหมายที่ 2% โดยผู้กำหนดนโยบายชี้ให้เห็นความสำคัญของการใช้อัตราดอกเบี้ยในการสนับสนุนการเติบโต
ในขณะเดียวกัน นโยบายภาษีการค้าของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้สร้างความกังวลต่อการเติบโตของเขตยูโร โดยผู้กำหนดนโยบายอย่างเดอ กินดอส และโยอาคิม นาเกล ให้ความสำคัญกับผลกระทบทางเศรษฐกิจมากกว่าผลต่อเงินเฟ้อ ซึ่งนโยบายปกป้องทางการค้าของทรัมป์อาจก่อให้เกิดความปั่นป่วนในระบบการค้าโลก และอาจส่งผลต่อการเติบโตที่อ่อนแอและอัตราดอกเบี้ย ECB ที่ลดลง ขณะที่นักวิเคราะห์เตือนถึงภาวะถดถอยในภาคอุตสาหกรรมของยุโรปที่ยืดเยื้อ ซึ่งซ้ำเติมด้วยอุปสงค์ที่อ่อนแอและต้นทุนพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น แม้ตัวเลขการจ้างงานที่มั่นคงจะสร้างความหวังต่อการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ทางด้านเศรษฐกิจเยอรมนีคาดว่าจะเติบโตต่ำกว่าประเทศเศรษฐกิจชั้นนำอื่น ๆ จนถึงปี 2026 โดยคาดการณ์ถึง GDP ที่คาดว่าจะหดตัว 0.1% ในปี 2024 ก่อนที่จะฟื้นตัวเล็กน้อยเป็น 0.7% ในปี 2025 และ 1.3% ในปี 2026 ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของเขตยูโร โดยปัญหาเชิงโครงสร้างที่เรื้อรัง อุปสงค์อุตสาหกรรมที่อ่อนแอ และการแข่งขันจากจีน ยังคงเป็นอุปสรรคต่อเศรษฐกิจเยอรมนี ท่ามกลางความต้องการภายในประเทศที่เพิ่มขึ้นจากเงินเฟ้อที่ลดลงที่อาจช่วยบรรเทาสถานการณ์ได้บ้าง โดยคาดว่าเงินเฟ้อจะลดลงจาก 2.4% ในปี 2024 เป็น 1.9% ในปี 2026
นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนทางการเมือง รวมถึงการล่มสลายของรัฐบาลผสมในเยอรมนี ได้เพิ่มความไม่แน่นอนทางการคลัง แม้เจ้าหน้าที่จะยืนยันว่ารัฐบาลยังคงปฏิบัติตามพันธกรณีทางการเงิน ท่ามกลางแรงกดดันทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนจุดยืนของ Bundesbank ไปสู่การกระตุ้นการเติบโตมากกว่าการควบคุมเงินเฟ้อ และราคาทรัพย์สินที่ลดลง รวมถึงการส่งออกที่อ่อนแอที่ทำให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจเป็นไปอย่างยากลำบาก
ทางด้านดัชนีค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้นในวันอังคาร หลังความต้องการถือเงินสกุลปลอดภัยเพิ่มขึ้นจากการที่รัสเซียประกาศลดเกณฑ์การใช้อาวุธนิวเคลียร์ ก่อนที่ความตึงเครียดจะผ่อนคลายลงหลังเจ้าหน้าที่รัสเซียและสหรัฐฯ ชี้แจงเพิ่มเติม โดยการเพิ่มขึ้นของดอลลาร์ยังสะท้อนถึงความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจชะลอการลดอัตราดอกเบี้ย โดยความน่าจะเป็นของการลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนธันวาคมลดลงเหลือ 59.1% จาก 76.8% เมื่อเดือนก่อน
ในตลาดที่อยู่อาศัย การก่อสร้างบ้านเดี่ยวในสหรัฐฯ ลดลงในเดือนตุลาคม ส่วนหนึ่งเป็นผลจากพายุเฮอริเคนที่กระทบกิจกรรมในรัฐทางภาคใต้ แม้ใบอนุญาตก่อสร้างจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่การฟื้นตัวครั้งใหญ่คาดว่าจะไม่เกิดขึ้น เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยจำนองที่สูง ขณะที่การลงทุนในภาคที่อยู่อาศัยยังคงอ่อนตัว โดยนักเศรษฐศาสตร์ปรับลดคาดการณ์การเติบโต GDP ไตรมาสที่สี่เล็กน้อยเหลือ 2.4% จาก 2.5% หลังจากการเติบโต 2.8% ในไตรมาสที่สาม
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1D) CFD EUR/USD
แนวต้านสำคัญ : 1.0602, 1.0621, 1.0650
แนวรับสำคัญ : 1.0544, 1.0525, 1.0496
1D Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.0484 - 1.0544 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 1.0544 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0623 และ SL ที่ประมาณ 1.0454 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 1.0602 - 1.0662 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0726 และ SL ที่ประมาณ 1.0514 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.0602 - 1.0662 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 1.0602 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0544 และ SL ที่ประมาณ 1.0692 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 1.0484 - 1.0544 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0450 และ SL ที่ประมาณ 1.0632 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Nov 20, 2024 10:26AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 1.0469 | 1.0496 | 1.0546 | 1.0573 | 1.0623 | 1.065 | 1.07 |
Fibonacci | 1.0496 | 1.0525 | 1.0544 | 1.0573 | 1.0602 | 1.0621 | 1.065 |
Camarilla | 1.0574 | 1.0581 | 1.0588 | 1.0573 | 1.0602 | 1.0609 | 1.0616 |
Woodie's | 1.0479 | 1.0501 | 1.0556 | 1.0578 | 1.0633 | 1.0655 | 1.071 |
DeMark's | - | - | 1.0521 | 1.056 | 1.0598 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ