ธนาคารกลางออสเตรเลียยังไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ 

ดอลลาร์ออสเตรเลียยังคงทรงตัวในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีการประกาศ PMI ก็ตาม โดยข้อมูล PM ใหม่ล่าสุดแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของออสเตรเลียยังยังคงซบเซาในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา และมีแนวโน้มชะลอตัวลงได้อีกในอนาคต ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายการเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลางออสเตรเลียในปัจจุบัน โดยรายงานการประชุมเดือนพฤศจิกายนของธนาคารกลางออสเตรเลียยังคงเน้นย้ำถึงความระมัดระวังเกี่ยวกับเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่อง และจำเป็นต้องมีการจับตาดูเป็นพิเศษเพื่อให้มั่นใจว่าเงินเฟ้อจะกลับลงมาสู่กรอบเป้าหมายของธนาคารกลางอีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดยตรง อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางจำเป็นต้องพิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจด้วยเช่นกัน 

ในรายงานผลการประชุมครั้งล่าสุดพบว่า นโยบายการเงินในออสเตรเลียจำเป็นต้องเข้มงวดเพียงพอจนกว่าธนาคารกลางจะมั่นใจว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังกำลังลดลงสู่เป้าหมายอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ คณะกรรมการยังระบุเพิ่มเติมว่ายังคงเฝ้าระวังความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ โดยระบุว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาดว่าจะยังคงอยู่ในเป้าหมายที่คาดไว้ที่ 2-3% จนถึงไตรมาสที่ 3 ปี 2025 ซึ่งเกิดจากการสนับสนุนค่าพลังงานในช่วงก่อนหน้า และอัตราเงินเฟ้ออาจจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในไตรมาสที่ 4 ของปี 2025 

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้นนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม ทำให้เราผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางเห็นร่วมกันว่าการกำหนดนโยบายอัตราดอกเบี้ยในอนาคตนั้นจะขึ้นอยู่กับข้อมูลและการประเมินความเสี่ยงที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา และสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ หากคณะกรรมการมองว่านโยบายยังไม่เข้มงวดเพียงพอ และไม่สามารถสร้างแรงกดดันให้กับอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันได้ สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจทั่วโลก RBA ยังคงจับตาดูความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายของสหรัฐฯ หลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดี และความไม่แน่นอนเกี่ยวผลตอบรับของประเทศอื่นๆ ในด้าน GDP การเติบโตชะลอตัวลงในไตรมาสที่ 2 แต่ดูเหมือนว่าจะฟื้นตัวขึ้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเนื่องจากการบริโภคในครัวเรือนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ครึ่งหลังของปี 2024 

ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจในออสเตรเลียเพิ่มขึ้นเป็น 0.2% เมื่อเทียบเป็นรายเดือนในเดือนตุลาคม หลังจากลดลงในช่วง 6 เดือนก่อนหน้า ในขณะเดียวกัน อัตราการเติบโตต่อปีของกิจกรรมทางเศรษฐกิจเมื่อเทียบกับแนวโน้มในอนาคต 3 ถึง 9 เดือน เพิ่มขึ้นเป็น 0.26 ในเดือนตุลาคม จาก -0.20 ในเดือนกันยายน โดยตัวเลขล่าสุดแสดงให้เห็นถึงสัญญาณเชิงบวกมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่อาจขยายตัวมากขึ้นในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของ Westpac ที่ว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วโดยลงมาแต่ที่ 1% เมื่อเทียบเป็นรายปีในช่วงกลางปีที่ผ่านมาโดยการเติบโตของเศรษฐกิจอาจเพิ่มมากขึ้นถึง 1.5% ภายในสิ้นปีและเพิ่มไปถึง 2.4% ในสิ้นปี 2025 นอกจากนี้ Ryan Wells นักเศรษฐศาสตร์ของ Westpac Group ได้คาดการณ์ว่าธนาคารกลางออสเตรเลียจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมและจำเป็นจะต้องให้อัตราเงินเฟ้อเข้าใกล้เป้าหมายของธนาคาร เพื่อพิจารณาการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง

PMI ภาคบริการหดตัวลงสู่ระดับ 49.6 ในเดือนพฤศจิกายน จาก 51 ในเดือนก่อนหน้า แสดงให้เห็นถึงการหดตัวลงอย่างชัดเจนของกิจกรรมภาคบริการและนับเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 10 เดือนโดยสาเหตุส่วนใหญ่นี้เกิดจากการชะลอตัวของการเติบโตของธุรกิจเกิดใหม่หลังจากเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงต้นปีที่ผ่านมา รวมไปถึงคำสั่งซื้อส่งออกที่ลดลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้อุปสงค์ภายในประเทศที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กิจกรรมภาคบริการโดยรวมชะลอตัวลงด้วยเช่นกัน

ด้าน PMI ภาคการผลิตเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจนมาอยู่ที่ระดับ 49.4 ในเดือนพฤศจิกายน จาก 47.3 ในเดือนตุลาคม ยังคงแสดงให้เห็นถึงการหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 แม้ว่า จะเป็นอัตราการหดตัวที่ช้าที่สุดในรอบ 6 เดือนก็ตาม โดยภาคการผลิตยังคงได้รับแรงกดดันจากคำสั่งซื้อใหม่ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ผลผลิตที่สามารถทำได้ลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม คำสั่งซื้อสำหรับการส่งออกที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยได้ช่วยแบ่งเบาภาระบางส่วน และช่วยกระตุ้นกิจกรรมในภาคการผลิตให้เพิ่มขึ้นด้วย