เศรษฐกิจของแคนาดายังสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ดอลลาร์แคนาดายังคงส่งตัวอยู่ที่ประมาณ 1.4 ดอลลาร์แคนาดาต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยได้รับผลกระทบมาจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐ โดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันว่าจะขึ้นภาษีศุลกากรอีกครั้ง รวมถึงการปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าที่มาจากแคนาดาและเม็กซิโกสูงมากถึง 25% และการปรับขึ้นภาษีสินค้าจีน 10% เนื่องจากผลิตภัณฑ์น้ำมัน ก๊าซ และพลังงานเป็นสินค้าส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของแคนาดาไปยังสหรัฐฯ รองจากรถยนต์ ทำให้การปรับขึ้นภาษีในครั้งนี้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนโดยตรง
อย่างละก็ตาม นักลงทุนได้มีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางแคนาดาจะยังคงปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้าต่อไป แม้ว่าโอกาสที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 50bps จะลดลงก็ตาม เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่มีการประกาศล่าสุดสูงกว่าที่คาดไว้ ในขณะเดียวกันอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ธนาคารกลางแคนาดาใช้เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อภายในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 2.6% ในเดือนตุลาคม จาก 2.4% ในเดือนกันยายน นับว่าเป็นการเพิ่มขึ้นมากกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางแคนาดาอีกครั้ง โดยได้รับแรงหนุนจากตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง เช่น ข้อมูลการว่างงานและ PMI ที่แข็งแกร่ง
รายได้เฉลี่ยรายสัปดาห์ของพนักงานนอกภาคเกษตรในแคนาดาเพิ่มขึ้น 5.2% เมื่อเทียบเป็นรายปีเป็น 1,280 ดอลลาร์ในเดือนกันยายน ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2021 หลังจากเพิ่มขึ้น 4.9% ในเดือนสิงหาคม ดูรายได้เฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นนี้พบว่าอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ 11 จาก 20 ภาคส่วนมีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น โดยรายได้ในกลุ่มการบริการด้านการศึกษา, การดูแลสุขภาพและความช่วยเหลือทางสังคมยังคงมีรายได้เพิ่มมากที่สุด เนื่องจากการแข่งขันในระบบการศึกษาและแนวโน้มในอนาคตที่ประชาชนจะรักสุขภาพมากขึ้น
ดัชนีชี้วัดธุรกิจในแคนาดา ซึ่งเป็นดัชนีระยะยาวที่สะท้อนถึงการคาดการณ์ผลการดำเนินงานทางธุรกิจในประเทศในช่วง 12 เดือนข้างหน้า เพิ่มขึ้นเป็น 59.7 ในเดือนพฤศจิกายน จาก 55.8 ในเดือนตุลาคม ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2022 การเพิ่มขึ้นในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นของความเชื่อมั่นของหลายภาคส่วนในประเทศ แม้ว่าบางภาคส่วน เช่น ก่อสร้าง, บริการส่วนบุคคลและสันทนาการ จะมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยก็ตาม อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นในระยะยาวยังคงมีแนวโน้มเป็นบวกมากขึ้นแสดงให้เห็นถึงสัญญาณของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจโดยรวม แม้ว่าต้นทุนด้านแรงงานจะเพิ่มมากขึ้นจากการปรับขึ้นค่าจ้าง แต่ยอดขายที่เพิ่มมากขึ้นได้ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถสร้างรายได้มากขึ้นเช่นเดียวกัน
ยอดขายปลีกในแคนาดาเพิ่มมากขึ้น 0.7% จากเดือนก่อนหน้าในเดือนตุลาคม นับเป็นการขยายตัว 4 เดือนติดต่อกัน โดยการเพิ่มขึ้นในครั้งนี้ได้รับแรงโหลดมาจากยอดขายที่สูงขึ้นในหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะยอดขายจากกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มที่เพิ่มมากขึ้นถึง 3% และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันยอดค้าปลีกในกลุ่มสินค้าสุขภาพและการดูแลส่วนบุคคลยังเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการดูแลรักษาสุขภาพยังคงเป็นสิ่งจำเป็น และแนวโน้มในอนาคตที่ผู้สูงอายุจะมีจำนวนมากขึ้น
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลแคนาดาอายุ 10 ปีลดลงต่ำกว่า 3.35% ซึ่งลดลงจากจุดสูงสุดในรอบกว่า 4 เดือน ซึ่งเป็นการลดลงของอัตราผลตอบแทนที่สอดคล้องกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ลดลง โดยการที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เสนอชื่อ สก็อตต์ เบสเซนต์ ผู้จัดการกองทุนป้องกันความเสี่ยงให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ทำให้นักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้น ส่งผลให้มีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะมีเสถียรภาพและนโยบายต่างๆ จะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีมากขึ้น ในขณะเดียวกัน นักลงทุนต่างรอคอยการประกาศตัวเลข GDP ที่จะแสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่ชัดเจนในช่วงปลายสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจภายในประเทศยังมีแนวโน้มไปในทางที่ดีมากขึ้น แม้ว่าจะมีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อก็ตาม ซึ่งเป็นผลมาจากดัชนีราคาผู้ผลิตที่เพิ่มมากขึ้นถึง 1.2% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ส่งผลให้ต้นทุนวัตถุดิบที่ใช้สำหรับในการผลิตสินค้ามีราคาเพิ่มมากขึ้น
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)
แนวต้านสำคัญ: 1.4045, 1.4063, 1.4083
แนวรับสำคัญ: 1.4007, 1.3987, 1.3969
ที่มา: Investing.com
Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3987 - 1.4007 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.4007 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.4063 และ SL ที่ประมาณ 1.4045 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.4045 - 1.4063 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.4083 และ SL ที่ประมาณ 1.3987 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.4045 - 1.4063 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1.4045 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3969 และ SL ที่ประมาณ 1.4083 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.3987 - 1.4007 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.4045 และ SL ที่ประมาณ 1.3969 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
ชื่อ
|
S3
|
S2
|
S1
|
จุดกลับตัว
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 1.3969 | 1.3987 | 1.4007 | 1.4025 | 1.4045 | 1.4063 | 1.4083 |
Fibonacci | 1.3987 | 1.4002 | 1.401 | 1.4025 | 1.404 | 1.4048 | 1.4063 |
Camarilla | 1.4018 | 1.4021 | 1.4025 | 1.4025 | 1.4031 | 1.4035 | 1.4038 |
Woodie's | 1.3971 | 1.3988 | 1.4009 | 1.4026 | 1.4047 | 1.4064 | 1.4085 |
DeMark's | - | - | 1.4017 | 1.403 | 1.4054 | - | - |