เงินเฟ้อในโตเกียวเกินคาดการณ์ ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
ในเดือนพฤศจิกายน ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของโตเกียวพุ่งเกินความคาดหมาย โดยเพิ่มขึ้น 2.2% เมื่อเทียบปีต่อปี จาก 1.8% ในเดือนตุลาคม โดยได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายภาคเอกชนที่แข็งแกร่งและการเติบโตของค่าจ้าง อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อที่ไม่รวมพลังงานและอาหารสดยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ 1.9% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ติดต่อกันเป็นเดือนที่แปด
แม้จะมีความคืบหน้าในเรื่องค่าจ้างและการเติบโตของราคา แต่ความไม่แน่นอนเช่น นโยบายของสหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ก็ยังคงเป็นความเสี่ยงต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่น รัฐบาลแม้ว่าจะมองในแง่ดีเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ค่อยเป็นค่อยไป แต่ก็เตือนถึงผลกระทบจากการผันผวนของตลาดโลกและภาษีศุลกากรที่อาจจะเกิดขึ้น
ทางด้านการใช้จ่ายของบริษัทเพิ่มขึ้น 8.1% เมื่อเทียบปีต่อปีในไตรมาสที่สาม ช่วยหนุนการใช้จ่ายในประเทศ แต่ยังคงอยู่ในแนวโน้มที่ลดลงจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ขณะที่รัฐบาลยังคงมุ่งมั่นที่จะปรับเพิ่มค่าจ้าง โดยนายกรัฐมนตรี ชิเกรุ อิชิบะ ได้เรียกร้องให้มีการขึ้นค่าจ้างในการเจรจาทางแรงงานที่จะเกิดขึ้น เพื่อบรรลุเป้าหมายเศรษฐกิจระยะยาว
ทั้งนี้ แนวโน้มเศรษฐกิจของญี่ปุ่นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเผชิญทิศทางที่หลากหลาย โดยพบกิจกรรมโรงงานที่หดตัว ความต้องการที่ซบเซา และการเปลี่ยนแปลงในนโยบายการเงิน โดยกิจกรรมโรงงานในเดือนพฤศจิกายนหดตัวในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบแปดเดือน เนื่องจากทั้งความต้องการในประเทศและต่างประเทศยังคงอ่อนแอ โดยเฉพาะในภาคเซมิคอนดักเตอร์และยานยนต์ ขณะที่การจ้างงานลดลงเป็นครั้งแรกในรอบเก้าเดือน ท่ามกลางบริษัทต่างๆ ที่ได้เพิ่มราคาผลิตภัณฑ์เพื่อต่อสู้กับต้นทุนการผลิตที่ยังคงสูงจากค่าจ้าง ค่าขนส่ง และต้นทุนวัสดุที่สูงขึ้น
ทางด้านผลผลิตทางอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 3.0% ในเดือนตุลาคม แต่ยังคงต่ำกว่าความคาดหมาย สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการจากต่างประเทศที่อ่อนแอและอุปสรรคในการผลิต ขณะที่การเติบโตของยอดขายปลีกยังคงต่ำกว่าความคาดหมาย ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความท้าทายในด้านการใช้จ่ายของผู้บริโภค
อย่างไรก็ดี การใช้จ่ายของบริษัทในโรงงานและอุปกรณ์ยังคงแสดงถึงความยืดหยุ่น โดยเพิ่มขึ้น 8.1% เมื่อเทียบปีต่อปีในไตรมาสที่สาม บ่งชี้ถึงความต้องการในประเทศที่แข็งแกร่ง ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เกี่ยวข้องกับการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีนและการหยุดชะงักจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศอาจทำให้การลงทุนในอนาคตชะลอตัว
ในขณะเดียวกัน รัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณเสริมจำนวน 13.9 ล้านล้านเยน (92 พันล้านดอลลาร์) เพื่อปกป้องครัวเรือนจากต้นทุนการดำรงชีวิตที่สูงขึ้น โดยมีมาตรการเช่น การสนับสนุนค่าเชื้อเพลิงและการให้ความช่วยเหลือจากภัยพิบัติ อย่างไรก็ตาม วิธีการดังกล่าวได้สร้างความเสี่ยงที่จะทำให้หนี้สาธารณะปัจจุบันของญี่ปุ่นสูงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อ BOJ ได้หันหลังให้กับอัตราดอกเบี้ยแบบต่ำพิเศษ
ทั้งนี้ ปัญหาทางการคลังของญี่ปุ่นได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจากการพึ่งพามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากหนี้สาธารณะเป็นหลัก ส่งผลให้รัฐบาลต้องเผชิญกับแรงกดดันทั้งสองด้าน ทั้งจากการจัดการต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นและการตอบสนองต่อคำร้องขอให้มีการลดภาษีแบบถาวร ซึ่งอาจลดรายได้จากภาษีอย่างมาก โดยนักวิเคราะห์เตือนว่าการขยายตัวทางการคลังที่ยืดเยื้อโดยไม่มีการควบคุมอย่างเหมาะสมอาจทำให้เสถียรภาพทางการเงินของประเทศเสี่ยง โดยเฉพาะเมื่อตลาดพันธบัตรเปลี่ยนแปลงไปและธนาคารในประเทศยังคงระมัดระวังในการกลับเข้าสู่ตลาดพันธบัตรของรัฐบาล
ทางด้านดอลลาร์สหรัฐฯ เริ่มต้นสัปดาห์ด้วยความระมัดระวัง ขณะที่ตลาดเตรียมพร้อมสำหรับการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ท่ามกลางเงินเยนที่ได้รับแรงสนับสนุนจากการคาดการณ์ว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยในประเทศเพิ่มขึ้น โดยตลาดคาดการณ์ว่าจะมีโอกาส 56% ที่ BOJ จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนธันวาคม ส่งผลให้เยนแข็งค่าขึ้น โดยดอลลาร์คงที่ที่ 149.60 เยน หลังจากที่ลดลง 3.3% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทางด้านการเพิ่มขึ้นของดัชนีการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ ที่ 2.3% ในเดือนตุลาคม ทำให้แผนการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซับซ้อนขึ้น แม้ว่าตลาดแรงงานจะยังคงมีความยืดหยุ่น โดยพบการยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงเหลือ 213,000 รายเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บ่งชี้ถึงสภาพการจ้างงานที่ยังคงทรงตัว
สำหรับตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐฯ เผชิญกับความท้าทายในด้านความสามารถในการซื้อ แม้จะมีการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในตลาดบ้านมือสองในเดือนตุลาคม โดยอัตราดอกเบี้ยจำนองที่สูงและจำนวนบ้านคงเหลือที่จำกัดได้ขัดขวางความสามารถในการซื้อ ของผู้ซื้อบ้านหลังแรก ในขณะที่คำสั่งซื้อสินค้าทุนของสหรัฐฯ ลดลงอย่างไม่คาดคิด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการใช้จ่ายของธุรกิจที่ซบเซาในอุปกรณ์
ทั้งนี้ เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ขยายตัวในอัตราร้อยละ 2.8 ต่อปีในไตรมาสที่สาม โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง แม้ว่าเงินเฟ้อจะยังคงสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยนักวิเคราะห์เตือนว่าเงินเฟ้อที่ยังคงสูงและการปรับนโยบายที่อาจเกิดขึ้นอาจจำกัดขอบเขตของการลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
อย่างไรก็ดี แม้ว่าเศรษฐกิจจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แต่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคตและการควบคุมเงินเฟ้อยังคงมีน้ำหนักต่อการเคลื่อนไหวของตลาด โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมีช่วงเวลาของการปรับฐานของดอลลาร์ จากความเสี่ยงที่อาจหนุนดอลลาร์ในปี 2025 ขณะที่ข้อมูลที่จะเผยแพร่ในอนาคต รวมถึงรายงานการจ้างงานในเดือนพฤศจิกายนและคำแถลงของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ จะยังคงมีผลกระทบต่อนโยบายของเฟดและทิศทางของตลาด
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (30Min) CFD USD/JPY
แนวต้านสำคัญ : 150.66, 150.70, 150.77
แนวรับสำคัญ : 150.54, 150.50, 150.43
30Min Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 150.44 – 150.54 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 150.54 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 150.69 และ SL ที่ประมาณ 150.39 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 150.66 – 150.76 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 150.88 และ SL ที่ประมาณ 150.49 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 150.66 – 150.76 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 150.66 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 150.52 และ SL ที่ประมาณ 150.81 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 150.44 – 150.54 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 150.37 และ SL ที่ประมาณ 150.71 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Dec 2, 2024 10:02AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 150.36 | 150.43 | 150.52 | 150.6 | 150.69 | 150.77 | 150.86 |
Fibonacci | 150.43 | 150.5 | 150.54 | 150.6 | 150.66 | 150.7 | 150.77 |
Camarilla | 150.55 | 150.57 | 150.58 | 150.6 | 150.62 | 150.63 | 150.65 |
Woodie's | 150.36 | 150.43 | 150.52 | 150.6 | 150.69 | 150.77 | 150.86 |
DeMark's | - | - | 150.47 | 150.57 | 150.64 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ