ธนาคารกลางแคนาดาการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 50 bps

ดอลลาร์แคนาดาอ่อนค่าลงเล็กน้อยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนได้รับข้อมูลของตลาดแรงงานที่ออกตัวมากกว่าที่คาดก่อนที่จะมีการประชุมเพื่อตัดสินใจในการดำเนินนโยบายทางการเงินในสัปดาห์หน้า โดยอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สอดคล้องกับความกังวลของธนาคารการแคนาดาที่คาดว่าตลาดแรงงานจะอ่อนแอลง ได้กระตุ้นให้ความคาดหวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 50 bps มีเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจของแคนาดายังคงได้รับความกังวลเนื่องจาก โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะมีการปรับขึ้นภาษีนำเข้าอีก 25% ทำให้ความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจของแคนาดาลดลง เนื่องจากแคนาดาพึ่งพาความต้องการสินค้าพลังงานและรถยนต์จากสหรัฐฯ

GDP ของแคนาดาขยายตัว 0.3%  เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาสในไตรมาสที่ 3 ของปี 2024 ชะลอตัวลงจากการขยายตัว 0.5% ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด การเติบโตทางเศรษฐกิจนั้นขับเคลื่อนโดยการบริโภคในครัวเรือนซึ่งส่วนใหญ่เป็นการซื้อรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นรถบรรทุก รถตู้ รวมไปถึงรถยนต์ส่วนตัว นอกจากนี้ยังได้รับแรงสนับสนุนจากรายจ่ายของรัฐบาลที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเพิ่มขึ้นมากกว่ากว่า 1.1% ท่ามกลางการใช้จ่ายที่สูงขึ้นในทุกระดับของรัฐบาล อย่างไรก็ตามการส่งออกสินค้าและบริการหดตัว 0.3% ส่งผลกระทบทางด้านลบต่อ GDP ของแคนาดาโดยตรง

แคนาดาขาดดุลการค้า 0.92 พันล้านดอลลาร์แคนาดาในเดือนตุลาคม ลดลงจาก 1.26 พันล้านดอลลาร์แคนาดาในเดือนก่อนหน้า แต่ก็ถือเป็นการขาดดุลการค้า 8 เดือนติดต่อกัน การขาดดุลการค้าที่ชะลอตัวลงในเดือนตุลาคมนี้ได้รับแรงสนับสนุนมาจากการส่งออกที่เพิ่มมากกว่าการนำเข้า โดยการนำเข้าเพิ่มขึ้นเพียง 0.5% คิดเป็นมูลค่ากว่า 65.1 พันล้านดอลลาร์แคนาดา ซึ่งการนำเข้าส่วนใหญ่ยังคงเป็นการนำเข้าแร่โลหะที่มีการนำเข้าเพิ่มมากกว่า 46.1%  รองลงมาคือการนำเข้าพลังงานที่เพิ่มมากขึ้น 6.2% 

 ด้านการส่งออกของแคนาดาเพิ่มขึ้น 1.1% คิดเป็น 64.2 พันล้านดอลลาร์แคนาดา ซึ่งถือเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกของการส่งออกหลังจากที่ลดลงต่อเนื่อง 3 เดือนติดต่อกัน อย่างไรก็ตามการส่งออกที่เพิ่มขึ้นนี้เพิ่มขึ้นจาก 3  ใน 11 กลุ่มสินค้าเท่านั้น โดยการส่งออกสินค้าที่เพิ่มมากที่สุดคือการส่งออกผลิตภัณฑ์โลหะและแร่เพิ่มสูงขึ้นกว่า 10.6% ในเดือนตุลาคม โดยเฉพาะโลหะในกลุ่มทองคำ เงิน และแพลตตินัมที่ยังไม่ได้ขึ้นรูป นอกจากนี้การส่งออกผลิตภัณฑ์ยาฟื้นตัวอย่างรวดเร็วที่ 36.8% หลังจากลดลง 2 เดือนติดต่อกัน ซึ่งเกิดจากการส่งออกยาไปยังสหรัฐอเมริกาที่เพิ่มมากขึ้น

อัตราการว่างงานในแคนาดาเพิ่มขึ้นเป็น 6.8% ในเดือนพฤศจิกายน จาก 6.5% ในเดือนก่อนหน้า สูงกว่าที่คาดไว้ที่ 6.6% และถือเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2021 อัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้นนี้สอดคล้องกับความกังวลเกี่ยวกับตลาดแรงงานที่คาดว่าจะอ่อนตัวลงของธนาคารกลางแคนาดา เมื่อมาดูรายละเอียดพบว่าประชากรว่างงานมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างมาก โดยเพิ่มมากขึ้น 87,300 คนเป็น 1,516,300 คน ในขณะที่การจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 50,500 ตำแหน่ง เป็น 20,647,400 ตำแหน่ง นอกจากนี้ยังมีข้อมูลระบุเพิ่มเติมด้วยว่าการเพิ่มขึ้นของอัตราการว่างงานกว่า 50% เกิดขึ้นในกลุ่มเยาวชนที่มีอายุน้อยกว่า 24 ปี และอีก 25% อยู่ในกลุ่มประชากรผู้สูงอายุ อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งงานที่เพิ่มขึ้นนี้ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในธุรกิจภาคบริการ เช่น การค้าส่งและค้าปลีก ที่มีตำแหน่งงานเพิ่มมากขึ้นกว่า 39,000 ตำแหน่ง ในขณะที่การบริการร้านอาหารและที่พักเพิ่มขึ้นเพียง 15,000 ตําแหน่ง