จีนอาจมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในอนาคตอันใกล้
ค่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังมากขึ้นต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากจีน นักลงทุนกำลังจับตามองความคืบหน้าอย่างใกล้ชิดในการประชุมประจำปีด้านเศรษฐกิจของจีน โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงจะประเมินเศรษฐกิจสำหรับปี 2025 โดยโปลิตบูโรแต่ยังคงดำเนินนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายบางส่วน ควบคู่ไปกับมาตรการทางการคลังเชิงรุกมากขึ้นเพื่อกระตุ้นการบริโภคทั้งภาคเอกชนและประชาชน และจะยังคงรักษาเสถียรภาพของตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดหุ้น รวมไปถึงขยายอุปสงค์ภายในประเทศด้วยเช่นเดียวกัน โดยมีการคาดการณ์การเติบโตของ GDP ของจีนที่ 4.8% ในปี 2024 และ 4.5% ในปี 2025
อัตราเงินเฟ้อของจีนลดลงเหลือ 0.2% ในเดือนพฤศจิกายน จาก 0.3% ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 0.5% และเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดตั้งแต่เดือนมิถุนายน การชะลอตัวนี้เน้นย้ำถึงความเสี่ยงต่อภาวะเงินฝืดที่เพิ่มขึ้นภายในประเทศ แม้ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล่าสุดจากรัฐบาลที่ช่วยในการเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ระบบมากยิ่งขึ้น โดยราคาอาหารเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดในรอบ 4 เดือน ซึ่งเกิดจากราคาผักและเนื้อหมูที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อย่างไรก็ตามอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้น 0.3% ซึ่งอาจเป็นสัญญาณที่ดีและใช้แนวทางการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป
ดุลการค้าของจีนพุ่งแตะระดับ 97,440 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนพฤศจิกายน จากระดับ 69,450 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเดียวกันของปีก่อน สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 95,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นดุลการค้าเกินดุลครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยการส่งออกเพิ่มขึ้นในขณะที่การนำเข้าลดลงโดยการนำเข้าสินค้าไปยังจีนลดลง 3.9% เหลือ 214,870 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเป็นการลดลงของการนำเข้า 2 เดือนติดต่อกัน เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศที่อ่อนแอ และการกีดกันทางการค้าที่กำลังเกิดขึ้นยังคงเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การนำเข้าสินค้าบางส่วนเป็นไปได้ด้วยความยากลำบาก โดยการนำเข้าผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีซึ่งรวมไปถึง Semiconductor และ IC curcuit ยังคงเป็นสินค้าสำคัญต่อการพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศ
การส่งออกจากจีนเติบโต 6.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 8.5% และลดลงอย่างรวดเร็วจากระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีที่ 12.7% ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งสะท้อนถึงความตึงเครียดทางการค้าที่ยังคงดำเนินต่อไปกับสหรัฐอเมริกาและยุโรปที่กำลังเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามการส่งออกจากจีนขยายตัวเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน โดยมีมูลค่าการส่งออกสูงสุดในรอบ 26 เดือนที่ 312,310 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากผู้ผลิตบางรายเร่งคำสั่งซื้อเพื่อรับมือกับภาษีศุลกากรเพิ่มเติม โดยเฉพาะจากสหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ โดยการส่งออกเพิ่มขึ้นไปยังสหรัฐฯ มากที่สุด รองลงมาคือญี่ปุ่นและสหภาพยุโรป โดยการส่งออกส่วนใหญ่ยังคงเป็นวัสดุอลูมิเนียมและผลิตภัณฑ์พลาสติก
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจีนอายุ 10 ปีลดลงเหลือ 1.83% โดยนักลงทุนยังคงรอการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติมรวมไปถึงการประชุมประจำปี Central Economic Work Conference โดยแสดงให้เห็นว่าจีนยังคงใช้มาตรการผ่อนคลายและอาจใช้นโยบายทางการคลังควบคู่ไปด้วย อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นรวมไปถึงอุปสงค์ภายในประเทศที่ยังชะลอตัว ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจของจีนทรงตัวไปจนถึงปีหน้า
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)
แนวต้านสำคัญ: 7.2854, 7.2946, 7.3051
แนวรับสำคัญ: 7.2656, 7.255, 7.2458
ที่มา: Investing.com
Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 7.255 - 7.2656 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 7.2656 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.2946 และ SL ที่ประมาณ 7.2458 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 7.2854 - 7.2946 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.3051 และ SL ที่ประมาณ 7.255 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 7.2854 - 7.2946 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 7.2854 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.255 และ SL ที่ประมาณ 7.3051 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 7.255 - 7.2656 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.2458 และ SL ที่ประมาณ 7.2946 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
ชื่อ
|
S3
|
S2
|
S1
|
จุดกลับตัว
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 7.2458 | 7.255 | 7.2656 | 7.2748 | 7.2854 | 7.2946 | 7.3051 |
Fibonacci | 7.255 | 7.2626 | 7.2673 | 7.2748 | 7.2823 | 7.287 | 7.2946 |
Camarilla | 7.2709 | 7.2727 | 7.2745 | 7.2748 | 7.2781 | 7.2799 | 7.2817 |
Woodie's | 7.2466 | 7.2554 | 7.2664 | 7.2752 | 7.2862 | 7.295 | 7.3059 |
DeMark's | - | - | 7.2703 | 7.2771 | 7.29 | - | - |