บทวิเคราะห์ USD/JPY วันที่ 13 ธันวาคม 2567

Create at 1 week ago (Dec 13, 2024 10:07)

ดอลลาร์/เยนทรงตัว ขณะตลาดคาดเฟดลดดอกเบี้ย แม้ BOJ คงจุดยืนผ่อนคลาย

สกุลเงินเอเชียปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ตอกย้ำการคาดการณ์ถึงธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า ขณะที่ความสนใจหันไปที่การประชุมนโยบายประจำปีของจีนเพื่อจับสัญญาณการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกัน ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีแนวโน้มที่จะคงอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันไว้ในการประชุมวันที่ 18-19 ธันวาคม โดยเลือกที่จะวิเคราะห์ความเสี่ยงทั่วโลกและแนวโน้มค่าจ้างในปีหน้าเพิ่มเติม

ทั้งนี้ BOJ เผชิญกับแรงกดดันที่หลากหลาย รวมถึงการอ่อนค่าของเงินเยนหากเฟดสร้างความประหลาดใจให้กับตลาด โดยการตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับแนวโน้มค่าจ้างในวงกว้างและกลยุทธ์การกำหนดราคาขององค์กร โดยมุ่งเน้นไปที่การเจรจาแรงงานในปีหน้าและข้อมูลเศรษฐกิจในภูมิภาค ซึ่งราคาตลาดปัจจุบันบ่งชี้ว่ามีโอกาสน้อยกว่า 30% ที่จะมีการปรับอัตราเพิ่มขึ้นในเดือนธันวาคม

ในขณะเดียวกัน บริษัทญี่ปุ่นยังคงใช้ความระมัดระวังเกี่ยวกับการกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของโดนัลด์ ทรัมป์ โดยอ้างถึงความกังวลเกี่ยวกับการขึ้นภาษีศุลกากรที่อาจเกิดขึ้นและความตึงเครียดทางการค้า ในขณะที่บริษัทบางแห่งมองเห็นโอกาสจากการปรับเปลี่ยนนโยบายภายในประเทศของสหรัฐฯ บริษัทส่วนใหญ่คาดว่าจะเผชิญกับความท้าทาย โดยเฉพาะจากมาตรการทางเศรษฐกิจที่ไม่สามารถคาดเดาได้ อย่างไรก็ดี บริษัทญี่ปุ่นหลายแห่งคาดการณ์การเติบโตของรายได้ โดยได้รับการสนับสนุนจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระดับปานกลางและการปรับนโยบายการเงินให้เป็นปกติอย่างค่อยเป็นค่อยไปของ BOJ

ด้านอัตราเงินเฟ้อขายส่งของญี่ปุ่นเร่งตัวขึ้นเป็นเวลาสามเดือนติดต่อกัน โดยดัชนีราคาสินค้าของบริษัท (CGPI) ในเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 3.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งขับเคลื่อนโดยต้นทุนอาหาร โลหะ และพลาสติกที่สูงขึ้น ดัชนีดังกล่าวทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นเดือนที่สาม สะท้อนถึงต้นทุนปัจจัยการผลิตที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นทางธุรกิจดีขึ้นในระดับปานกลาง โดยผลสำรวจ Tankan ในเดือนธันวาคมแสดงให้เห็นว่าความเชื่อมั่นของผู้ผลิตเพิ่มขึ้นถึงระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022 อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ภายนอกที่อ่อนแอ การบริโภค และความเสี่ยงจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ รวมถึงการชะลอตัวของจีน โดยการเติบโตของ GDP ในไตรมาสที่ 3 ถูกปรับขึ้นเป็น 1.2% ต่อปี จากการลงทุนด้านทุนและการส่งออก ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนอ่อนแอลง สร้างความสงสัยเกี่ยวกับความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจ ท่ามกลางค่าจ้างที่แท้จริงที่แสดงสัญญาณของการทรงตัวในเดือนตุลาคม โดยพบการเพิ่มขึ้นของเงินเดือนขั้นพื้นฐาน 2.7% ซึ่งถือเป็นอัตราที่เร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 1992 ซึ่งช่วยสนับสนุนอุปสงค์ในประเทศ

ด้านดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากการคาดการณ์ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า ขณะที่อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ พุ่งขึ้นในเดือนพฤศจิกายนด้วยอัตราที่เร็วที่สุดในรอบ 7 เดือน สอดคล้องกับการคาดการณ์ โดยปัจจัยสำคัญ เช่น การขึ้นค่าเช่าที่ช้าลงและต้นทุนประกันรถยนต์ที่ลดลง บ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อของภาคบริการอาจเริ่มทรงตัว

ทั้งนี้ เดือนพฤศจิกายนพบราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นมากที่สุดในรอบ 5 เดือน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากราคาไข่ที่พุ่งสูงขึ้นท่ามกลางการระบาดของไข้หวัดนก อย่างไรก็ตาม ต้นทุนบริการที่ลดลง เช่น ค่าโดยสารเครื่องบิน เน้นย้ำถึงแนวโน้มภาวะเงินฝืด โดยนักเศรษฐศาสตร์ได้ปรับประมาณการเงินเฟ้อลง ตอกย้ำความคาดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง

สำหรับความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็กแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3.5 ปีในเดือนพฤศจิกายน ขับเคลื่อนโดยความเชื่อมั่นหลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ได้รับชัยชนะ โดยเจ้าของธุรกิจที่สนับสนุนพรรครีพับลิกันคาดหวังถึงนโยบายที่จะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นอย่างต่อเนื่อง

ด้านจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิด ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงตลาดแรงงานที่กำลังชะลอตัว ขณะที่อัตราจำนองที่ลดลงซึ่งขณะนี้อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน อาจกระตุ้นความต้องการที่อยู่อาศัย แต่ความกังวลด้านเศรษฐกิจในวงกว้างยังคงมีอยู่ อีกด้าน งบประมาณขาดดุลของสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายนพุ่งสูงขึ้น 17% ถึง 367 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการจ่ายเงินสวัสดิการที่เร่งตัวขึ้น

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1HCFD USD/JPY

แนวต้านสำคัญ : 152.91, 152.97, 153.07

แนวรับสำคัญ : 152.71, 152.65, 152.55                     

1H Outlook       

วิเคราะห์ USD/JPY ที่มา: TradingView                                  

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 152.57 – 152.71 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 152.71 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 152.92 และ SL ที่ประมาณ 152.50 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 152.91 – 153.05 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 153.20 และ SL ที่ประมาณ 152.64 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 152.91 – 153.05 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 152.91 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 152.66 และ SL ที่ประมาณ 153.12 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 152.57 – 152.71 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 152.45 และ SL ที่ประมาณ 152.98 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Dec 13, 2024 09:11AM GMT+7

Name
S3
S2
S1
Pivot Points
R1
R2
R3
Classic 152.41 152.55 152.66 152.81 152.92 153.07 153.18
Fibonacci 152.55 152.65 152.71 152.81 152.91 152.97 153.07
Camarilla 152.7 152.72 152.75 152.81 152.79 152.82 152.84
Woodie's 152.39 152.54 152.64 152.8 152.9 153.06 153.16
DeMark's - - 152.6 152.78 152.86 - -

ที่มา: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิกที่นี่
รู้เท่าทันสถานการณ์โลกและบทวิเคราะห์เทคนิคขั้นสูง: คลิกที่นี่
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES