ดอลลาร์แคนาดาร่วงต่ำสุดรอบ 4.5 ปี เศรษฐกิจชะลอ-การเมืองปั่นป่วน
ค่าเงินดอลลาร์แคนาดาร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปีครึ่ง เนื่องมาจากปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ผันผวนและความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ทำให้เกิดความกังวลต่อแนวโน้มการเติบโตของแคนาดามากขึ้น โดยอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง อัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้น และการลาออกอย่างกะทันหันของคริสเทีย ฟรีแลนด์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ส่งผลให้รัฐบาลเสียงข้างน้อยของนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ซึ่งอ่อนแออยู่แล้วจากการสนับสนุนของประชาชนและทางการเมืองที่ลดลง
ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางแคนาดา (BoC) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 50 จุดพื้นฐานเหลือ 3.25% ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งที่ 5 ติดต่อกัน โดยผู้ว่าการทิฟฟ์ แม็กเล็มยอมรับว่าเศรษฐกิจที่เปราะบางได้รับผลกระทบจาก GDP ต่อหัวที่หดตัวติดต่อกัน 6 ไตรมาส ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่กลับสู่เป้าหมาย 2% แม็กเล็มส่งสัญญาณว่าอาจมีการเปลี่ยนจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงเป็นการผ่อนปรนที่ระมัดระวังมากขึ้น โดยอ้างถึงความไม่แน่นอนทั่วโลก เช่น นโยบายกีดกันทางการค้า การเปลี่ยนแปลงเชิงประชากร และความเสี่ยงจากภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ทั้งนี้ ตลาดแรงงานยังสะท้อนให้เห็นถึงความซบเซาของเศรษฐกิจ โดยอัตราการว่างงานในเดือนพฤศจิกายนพุ่งสูงถึง 6.8% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 8 ปี นับตั้งแต่เกิดการระบาด ขณะที่การเติบโตของค่าจ้างชะลอตัว และจำนวนการจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างยากลำบากเพื่อให้สอดคล้องกับกำลังแรงงานที่เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ซบเซาและเศรษฐกิจที่ดำเนินการต่ำกว่าศักยภาพ ปัจจุบัน ตลาดเดิมพันอย่างหนักกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีก 50 จุดพื้นฐาน ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มที่แย่ลง
ทางด้านการเมือง การลาออกของฟรีแลนด์และการตอบสนองของแคนาดาต่อข้อเสนอของทรัมป์ต่อภาษีนำเข้าสินค้าของแคนาดา 25% ได้กำลังทดสอบภาวะความเป็นผู้นำของทรูโด ในขณะที่ฟรีแลนด์ให้คำมั่นว่าจะตอบโต้ภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ อย่าง "เด็ดขาด" แต่ความขัดแย้งระหว่างผู้นำระดับมลรัฐเกี่ยวกับการใช้ภาษีส่งออกตอบโต้ โดยเฉพาะจากซัสแคตเชวันและอัลเบอร์ตาที่พึ่งพาทรัพยากรเป็นหลัก ได้เผยให้เห็นถึงความแตกแยกภายในที่อาจส่งผลต่อการใช้กลยุทธ์ทางการเมืองร่วมกันซับซ้อนยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ รัฐบาลของทรูโดกำลังเผชิญกับแรงกดดันมหาศาลในการสร้างสมดุลระหว่างวินัยทางการคลังกับมาตรการใช้จ่ายเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่น โดยคำมั่นสัญญาในการแจกเงินสด การลดหย่อนภาษี และการปรับปรุงความปลอดภัยที่ชายแดนอาจช่วยบรรเทาปัญหาในระยะสั้น แต่ยังคงความเสี่ยงที่จะทำให้สถานะการคลังของรัฐบาลกลางตึงตัวมากขึ้นท่ามกลางการเติบโตที่ชะลอตัวและหนี้สินที่เพิ่มขึ้น
ด้านดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นในการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากนักลงทุนเตรียมพร้อมสำหรับการตัดสินใจที่สำคัญของธนาคารกลางในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25 จุดของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันพุธ โดยตลาดมองว่ามีโอกาส 94%-97% ที่อัตราดอกเบี้ยจะลดลง แต่ยังคงไม่มั่นใจว่าจะมีการผ่อนปรนต่อไปในปี 2025 หรือไม่ โดยคาดว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยน้อยลงท่ามกลางสัญญาณของความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นภาพรวมที่หลากหลาย โดยกิจกรรมในภาคบริการแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี และ GDP ในไตรมาสที่ 4 อยู่ที่ 3.3% ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรสูงขึ้นและหนุนค่าเงินดอลลาร์ ในขณะเดียวกัน ภาคการผลิตยังคงอ่อนแอ โดยดัชนี PMI ของเดือนธันวาคมลดลงเหลือ 48.3 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 4 ปี เนื่องมาจากความท้าทายที่ต่อเนื่องและความกังวลเรื่องภาษีศุลกากร
อย่างไรก็ตาม ตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง โดยมีหลักฐานแสดงให้เห็นว่าแรงงานสามารถหางานที่สอดคล้องกับทักษะและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ท่ามกลางเฟดที่ให้ความสำคัญกับแนวโน้มผลผลิตมากขึ้น ซึ่งเติบโตโดยเฉลี่ย 1.8% ตั้งแต่ปี 2019 และแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่ดีจากการเพิ่มขึ้นของเครื่องมือ AI โดยการพัฒนาดังกล่าวอาจช่วยชดเชยการขาดแคลนแรงงาน และอาจช่วยบรรเทาความเสี่ยงจากเงินเฟ้อได้
ด้านนักลงทุนพันธบัตรยังคงระมัดระวังก่อนการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย โดยเลือกถือพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นมากกว่า ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อที่อาจยืดเยื้อภายใต้การบริหารของทรัมป์ โดยความคาดหวังเงินเฟ้อที่สูงขึ้นส่งผลให้เกิดแรงเทขายพันธบัตรระยะยาว และดันอัตราผลตอบแทนให้สูงขึ้น ท่ามกลางเส้นทางนโยบายของเฟดที่ยังคงไม่แน่นอน ขณะที่เจ้าหน้าที่ประเมินความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ การเพิ่มขึ้นของผลิตภาพ และความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ ซึ่งจะมีผลต่อแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายการเงินในปี 2025 ต่อไป
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (30Min) CFD USD/CAD
แนวต้านสำคัญ : 1.4246, 1.4247, 1.4249
แนวรับสำคัญ : 1.4242, 1.4241, 1.4239
30Min Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.4237 - 1.4242 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.4242 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.4247 และ SL ที่ประมาณ 1.4235 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.4246 - 1.4251 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.4254 และ SL ที่ประมาณ 1.4240 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.4246 - 1.4251 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1.4246 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.4242 และ SL ที่ประมาณ 1.4253 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.4237 - 1.4242 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.4236 และ SL ที่ประมาณ 1.4248 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Dec 17, 2024 09:36AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 1.4238 | 1.4239 | 1.4242 | 1.4244 | 1.4247 | 1.4249 | 1.4251 |
Fibonacci | 1.4239 | 1.4241 | 1.4242 | 1.4244 | 1.4246 | 1.4247 | 1.4249 |
Camarilla | 1.4244 | 1.4245 | 1.4245 | 1.4244 | 1.4246 | 1.4246 | 1.4247 |
Woodie's | 1.4238 | 1.4239 | 1.4242 | 1.4244 | 1.4247 | 1.4249 | 1.4251 |
DeMark's | - | - | 1.4243 | 1.4244 | 1.4248 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ