บทวิเคราะห์ GBP/USD วันที่ 20 ธันวาคม 2567

Create at 1 day ago (Dec 20, 2024 11:18)

ธนาคารกลางอังกฤษคงดอกเบี้ย 4.75% ท่ามกลางเงินเฟ้อและเศรษฐกิจชะลอตัว

ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ (BoE) คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.75% ในวันพฤหัสบดี โดยเน้นย้ำถึงความระมัดระวังและความรอบคอบในการผ่อนคลายนโยบายการเงิน ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ซับซ้อนซึ่งเผชิญทั้งแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและการชะลอตัวของการเติบโต การตัดสินใจครั้งนี้ไม่ได้เป็นเอกฉันท์ โดยคณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) มีมติแตกเป็น 6 ต่อ 3 เสียง ซึ่งแสดงถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นในหมู่ผู้กำหนดนโยบาย โดยรองผู้ว่าการ Dave Ramsden และสมาชิกอีกสองคนสนับสนุนการปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ซึ่งสะท้อนถึงความท้าทายในการสร้างสมดุลระหว่างการควบคุมเงินเฟ้อและการสนับสนุนเศรษฐกิจที่ซบเซา

อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเป็น 2.6% ในเดือนพฤศจิกายน ยังคงเป็นปัญหาสำคัญ โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของค่าจ้างที่แข็งแกร่งเกินคาดและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากงบประมาณฤดูใบไม้ร่วง ทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงกว่าที่ BoE ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 2% และมีการคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะกลับสู่เป้าหมายได้ในช่วงต้นปี 2027 ซึ่งช้ากว่าที่คาดไว้ก่อนหน้าอย่างมาก แม้อัตราเงินเฟ้อในภาคบริการ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญของเงินเฟ้อพื้นฐาน จะคงที่ที่ 5% แต่การเพิ่มขึ้นของราคาโดยรวม โดยเฉพาะในภาคขนส่งและการผลิต บ่งชี้ถึงความท้าทายด้านต้นทุนที่ยังคงอยู่ ซึ่งสถานการณ์นี้ทำให้ BoE ต้องเผชิญกับทางเลือกที่ยากลำบากในการควบคุมเงินเฟ้อโดยไม่ทำให้เศรษฐกิจที่อ่อนแออยู่แล้วแย่ลง ขณะที่ GDP ได้หดตัวติดต่อกันสองเดือน และคาดว่าในปี 2024 การเติบโตจะอยู่ในระดับต่ำเพียง 1.1%

ทั้งนี้ เศรษฐกิจโลกมีความซับซ้อนเพิ่มขึ้นจากความแตกต่างในนโยบายการเงินทั่วโลก หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ เพิ่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% พร้อมส่งสัญญาณถึงความระมัดระวังในการผ่อนคลายในปี 2025 ซึ่งแตกต่างจากจุดยืนของ BoE อย่างสิ้นเชิง โดยความแตกต่างนี้สร้างความไม่แน่นอนในตลาด ท่ามกลางผลตอบแทนพันธบัตรของสหราชอาณาจักรที่พุ่งสูงขึ้นหลังการประกาศของเฟด ก่อนจะทรงตัวเมื่อนักลงทุนปรับเปลี่ยนความคาดหวังต่อนโยบายของ BoE ปัจจุบัน โดยตลาดคาดว่า BoE จะปรับลดดอกเบี้ยเพียงเล็กน้อยในปี 2025 และมีความเป็นไปได้ต่ำที่จะมีการลดดอกเบี้ยในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งโดยรวมอาจมีการลดอัตราเพียงสองครั้งภายในสิ้นปี

อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจสหราชอาณาจักรเผชิญความท้าทายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อธุรกิจรายงานการลดจำนวนพนักงานและความเชื่อมั่นที่ลดลงอย่างรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงการระบาดใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการขึ้นภาษีในงบประมาณของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง Rachel Reeves เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม โดยผลสำรวจ เช่น S&P Global Flash Composite PMI และรายงานรายไตรมาสของ MakeUK ชี้ให้เห็นถึงการปรับโครงสร้างองค์กร การลดชั่วโมงทำงาน และการไม่จ้างพนักงานทดแทน โดยการจ้างงานที่ลดลงครั้งนี้อยู่ในระดับเดียวกับช่วงวิกฤตการเงินปี 2009 สะท้อนให้เห็นถึงเศรษฐกิจที่ต้องรับมือกับต้นทุนที่สูงขึ้นและการเติบโตที่ถูกจำกัด

ในขณะเดียวกัน ด้านภาคการผลิตยังคงถดถอย โดยผลผลิตลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2020 ตามรายงานของ Confederation of British Industry (CBI) ขณะที่ความเชื่อมั่นภายในประเทศลดลงอย่างมากเนื่องจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากงบประมาณ ส่งผลให้เกิดการยกเลิกโครงการและคำสั่งซื้อในวงกว้าง บริษัทยังคาดการณ์ผลผลิตในอนาคตที่อ่อนแอลง ซึ่งเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับความยืดหยุ่นของเศรษฐกิจอังกฤษ

ด้านดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงแข็งค่าใกล้ระดับสูงสุดในรอบสองปี หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยล่าสุด พร้อมส่งสัญญาณถึงแนวทางการผ่อนคลายนโยบายการเงินที่ระมัดระวังในปี 2025 สะท้อนถึงความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ท่ามกลางการคาดการณ์ถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเหลือเพียงสองครั้งในปีหน้า ลดลงจากการคาดการณ์ก่อนหน้าที่สี่ครั้ง

ทั้งนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดอยู่ที่ช่วง 4.25%-4.50% สอดคล้องกับรอบการคุมเข้มทางการเงินเพื่อลดแรงกดดันจากเงินเฟ้อ โดยเฟดคาดการณ์ว่าปี 2025 จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยเพียง 50 จุดฐาน และมีการปรับเป้าหมายนโยบายระยะยาวให้สูงขึ้น นักวิเคราะห์จาก Macquarie คาดว่ารอบการลดอัตราดอกเบี้ยอาจสิ้นสุดในช่วงเดือนมีนาคมหรือพฤษภาคม และจะทรงตัวที่ช่วง 4.0%-4.25%

เศรษฐกิจสหรัฐแสดงความยืดหยุ่นอย่างชัดเจน โดย GDP ในไตรมาส 3 ถูกปรับเพิ่มเป็น 3.3% แบบปีต่อปี ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่แข็งแกร่งและการเติบโตของการส่งออกที่เพิ่มขึ้น โดยการใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจ เติบโตในอัตราที่น่าประหลาดใจถึง 3.7% สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจแม้จะมีความไม่แน่นอนในระดับโลก ท่ามกลางตลาดแรงงานที่แสดงความยืดหยุ่นเ โดยพบการยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงเกินความคาดหมาย บ่งชี้ถึงการชะลอตัวที่เกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่ Jerome Powell ประธานเฟดแสดงความมั่นใจ โดยเน้นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่งและสามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยได้สำเร็จ

ด้านตลาดที่อยู่อาศัยและยานยนต์ส่งสัญญาณที่หลากหลาย โดยอัตราดอกเบี้ยจำนองปรับตัวสูงขึ้นหลังจากลดลงต่อเนื่องสามสัปดาห์ สะท้อนถึงท่าทีระมัดระวังของเฟด อย่างไรก็ตาม ยอดขายบ้านพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบแปดเดือนในเดือนพฤศจิกายน ขณะที่ยอดขายรถยนต์ในเดือนธันวาคมคาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากส่วนลดที่มากขึ้น จึงอาจส่งผลให้คู่สกุล GBP/USD คาดว่าจะมีแนวโน้มซื้อขายขึ้นลงในกรอบปัจจุบันไปจนถึงกรอบบนได้มากขึ้นอีกเล็กน้อยในช่วงนี้

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (15Min) CFD GBP/USD

แนวต้านสำคัญ : 1.2484, 1.2485, 1.2488

แนวรับสำคัญ : 1.2480, 1.2479, 1.2476               

15Min Outlook                  

วิเคราะห์ GBP/USD ที่มา: TradingView                                     

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.2474 - 1.2480 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.2480 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2484 และ SL ที่ประมาณ 1.2471 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2484 - 1.2490 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2497 และ SL ที่ประมาณ 1.2477 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2484 - 1.2490 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้าน 1.2484 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2478 และ SL ที่ประมาณ 1.2493 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.2474 - 1.2480 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2470 และ SL ที่ประมาณ 1.2487 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Dec 20, 2024 10:57AM GMT+7

Name
S3
S2
S1
Pivot Points
R1
R2
R3
Classic 1.2473 1.2476 1.2478 1.2482 1.2484 1.2488 1.249
Fibonacci 1.2476 1.2479 1.248 1.2482 1.2484 1.2485 1.2488
Camarilla 1.2479 1.2479 1.248 1.2482 1.2481 1.2482 1.2482
Woodie's 1.2473 1.2476 1.2478 1.2482 1.2484 1.2488 1.249
DeMark's - - 1.2477 1.2482 1.2483 - -

ที่มา: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิกที่นี่
รู้เท่าทันสถานการณ์โลกและบทวิเคราะห์เทคนิคขั้นสูง: คลิกที่นี่
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES