ธนาคารกลางญี่ปุ่นตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งล่าสุด

ค่าเงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนค่าลงแตะระดับ 156 เยนต่อดอลลาร์ นับเป็นการอ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบ 4 เดือน หลังจากที่มีการประกาศจากธนาคารกลางญี่ปุ่นว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.25% ตามที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ การประชุม FOMC ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ผ่านมาได้ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐได้ออกมาให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายทางการเงินในอนาคตว่าอาจจำเป็นที่จะต้องชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงไปก่อน เนื่องจากแนวโน้มของอัตราเงินเฟ้อได้เพิ่มขึ้นอีกครั้งแม้ว่าจะเพียงเล็กน้อยก็ตาม โดยทางธนาคารกลางยังจำเป็นต้องกดดันอัตราเงินเฟ้อต่อไปเพื่อให้แน่ใจว่าอัตราเงินเฟ้อใจคงอยู่ในกรอบเป้าหมายที่ธนาคารกลางได้กำหนดไว้ โดยนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารการสหรัฐจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกเพียง 2 ครั้งในปีหน้า ลดลงจากการคาดการณ์ว่าจะปรับลด 4 ครั้ง

ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ประมาณ 0.25% ในการประชุมครั้งสุดท้ายของปี โดยคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 โดยสมาชิกคณะกรรมการ นาโอกิ ทามูระ เรียกร้องให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25bps อย่างไรก็ตาม ทางธนาคารกลางจำเป็นต้องมีเวลาเพิ่มเติมในการประเมินความเสี่ยงบางประการ โดยเฉพาะนโยบายเศรษฐกิจของสหรัฐภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมป์ และแนวโน้มค่าจ้างในปีหน้า โดยมีคำยืนยันจากผู้กำหนดนโยบายบางคนว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่นยังสามารถเติบโตใกล้เคียงกับการเติบโตในระยะกลาง การบริโภคส่วนบุคคลยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยได้รับความช่วยเหลือจากผลกำไรขององค์กรและการใช้จ่ายของธุรกิจที่ปรับตัวดีขึ้น ในขณะเดียวกัน การส่งออกและผลผลิตภาคอุตสาหกรรมยังคงทรงตัว เมื่อพิจารณาถึงอัตราเงินเฟ้อ ตัวเลขปีต่อปีอยู่ระหว่าง 2.0% ถึง 2.5% ซึ่งขับเคลื่อนโดยราคาบริการที่สูงขึ้น คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นในระดับปานกลาง และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐานจะเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ค่าจ้างในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 2.6% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนตุลาคม ซึ่งถือเป็นการเติบโตที่ช้าที่สุดตั้งแต่เดือนพฤษภาคม สอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด ในขณะเดียวกัน ค่าจ้างจริงที่ปรับตามอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญของความสามารถในการซื้อของผู้บริโภค ยังคงทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนตุลาคมในปี 2023 โดยเสถียรภาพของการปรับขึ้นค่าจ้างนี้ช่วยสนับสนุนความคาดหวังต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางประเทศญี่ปุ่นในเดือนต่อๆไป แม้ว่าจะมีการคาดการณ์จากหลายแหล่งข้อมูลว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นในเดือนมกราคมหรือกุมภาพันธ์ก็ตาม

ความคิดเห็นจากผู้ว่าการ BoJ คาซูโอะ อูเอดะ ระบุเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ เนื่องจากเศรษฐกิจสามารถพัฒนาและเติบโตได้ตามการคาดการณ์ อย่างไรก็ตาม โตโยอากิ นากามูระ สมาชิกคณะกรรมการ BoJ เสนอให้มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม เนื่องจากเห็นความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจภานในประเทศ โดยเฉพาะ ค่าล่วงเวลา ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญของความแข็งแกร่งขององค์กร ฟื้นตัวขึ้นในเดือนตุลาคม โดยเพิ่มขึ้น 1.4% หลังจากที่ลดลง 0.9% ในเดือนก่อนหน้า

PMI ภาคบริการของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นแตะระดับ 51.4 ในเดือนธันวาคม จาก 50.5 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน นับเป็นการขยายตัว 2 เดือนติดต่อกัน เนื่องจากธุรกิจเกิดใหม่เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 4 เดือน และการจ้างงานขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน สินค้าส่งออกชะลอตังลงเล็กน้อย เนื่องจากอุปสงค์หดตัวลงท่ามกลางแรงกดดันทางการค้าทั่วโลก ในด้านราคาต้นทุนวัตถุดิบเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นในภาคการบริการเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังมีความกังวลเกี่ยวกับข้อจำกัดด้านแรงงานและผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี ยังคงผันผวนอยู่ที่ประมาณ 1.05% หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่นคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.25% ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น คาซูโอะ อูเอดะ กล่าวในการแถลงข่าวหลังการประชุมว่า การตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนั้นขึ้นอยู่กับแนวโน้มค่าจ้าง ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจต่างประเทศ และนโยบายของรัฐบาลสหรัฐฯ ในชุดต่อไป ปัจจุบัน นักลงทุนกำลังคาดเดาว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นอาจชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนมกราคม เพื่อรอดูแนวโน้มเศรษฐกิจเพิ่มเติม ในขณะที่ ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว