นักลงทุนจับตาดูความคิดเห็นของธนาคารกลางแคนาดาในปีหน้า

ดอลลาร์แคนาดาอ่อนค่าลงแตะระดับ 1.44 ต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นการอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปี 2020 โดยนักลงทุนต่างจับตาดูข้อมูล GDP ที่อ่อนแอ ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม GDP ของแคนาดาที่คาดว่าจะหดตัวลง 0.1% ยังคงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเร่งที่ช่วยให้เหล่านักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางแคนาดาอาจจำเป็นต้องลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมภายในปี 2025 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศที่ยังคงอ่อนแอ ในขณะที่แรงกดดันจากสหรัฐอเมริกาเรื่องการปรับเส้นภาษีศุลกากร ทำให้แคนาดาซึ่งเป็นประเทศหลักที่มีดุลการค้ากับสหรัฐอาจจำเป็นต้องปรับตัวเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถค้าขายต่อไปได้

ดัชนีราคาวัตถุดิบในแคนาดาลดลง 0.5% เมื่อเทียบเป็นรายเดือนในเดือนพฤศจิกายน นับเป็นการลดลงหลังจากการเพิ่มขึ้น 4.0% ในเดือนตุลาคม นำโดยราคาผลิตภัณฑ์ที่มีความเกี่ยวข้องด้านพลังงานที่ลดลง 2.2% โดยน้ำมันดิบยังคงเป็นอัตราส่วนที่มีการลดลงมากที่สุดถึง 2.7% อย่างอย่างไรก็ตาม ราคาแร่โลหะกับปรับตัวเพิ่มขึ้น 36.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยเฉพาะโลหะในกลุ่มทองคำ, เงินและแพลตตินั่ม ซึ่งอาจนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของต้นทุนวัตถุดิบในภาคการผลิต

GDP ของแคนาดาหดตัว 0.1% เมื่อเทียบเป็นรายเดือนในเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากผลผลิตที่ลดลงในหลายอุตสาหกรรม และอยากได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ภายนอกที่เริ่มชะลอตัวลงนอกจากนี้ ปัญหาเกี่ยวกับการใช้จ่ายในภาคครัวเรือนยังส่งผลให้บริษัทต่างๆ มีกำไรน้อยลง อย่างไรก็ตาม การเติบโตของภาคการบริการ โดยเฉพาะด้านอาหาร, อสังหาริมทรัพย์ และการให้เช่า เติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ธนาคารกลางแคนาดาได้ปรับการคาดการณ์การเติบโตของ GDP เป็น 1.7% ในปี 2025 (ลดลงจาก 1.9%) และ 2.1% ในปี 2026 (ลดลงจาก 2.2%) ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ

ยอดขายปลีกในแคนาดาไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อนหน้าในเดือนพฤศจิกายน หลังจากการเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนตุลาคม โดยการเพิ่มขึ้นในเดือนที่ผ่านมาได้รับแรงหนุนมาจากการขายรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ซึ่งรวมไปถึงรถยนต์มือสองที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ในขณะเดียวกัน ยอดขายน้ำมันตามสถานีขายน้ำมั้นลดลง ซึ่งถือเป็นการลดลงเดือนที่ 6 ติดต่อกัน เช่นเดียวกันกับยอดขายอาหารและเครื่องดื่ม เนื่องจากยอดขายที่ลดลงของซูเปอร์มาร์เก็ตส่งผลกระทบต่อยอดขายสินค้าภายในด้วย 

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลแคนาดาอายุ 10 ปีลดลงเหลือ 3.28% ซึ่งสอดคล้องกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ที่ลดลง เนื่องจากข้อมูลเงินเฟ้ออ่อนตัวกว่าที่คาด อย่างไรก็ตามอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในเดือนพฤศจิกายนอยู่ที่ 2.7% สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.5% อาจทำให้ธนาคารกลางแคนาดายืดเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง นอกจากนี้ การที่ธนาคารกลางแคนาดาปรับลดอัตราดอกเบี้ย 50bps ลงเหลือ 3.25% เมื่อไม่นานมานี้ ท่ามกลางอัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้นและการเติบโตที่ซบเซา แสดงให้เห็นความพยายามในการรักษาสมดุลระหว่างภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการควบคุมเงินเฟ้อเงินที่ยังคงทรงตัวต่อเนื่อง โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางแคนาดาทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระหว่างสหรัฐและแคนาดากว้างมากขึ้นด้วย