ราคาถั่วเหลืองลดลงจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นและผลผลิตในบราซิลที่สูงขึ้น

ถั่วเหลืองมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากการปิดสถานะขายชอร์ตและการซื้อเชิงเทคนิค สภาพอากาศที่เอื้ออำนวยในพื้นที่ส่วนใหญ่ของบราซิลช่วยสนับสนุนราคา แม้ว่าภาคใต้ของบราซิลและบางส่วนของอาร์เจนตินาอาจเผชิญกับสภาพอากาศแห้งเร็ว ๆ นี้ แนวโน้มสภาพอากาศดังกล่าวยังช่วยหนุนราคากากถั่วเหลือง เนื่องจากอาร์เจนตินาเป็นผู้ส่งออกกากถั่วเหลืองรายใหญ่ที่สุด อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันถั่วเหลืองอ่อนตัวลงหลังจากไม่สามารถผ่านระดับแนวต้านทางเทคนิคได้ USDA จะเผยแพร่การประมาณการอุปสงค์ อุปทาน และผลผลิตล่าสุดในวันที่ 10 มกราคม และ CONAB จะเผยแพร่การคาดการณ์ของบราซิลในวันที่ 14 มกราคม

สภาคองเกรสได้ขยายกฎหมายฟาร์มปี 2018 ไปจนถึงเดือนกันยายน 2025 โดยจัดสรรงบประมาณ 20.78 พันล้านดอลลาร์สำหรับการบรรเทาภัยพิบัติและ 10 พันล้านดอลลาร์สำหรับความช่วยเหลือฉุกเฉินแก่เกษตรกร ความช่วยเหลือดังกล่าวมุ่งแก้ปัญหาต้นทุนการผลิตสูง ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่ำ และอัตราดอกเบี้ยที่สูง ตลาดธัญพืชและเมล็ดน้ำมัน รวมถึงถั่วเหลือง ประสบปัญหาราคาลดลงแม้อุปสงค์จะแข็งแกร่ง ขณะที่ผลผลิตที่ดีในสหรัฐฯ และอเมริกาใต้กดดันราคา โดยถั่วเหลืองลดลง 22.9% ในปี 2024 ซึ่งเป็นการลดลงที่รุนแรงที่สุดตั้งแต่ปี 2008 และลดลง 34.3% ในรอบสองปี ซึ่งมากที่สุดตั้งแต่ปี 2000 ท่ามกลางราคากากถั่วเหลืองที่ลดลง 20.3% ซึ่งเป็นการลดลงสูงสุดตั้งแต่ปี 2015 และน้ำมันถั่วเหลืองที่ลดลง 17.8%

ด้านสมาคมถั่วเหลืองแห่งอเมริกา (ASA) และพันธมิตรได้รับเงินทุนจาก USDA ผ่านโครงการส่งเสริมการเกษตรระดับภูมิภาค (RAPP) เพื่อขยายการเข้าถึงตลาดโลกสำหรับถั่วเหลืองสหรัฐฯ โดยเงินทุนจะสนับสนุนกลยุทธ์การกระจายความเสี่ยงและการเติบโตเพื่อตอบสนองความต้องการโปรตีนที่เพิ่มขึ้นและเสริมความมั่นคงทางโภชนาการในแอฟริกา ละตินอเมริกา และเอเชีย

สำหรับกระทรวงเกษตรและกิจการชนบทของจีน (MARA) ได้ออกใบรับรองความปลอดภัยสำหรับพืชดัดแปลงยีน 17 สายพันธุ์ รวมถึงถั่วเหลือง ข้าวสาลี ข้าวโพด ข้าว และฝ้าย โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มผลผลิต ลดการพึ่งพาการนำเข้า และเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งการดัดแปลงยีนเป็นการเปลี่ยนแปลงยีนที่มีอยู่เพื่อปรับปรุงลักษณะเฉพาะและถือว่ามีความเสี่ยงน้อยกว่า รวมถึงต่างจากการตัดต่อพันธุกรรม หลังจากจีนเคยอนุมัติถั่วเหลืองดัดแปลงยีนที่มีกรดโอเลอิกสูงในปี 2023 ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มการปรับปรุงประสิทธิภาพและคุณสมบัติด้านสุขภาพ

ด้านการผลิตถั่วเหลืองของบราซิลยังคงขยายตัว โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.6% ในฤดูกาลนี้เป็น 6.1 พันล้านบุชเชล แม้จะเป็นอัตราการเติบโตที่ช้าที่สุดในรอบทศวรรษ แต่ยังคงทำสถิติสูงสุด โดยสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยช่วยสนับสนุนการเติบโต ขณะที่อาร์เจนตินามีศักยภาพเพิ่มขึ้นแม้จะเผชิญความเสี่ยงจากลานีญาและศัตรูพืช ท่ามกลางพื้นที่ปลูกถั่วเหลืองของบราซิลที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 7% ซึ่งเป็นการขยายตัวมากที่สุดตั้งแต่ปี 2016 โดยศักยภาพการเติบโตระยะยาวของบราซิลยังคงแข็งแกร่ง จากการครอบครองพื้นที่ทุ่งหญ้าประมาณ 70 ล้านเอเคอร์ที่สามารถเปลี่ยนเป็นพื้นที่เพาะปลูกได้โดยไม่ต้องตัดไม้ทำลายป่า และอีก 40 ล้านเอเคอร์สำหรับการปลูกสองรอบต่อปี

ทั้งนี้ บริษัทที่ปรึกษา StoneX ปรับเพิ่มการคาดการณ์ผลผลิตถั่วเหลืองของบราซิลสำหรับปี 2024-2025 เป็น 171.4 ล้านเมตริกตัน เพิ่มขึ้นจาก 166.2 ล้านเมตริกตัน โดยอ้างถึงพื้นที่เพาะปลูกที่เพิ่มขึ้นและผลผลิตที่สูงขึ้น 14.4% จากฤดูกาลก่อน การส่งออกถั่วเหลืองของบราซิลคาดว่าจะสูงถึง 107 ล้านตัน ซึ่งเกินกว่าที่ประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ยังคงจับตาดูความเสี่ยงจากสภาพอากาศในช่วงปลายฤดูกาล ซึ่งการพัฒนาดังกล่าวตอกย้ำความเป็นผู้นำของบราซิลในตลาดถั่วเหลืองโลก

ด้านราคาถั่วเหลืองในตลาดโลกประสบกับการลดลงอย่างต่อเนื่องตลอดปี 2024 โดยมีการคาดการณ์ว่าราคาจะยังคงต่ำกว่าระดับของปีที่ผ่านมาในช่วงไตรมาสแรกของปี 2025 จากการคาดการณ์ถึงอุปทานที่ดี เนื่องจากบราซิลและอาร์เจนตินาคาดว่าจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้อย่างมากในฤดูกาลนี้ โดยการประมาณการในปัจจุบัน ซึ่งแตกต่างจากผลการดำเนินงานที่ต่ำกว่าในปีที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นถึงผลผลิตที่เพียงพอ ซึ่งทำให้เหลือช่องว่างไม่มากสำหรับการที่ราคาจะขึ้นไปเกิน 10 ดอลลาร์ต่อบุชเชลในตลาด Chicago Board of Trade ขณะที่สัญญาล่วงหน้าของเดือนมกราคม 2024 เคยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 12 ดอลลาร์ต่อบุชเชล สะท้อนถึงการลดลงของราคาอย่างเห็นได้ชัด

ทั้งนี้ ผลผลิตถั่วเหลืองของสหรัฐฯ ที่อุดมสมบูรณ์ยังได้เพิ่มแรงกดดันต่อราคา ข้อมูลจาก Valor ชี้ให้เห็นถึงการลดลงของราคามากกว่า 25% ภายในปีที่ผ่านมา นักวิเคราะห์คาดว่าการพยากรณ์อากาศที่ดีและผลผลิตที่แข็งแกร่งจะยังคงดำเนินต่อไปจนถึงปี 2025 ซึ่งจะเสริมการคาดการณ์อุปทานที่เพียงพอ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจาก StoneX สนับสนุนแนวโน้มนี้ โดยชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ของการเก็บเกี่ยวที่ทำลายสถิติในบราซิลและผลผลิตที่ดีขึ้นในอาร์เจนตินา ซึ่งจะรักษาสภาวะอุปทานเกินและจำกัดการเพิ่มขึ้นของราคา ท่ามกลางความต้องการทั่วโลกที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5% ในช่วงปี 2024/25 สองเท่าของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง โดยนักวิเคราะห์เตือนว่า ความต้องการที่เพิ่มขึ้นไม่เพียงพออาจส่งผลให้มีสต็อกเพิ่มมากขึ้นและกดดันราคาลดลงเพิ่มเติม

อย่างไรก็ดี แม้ว่าราคาจะลดลง แต่ยอดขายของผลผลิตในปี 2024/25 กลับเติบโตเร็วกว่าปีที่แล้ว โดยเกษตรกรชาวบราซิลซึ่งกังวลเกี่ยวกับข้อจำกัดในการจัดเก็บและราคาที่อาจลดลง ได้ขายถั่วเหลืองที่เก็บเกี่ยวได้ในเร็วๆ นี้ไปแล้ว 35% ซึ่งสูงกว่ายอดขาย 20% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และสูงกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ 30% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ราคาจะลดลง 10% ถึง 15% เมื่อการเก็บเกี่ยวเริ่มขึ้นในอเมริกาใต้ ส่งผลให้ความท้าทายในการจัดเก็บเนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานขาดแคลนรุนแรงขึ้น

ด้านกิจกรรมการส่งออกสะท้อนถึงสัญญาณที่หลากหลาย โดย USDA รายงานการขายส่งออกรายสัปดาห์ที่แข็งแกร่ง จากการขายถั่วเหลือง 2.62 ล้านตันสำหรับปีการตลาด 2024/25 โดยจีนเป็นผู้นำในการซื้อครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ผู้ค้ายังมีความระมัดระวังเนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมืองและความแข็งแกร่งของดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งทำให้การส่งออกจากสหรัฐฯ มีความสามารถในการแข่งขันน้อยลงทั่วโลก ขณะที่การแข็งค่าของดอลลาร์ในช่วงนี้อาจเพิ่มแรงกดดันต่อราคา

อย่างไรก็ดี สัญญาซื้อขายล่วงหน้าถั่วเหลืองมีการปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อเข้าสู่ปี 2025 โดยราคาผันผวนท่ามกลางความไม่แน่นอนของตลาด ซึ่งสัญญามีการซื้อขายสูงขึ้นเล็กน้อย โดยราคาสปอตอยู่ที่ประมาณ 9.56 ถึง 9.57 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ขณะที่สัญญาล่วงหน้าอาหารสัตว์จากถั่วเหลืองเพิ่มขึ้น 3 ถึง 5.20 ดอลลาร์ต่อตัน ส่วนสัญญาล่วงหน้าของน้ำมันถั่วเหลืองมีการลดลงเล็กน้อย โดยสภาพอากาศยังคงเป็นตัวแปรสำคัญ ซึ่งคาดว่าจะมีฝนตกในบางส่วนของอาร์เจนตินา และอาจยังคงมีความแห้งแล้งในบราซิลตอนใต้ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลผลิตพืชผล

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์เน้นย้ำถึงความสำคัญของการติดตามการตัดสินใจปลูกถั่วเหลืองในสหรัฐอเมริกาในปี 2025 โดยราคาถั่วเหลืองที่ลดลงอาจกระตุ้นให้เกษตรกรเปลี่ยนพื้นที่เพาะปลูกไปปลูกข้าวโพดแทน ซึ่งอาจช่วยเปิดทางให้ราคาฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี และแม้ว่าราคาในปัจจุบันจะอ่อนตัว แต่กิจกรรมการส่งออก รูปแบบสภาพอากาศ และแนวโน้มการปลูกถั่วเหลืองจะส่งผลต่อทิศทางของตลาดถั่วเหลืองในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1D) CFD US Soybeans Futures - Jan 25 (ZSF5)

แนวต้านสำคัญ : 1,014.5, 1,030.0, 1,054.7

แนวรับสำคัญ : 965.0, 949.5, 924.7   

1D Outlook

ที่มา: TradingView

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 950.0 - 965.0 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 965.0 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1,032.5 และ SL ที่ประมาณ 942.5 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1,014.5 - 1,029.5 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1,054.7 และ SL ที่ประมาณ 957.5 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1,014.5 - 1,029.5 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1,014.5 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 965.0 และ SL ที่ประมาณ 1,037.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 950.0 - 965.0 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 859.7 และ SL ที่ประมาณ 1,022.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Jan 3, 2025 09:46AM GMT+7