RBA ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย เงินเฟ้อชะลอ-อสังหาฯ ร่วงครั้งแรกใน 2 ปี
ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) กำลังพิจารณาผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในอนาคต เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อแสดงสัญญาณชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตามรายงานการประชุมเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดย RBA ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 4.35% และไม่ได้ให้แนวทางชัดเจนเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต แม้ผู้กำหนดนโยบายจะยอมรับว่าอัตราเงินเฟ้อเริ่มลดลง แต่ยังคงอยู่สูงกว่าช่วงเป้าหมายที่ 2–3% และไม่น่าจะกลับเข้าสู่ช่วงเป้าหมายได้ก่อนปี 2026
แม้การเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอและการเติบโตของค่าจ้างที่ชะลอตัวจะช่วยลดความเสี่ยงของเงินเฟ้อ แต่การใช้จ่ายของผู้บริโภคที่แข็งแกร่งและตลาดแรงงานที่มั่นคงยังคงสร้างความกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันด้านราคา อย่างไรก็ตาม RBA ส่งสัญญาณว่าอาจพิจารณาผ่อนคลายนโยบายหากแนวโน้มเงินเฟ้อสอดคล้องกับเป้าหมาย โดยนักวิเคราะห์คาดว่าการปรับลดดอกเบี้ยอาจเริ่มขึ้นในช่วงกลางปี 2025 และเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของออสเตรเลีย ราคาบ้านลดลงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบสองปีในเดือนธันวาคม สะท้อนถึงปัญหาด้านความสามารถในการซื้อเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยจำนองที่สูงและจำนวนผู้ขายที่เพิ่มขึ้น ข้อมูลจาก CoreLogic ชี้ว่าราคาบ้านทั่วประเทศลดลง 0.1% โดยซิดนีย์และเมลเบิร์นเป็นผู้นำการลดลงที่ 0.6% และ 0.7% ตามลำดับ ขณะที่เมืองอื่น ๆ ยังคงมีการเติบโตเล็กน้อย โดยแม้ว่าราคาจะลดลงในเดือนธันวาคม แต่ปี 2024 โดยรวมยังเพิ่มขึ้น 4.9% หรือประมาณ 38,000 ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อบ้านหนึ่งหลัง โดยราคากลางในซิดนีย์แตะที่ 1.2 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย และมูลค่ารวมของอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 851 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลียจนถึงเดือนกันยายนในปีที่ผ่านมา แตะระดับ 11.3 ล้านล้านดอลลาร์ นักวิเคราะห์เตือนว่าการลดอัตราดอกเบี้ยอาจไม่กระตุ้นการเติบโตของราคาบ้านอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยยังคงสูง ขณะที่จากการสำรวจของ Reuters คาดการณ์ว่าราคาบ้านจะเพิ่มขึ้นประมาณ 5% ในปี 2025 และ 2026 ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของประชากรและอุปทานที่จำกัด
ด้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบสองปี เนื่องจากนักลงทุนรอข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธันวาคม เพื่อติดตามแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยนักลงทุนจับตาดูรายงานการจ้างงานเพื่อประเมินสุขภาพเศรษฐกิจ ขณะที่เจ้าหน้าที่ Fed หลายคนมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ ซึ่งอาจย้ำถึงความจำเป็นในการควบคุมเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงแข็งค่าจากการคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยน้อยลงในปีนี้ นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำลังจะเข้ารับตำแหน่ง เช่น การเรียกเก็บภาษีนำเข้าสูง การลดภาษี และข้อจำกัดด้านการย้ายถิ่นฐาน ได้หนุนสถานะเงินดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย นักวิเคราะห์เตือนว่าแนวโน้มดอลลาร์ที่แข็งค่าอาจดำเนินต่อไปท่ามกลางความไม่แน่นอนทางนโยบาย
ประธาน Fed สาขาริชมอนด์ โทมัส บาร์กิ้น เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการคงอัตราดอกเบี้ยที่เข้มงวดต่อไป จนกว่าเงินเฟ้อจะแสดงสัญญาณชัดเจนว่ากลับสู่เป้าหมาย 2% ในการประชุมที่สมาคมธนาคารแมรีแลนด์ บาร์กิ้นเตือนถึงความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่อาจสูงขึ้น เนื่องจากความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจและแรงกดดันด้านค่าจ้าง โดยบาร์กิ้นคาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคและความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ อย่างไรก็ตาม นโยบายการค้าและการย้ายถิ่นฐานอาจเพิ่มแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ และคาดว่าตลาดแรงงานมีแนวโน้มจ้างงานมากกว่าการเลิกจ้าง ส่งผลให้เศรษฐกิจยังคงมีแรงหนุนแต่มีความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อสูง
สำหรับภาคการผลิตของสหรัฐฯ แสดงสัญญาณการฟื้นตัวในเดือนธันวาคม โดยการผลิตและคำสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้น แม้ว่าการเติบโตจะยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตจาก ISM เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเก้าเดือน สะท้อนถึงการฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม ความเห็นจากผู้ประกอบการบางรายยังคงระบุถึงการชะลอตัวและปริมาณการผลิตที่ลดลง ท่ามกลางภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ทั้ง 6 ภาคที่ไม่มีการรายงานการเติบโต สะท้อนถึงความท้าทายอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ธุรกิจกำลังเตรียมรับนโยบายใหม่จากรัฐบาลทรัมป์ ซึ่งอาจรวมถึงการลดภาษีและการผ่อนคลายกฎระเบียบที่ช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ภาษีนำเข้าที่สูงขึ้นอาจเพิ่มต้นทุนวัตถุดิบและสร้างแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ รวมถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเติบโตในอนาคต
ทั้งนี้ สัปดาห์นี้มีเหตุการณ์สำคัญหลายอย่าง รวมถึงข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ และรายงานการประชุมของ Fed โดยรายงานการจ้างงานในวันศุกร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 154,000 ตำแหน่งในเดือนธันวาคม ซึ่งอัตราว่างงานคาดว่าจะคงที่ที่ 4.2% โดยข้อมูลแรงงานล่าสุดมีความผันผวนเนื่องจากปัจจัยรบกวน แต่การเพิ่มขึ้น 227,000 ตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายนยังคงบ่งชี้ถึงความยืดหยุ่น ขณะที่นักลงทุนจะจับตาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดแรงงานก่อนการรายงานในวันศุกร์ เช่น การจ้างงานภาคเอกชนและการยื่นขอรับสวัสดิการว่างงาน
โดยในวันพุธ Fed จะเปิดเผยรายงานการประชุมเมื่อเดือนธันวาคม ซึ่งได้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงติดต่อกันเป็นครั้งที่สามที่ 0.25% นักวิเคราะห์คาดว่ารายงานดังกล่าวจะเผยให้เห็นถึงความเห็นที่แตกต่างเกี่ยวกับทิศทางนโยบาย โดยเฉพาะในเรื่องนโยบายการคลัง การค้า และการย้ายถิ่นฐานภายใต้รัฐบาลใหม่ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ Fed หลายคน รวมถึงผู้ว่าการคุกและวอลเลอร์ มีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ ซึ่งอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของตลาด
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD AUD/USD
แนวต้านสำคัญ : 0.6233, 0.6235, 0.6240
แนวรับสำคัญ : 0.6223, 0.6221, 0.6216
1H Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 0.6215 - 0.6223 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 0.6223 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.6236 และ SL ที่ประมาณ 0.6211 รือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 0.6233 - 0.6241 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.6248และ SL ที่ประมาณ 0.6219 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 0.6233 - 0.6241 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 0.6233 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.6223 และ SL ที่ประมาณ 0.6245 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 0.6215 - 0.6223 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.6205 และ SL ที่ประมาณ 0.6237 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Jan 6, 2025 08:44AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 0.6212 | 0.6216 | 0.6224 | 0.6228 | 0.6236 | 0.624 | 0.6248 |
Fibonacci | 0.6216 | 0.6221 | 0.6223 | 0.6228 | 0.6233 | 0.6235 | 0.624 |
Camarilla | 0.6229 | 0.623 | 0.6231 | 0.6228 | 0.6233 | 0.6234 | 0.6235 |
Woodie's | 0.6214 | 0.6217 | 0.6226 | 0.6229 | 0.6238 | 0.6241 | 0.625 |
DeMark's | - | - | 0.6226 | 0.6229 | 0.6238 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ