บทวิเคราะห์ AUD/USD วันที่ 6 มกราคม 2568

Create at 2 days ago (Jan 06, 2025 09:54)

RBA ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย เงินเฟ้อชะลอ-อสังหาฯ ร่วงครั้งแรกใน 2 ปี

ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) กำลังพิจารณาผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในอนาคต เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อแสดงสัญญาณชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตามรายงานการประชุมเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา โดย RBA ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 4.35% และไม่ได้ให้แนวทางชัดเจนเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต แม้ผู้กำหนดนโยบายจะยอมรับว่าอัตราเงินเฟ้อเริ่มลดลง แต่ยังคงอยู่สูงกว่าช่วงเป้าหมายที่ 2–3% และไม่น่าจะกลับเข้าสู่ช่วงเป้าหมายได้ก่อนปี 2026

แม้การเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอและการเติบโตของค่าจ้างที่ชะลอตัวจะช่วยลดความเสี่ยงของเงินเฟ้อ แต่การใช้จ่ายของผู้บริโภคที่แข็งแกร่งและตลาดแรงงานที่มั่นคงยังคงสร้างความกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันด้านราคา อย่างไรก็ตาม RBA ส่งสัญญาณว่าอาจพิจารณาผ่อนคลายนโยบายหากแนวโน้มเงินเฟ้อสอดคล้องกับเป้าหมาย โดยนักวิเคราะห์คาดว่าการปรับลดดอกเบี้ยอาจเริ่มขึ้นในช่วงกลางปี 2025 และเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของออสเตรเลีย ราคาบ้านลดลงเป็นครั้งแรกในรอบเกือบสองปีในเดือนธันวาคม สะท้อนถึงปัญหาด้านความสามารถในการซื้อเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยจำนองที่สูงและจำนวนผู้ขายที่เพิ่มขึ้น ข้อมูลจาก CoreLogic ชี้ว่าราคาบ้านทั่วประเทศลดลง 0.1% โดยซิดนีย์และเมลเบิร์นเป็นผู้นำการลดลงที่ 0.6% และ 0.7% ตามลำดับ ขณะที่เมืองอื่น ๆ ยังคงมีการเติบโตเล็กน้อย โดยแม้ว่าราคาจะลดลงในเดือนธันวาคม แต่ปี 2024 โดยรวมยังเพิ่มขึ้น 4.9% หรือประมาณ 38,000 ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อบ้านหนึ่งหลัง โดยราคากลางในซิดนีย์แตะที่ 1.2 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย และมูลค่ารวมของอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 851 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลียจนถึงเดือนกันยายนในปีที่ผ่านมา แตะระดับ 11.3 ล้านล้านดอลลาร์ นักวิเคราะห์เตือนว่าการลดอัตราดอกเบี้ยอาจไม่กระตุ้นการเติบโตของราคาบ้านอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยยังคงสูง ขณะที่จากการสำรวจของ Reuters คาดการณ์ว่าราคาบ้านจะเพิ่มขึ้นประมาณ 5% ในปี 2025 และ 2026 ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของประชากรและอุปทานที่จำกัด

ด้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบสองปี เนื่องจากนักลงทุนรอข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธันวาคม เพื่อติดตามแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยนักลงทุนจับตาดูรายงานการจ้างงานเพื่อประเมินสุขภาพเศรษฐกิจ ขณะที่เจ้าหน้าที่ Fed หลายคนมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ ซึ่งอาจย้ำถึงความจำเป็นในการควบคุมเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงแข็งค่าจากการคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยน้อยลงในปีนี้ นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่กำลังจะเข้ารับตำแหน่ง เช่น การเรียกเก็บภาษีนำเข้าสูง การลดภาษี และข้อจำกัดด้านการย้ายถิ่นฐาน ได้หนุนสถานะเงินดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย นักวิเคราะห์เตือนว่าแนวโน้มดอลลาร์ที่แข็งค่าอาจดำเนินต่อไปท่ามกลางความไม่แน่นอนทางนโยบาย

ประธาน Fed สาขาริชมอนด์ โทมัส บาร์กิ้น เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการคงอัตราดอกเบี้ยที่เข้มงวดต่อไป จนกว่าเงินเฟ้อจะแสดงสัญญาณชัดเจนว่ากลับสู่เป้าหมาย 2% ในการประชุมที่สมาคมธนาคารแมรีแลนด์ บาร์กิ้นเตือนถึงความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่อาจสูงขึ้น เนื่องจากความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจและแรงกดดันด้านค่าจ้าง โดยบาร์กิ้นคาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคและความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจ อย่างไรก็ตาม นโยบายการค้าและการย้ายถิ่นฐานอาจเพิ่มแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ และคาดว่าตลาดแรงงานมีแนวโน้มจ้างงานมากกว่าการเลิกจ้าง ส่งผลให้เศรษฐกิจยังคงมีแรงหนุนแต่มีความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อสูง

สำหรับภาคการผลิตของสหรัฐฯ แสดงสัญญาณการฟื้นตัวในเดือนธันวาคม โดยการผลิตและคำสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้น แม้ว่าการเติบโตจะยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตจาก ISM เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเก้าเดือน สะท้อนถึงการฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม ความเห็นจากผู้ประกอบการบางรายยังคงระบุถึงการชะลอตัวและปริมาณการผลิตที่ลดลง ท่ามกลางภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ทั้ง 6 ภาคที่ไม่มีการรายงานการเติบโต สะท้อนถึงความท้าทายอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ธุรกิจกำลังเตรียมรับนโยบายใหม่จากรัฐบาลทรัมป์ ซึ่งอาจรวมถึงการลดภาษีและการผ่อนคลายกฎระเบียบที่ช่วยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ภาษีนำเข้าที่สูงขึ้นอาจเพิ่มต้นทุนวัตถุดิบและสร้างแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ รวมถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเติบโตในอนาคต

ทั้งนี้ สัปดาห์นี้มีเหตุการณ์สำคัญหลายอย่าง รวมถึงข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ และรายงานการประชุมของ Fed โดยรายงานการจ้างงานในวันศุกร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 154,000 ตำแหน่งในเดือนธันวาคม ซึ่งอัตราว่างงานคาดว่าจะคงที่ที่ 4.2% โดยข้อมูลแรงงานล่าสุดมีความผันผวนเนื่องจากปัจจัยรบกวน แต่การเพิ่มขึ้น 227,000 ตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายนยังคงบ่งชี้ถึงความยืดหยุ่น ขณะที่นักลงทุนจะจับตาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดแรงงานก่อนการรายงานในวันศุกร์ เช่น การจ้างงานภาคเอกชนและการยื่นขอรับสวัสดิการว่างงาน

โดยในวันพุธ Fed จะเปิดเผยรายงานการประชุมเมื่อเดือนธันวาคม ซึ่งได้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงติดต่อกันเป็นครั้งที่สามที่ 0.25% นักวิเคราะห์คาดว่ารายงานดังกล่าวจะเผยให้เห็นถึงความเห็นที่แตกต่างเกี่ยวกับทิศทางนโยบาย โดยเฉพาะในเรื่องนโยบายการคลัง การค้า และการย้ายถิ่นฐานภายใต้รัฐบาลใหม่ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ Fed หลายคน รวมถึงผู้ว่าการคุกและวอลเลอร์ มีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ ซึ่งอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของตลาด

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD AUD/USD

แนวต้านสำคัญ : 0.6233, 0.6235, 0.6240

แนวรับสำคัญ : 0.6223, 0.6221, 0.6216                            

1H Outlook

วิเคราะห์ AUD/USD ที่มา: TradingView 

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 0.6215 - 0.6223 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 0.6223 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.6236 และ SL ที่ประมาณ 0.6211 รือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 0.6233 - 0.6241 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.6248และ SL ที่ประมาณ 0.6219 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 0.6233 - 0.6241 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 0.6233 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.6223 และ SL ที่ประมาณ 0.6245 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 0.6215 - 0.6223 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.6205 และ SL ที่ประมาณ 0.6237 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Jan 6, 2025 08:44AM GMT+7

Name
S3
S2
S1
Pivot Points
R1
R2
R3
Classic 0.6212 0.6216 0.6224 0.6228 0.6236 0.624 0.6248
Fibonacci 0.6216 0.6221 0.6223 0.6228 0.6233 0.6235 0.624
Camarilla 0.6229 0.623 0.6231 0.6228 0.6233 0.6234 0.6235
Woodie's 0.6214 0.6217 0.6226 0.6229 0.6238 0.6241 0.625
DeMark's - - 0.6226 0.6229 0.6238 - -

ที่มา: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิกที่นี่
รู้เท่าทันสถานการณ์โลกและบทวิเคราะห์เทคนิคขั้นสูง: คลิกที่นี่
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES