บทวิเคราะห์ USD/CNY 7 มกราคม 2568

Create at 1 day ago (Jan 07, 2025 19:57)

เศรษฐกิจจีนยังต้องการการสนับสนุนเศรษฐกิจเพิ่มเติม

ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลงประมาณ 7.35 หยวนต่อดอลลาร์ สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 16 เดือน โดยสาเหตุส่วนใหญ่ยังคงเกิดจากแรงกดดันของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าทางธนาคารกลางจีนจะพยายามเพิ่มเสถียรภาพของค่าเงินกยวนก็ตาม อย่างไรก็ตาม ยังคงมีช่องว่างมากพอที่จะมีการผ่อนคลายทางนโยบายการเงินและการสนับสนุนทางการคลังเพิ่มเติม นอกจากนี้ ผลตอบแทนของจีนที่ลดลง และความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ความสามารถในการแข่งขันของจีนลดลง ซึ่งอาจะรวมไปถึงอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศด้วย โดยสัญญาณล่าสุด ธนาคารกลางจีนได้วางแผนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น โดยเปลี่ยนโฟกัสจากการเติบโตของสินเชื่อไปที่แนวทางนโยบายเพื่อจัดการกับกำลังการผลิตส่วนเกินและภาวะเงินฝืดที่กำลังเกิดขึ้น

สำรองเงินตราต่างประเทศของจีนลดลงเหลือ 3.2 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนธันวาคม ถือเป็นการทำจุดต่ำสุดในรอบ 8 เดือน จาก 3.26 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน โดยการลดลงในช่วงที่ผ่านมายังคงได้รับผลกระทบมาจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลง 1.2%  และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข่งค่าเคลื่อน 2.6% ในขณะเดียวกัน สำรองทองคำอยู่ที่ 73.29 ล้านออนซ์ทรอย เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 72.96 ล้านออนซ์ทรอยในเดือนก่อนหน้า  โดยแสดงให้เห็นว่าประเทศจีนยังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการซื้อทองคำมากที่สุด รวมไปถึงอุปสงค์ภายในประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว 

PMI ภาคการผลิตของจีนลดลงอย่างรวดเร็วจนมาอยู่ที่ 50.1 ในเดือนธันวาคม จากระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนในเดือนพฤศจิกายน อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวยังคงแสดงให็เห็นถึงการขยายตัวของกิจกรรมในภาคการผลิตเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน หลังจากที่รัฐบาลได้ตัดสินใจดำเนินมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจต่างๆ มาตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน โดยผลผลิตที่สามารถทำได้ยังคงมีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว ในขณะที่คำสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้นมากที่สุดตั้งแต่เดือนเมษายน ส่งผลให้การซื้อขายเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม ความท้าทายของภาคการผลิตยังคงมีอยู่ เนื่องจากทั้งคำสั่งซื้อจากต่างประเทศและการจ้างงานมีแนวโน้มอ่อนแอลง นอกจากนี้ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการค้าขายที่อาจทวีความตึงเครียดมากขึ้นหลังจากได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีของสหรัฐ ในขณะที่การขนส่งสินค้าเกิดความล้าช้ามากที่สุดตั้งแต่ปี 2023 อย่างไรก็ตาม ต้นทุนการผลิตที่ลดลงทำให้บริษัทต่างๆ ไม่จำเป็นต้องแบกรับต้นทุนมากนัก 

PMI ภาคบริการของจีนเพิ่มขึ้นเป็น 52.2 ในเดือนธันวาคม จาก 51.5 ในเดือนพฤศจิกายน สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 51.7 ตัวเลขล่าสุดถือเป็นการขยายตัวที่เร็วที่สุดในภาคบริการตั้งแต่เดือนพฤษภาคม โดยได้รับแรงหนุนจากเพิ่มขึ้นของธุรกิจเกิดใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ การเติบโตของยอดขายนั้นยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากอุปสงค์ในประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม การส่งออกรถลงเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2023  ท่ามกลางอุปสงค์ที่ชะลอตัวลงจากต่างประเทศ ในขณะเดียวกัน การจ้างงานลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน เนื่องจากการปลดพนักงานออกบางส่วนเพื่อควบคุมต้นทุนการผลิต ในขณะเดียวกัน ราคาวัตถุดิบกับเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงได้รับผลกระทบจากค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกแล้วแต่เดือนมิถุนายน เนื่องจากบริษัทต่างๆจำเป็นต้องส่งต่อต้นทุนภาระที่เพิ่มขึ้นไปยังลูกค้า 

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจีนอายุ 10 ปี ลดลงมาอยู่ที่ 1.6% ซึ่งถือเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากที่ธนาคารประชาชนจีนส่งสัญญาณว่าธนาคารจะปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจีนอย่างมีนัยสำคัญ โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีนประกาศว่าจะให้ความสำคัญกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่าการออกมาตราการเพิ่มกระตุ้นการเติบโตของสินเชื่อ อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายเดือนกันยายน อัตราดอกเบี้ยหลักของจีน ได้ถูกปรับลดลงจาก 1.7% เหลือ 1.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่ปี 2012 เพื่อกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ในช่วงกลางเดือนธันวาคม หวัง ซิน ได้เปิดเผยแผนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปี 2025 และได้ออกแนวโน้มการปรับลดอัตราส่วนการสำรองเงินตรา (RRR) ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 6.6% โดยเฉลี่ย เพื่อเป็นเครื่องมือในการเพิ่มสภาพคล่องในระบบการเงิน

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)

แนวต้านสำคัญ: 7.3403, 7.3432, 7.3473

แนวรับสำคัญ: 7.3333, 7.3292, 7.3263

บทวิเคราะห์ USD/CNY วันนี้

ที่มา: Investing.com

Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 7.3292 - 7.3333 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 7.3333 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.3432 และ SL ที่ประมาณ 7.3263 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 7.3403 - 7.3432 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.3473 และ SL ที่ประมาณ 7.3292 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 7.3403 - 7.3432 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 7.3403 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.3292 และ SL ที่ประมาณ 7.3473 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 7.3292 - 7.3333 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 7.3263 และ SL ที่ประมาณ 7.3432 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

จุดกลับตัว 7 มกราคม 2568 19:54 น. GMT+7

ชื่อ
S3
S2
S1
จุดกลับตัว
R1
R2
R3
Classic 7.3263 7.3292 7.3333 7.3362 7.3403 7.3432 7.3473
Fibonacci 7.3292 7.3319 7.3335 7.3362 7.3389 7.3405 7.3432
Camarilla 7.3356 7.3362 7.3369 7.3362 7.3381 7.3388 7.3394
Woodie's 7.3269 7.3295 7.3339 7.3365 7.3409 7.3435 7.3479
DeMark's - - 7.3348 7.3369 7.3418 - -
Source: Investing, Tradingeconomics
______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิกที่นี่
รู้เท่าทันสถานการณ์โลกและบทวิเคราะห์เทคนิคขั้นสูงคลิกที่นี่
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES