ตลาดหุ้นผันผวนรับปี 2025 ท่ามกลางกังวลเงินเฟ้อและท่าทีระวังของเฟด
ตลาดหุ้นเผชิญความผันผวนมื่อปี 2024 สิ้นสุดลง และเข้าสู่ปี 2025 หลังจากปีที่แข็งแกร่งซึ่งดัชนี S&P 500 ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 23% ทำสถิติผลงานดีที่สุดในรอบสองปีนับตั้งแต่ปี 1997-1998 อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการเติบโตต่อเนื่องยังขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะข้อมูลตลาดแรงงานที่เป็นตัวชี้วัดสำคัญเกี่ยวกับเงินเฟ้อและนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ
ธนาคารกลางสหรัฐฯ เปลี่ยนท่าทีไปสู่การใช้ความระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ย พร้อมปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อในปี 2025 ทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยที่อาจอยู่ในระดับสูงเป็นเวลานาน ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดยังแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งอย่างไม่คาดคิด โดยจำนวนตำแหน่งงานว่างในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็น 8.79 ล้านตำแหน่งในเดือนพฤศจิกายน สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะเดียวกัน กิจกรรมในภาคบริการก็เร่งตัวขึ้นในเดือนธันวาคม โดยได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคและกิจกรรมทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง รายงานเหล่านี้กระตุ้นความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลพุ่งขึ้นแตะระดับ 4.699% สูงสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2023 สะท้อนถึงความกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่อาจดำเนินต่อไป
ตลาดตอบสนองต่อข้อมูลดังกล่าวด้วยความผันผวนที่เพิ่มขึ้น หุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี สินค้าฟุ่มเฟือย และบริการสื่อสารปรับตัวลดลง ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานและสาธารณสุขปรับตัวเพิ่มขึ้น หุ้น Nvidia (NASDAQ:NVDA) ร่วงลง 6.22% เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้นกดดันหุ้นเติบโตซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ส่วน Tesla (NASDAQ:TSLA) ลดลง 4% หลังจากถูกลดอันดับโดยนักวิเคราะห์รายใหญ่ที่อ้างถึงความกังวลด้านมูลค่าหุ้นและอุปสงค์ที่ชะลอตัว อย่างไรก็ตาม แนวโน้มผลประกอบการเชิงบวกช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคาร เช่น Citigroup (NYSE:C) และ Bank of America (NYSE:BAC) ซึ่งได้รับประโยชน์จากรายได้ดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอันเป็นผลจากอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ความไม่แน่นอนทางการเมืองยิ่งสร้างความกังวลให้แก่นักลงทุน หลังจากว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ปฏิเสธรายงานที่ระบุว่ารัฐบาลอาจผ่อนคลายนโยบายภาษีศุลกากรต่อคู่ค้ารายสำคัญ ในทางกลับกัน ทรัมป์ยืนยันถึงความมุ่งมั่นในนโยบายกีดกันทางการค้า รวมถึงความเป็นไปได้ในการเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนและการเจรจาข้อตกลงการค้าฉบับใหม่ ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับแรงกดดันเงินเฟ้อจากต้นทุนนำเข้าที่สูงขึ้นและความเสี่ยงต่อการหยุดชะงักทางการค้าที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งเพิ่มระดับความไม่แน่นอนให้กับตลาดทั่วโลก
ด้านตลาดพันธบัตรมีความเคลื่อนไหวอย่างคึกคักในช่วงต้นปี 2025 เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ รีบออกตราสารหนี้เพื่อใช้ประโยชน์จากส่วนต่างเครดิตที่ยังอยู่ในระดับดี ก่อนที่อัตราดอกเบี้ยอาจปรับตัวสูงขึ้น โดยปริมาณการออกตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือสูงแตะระดับ 1.52 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2024 เพิ่มขึ้น 26% จากปี 2023 สะท้อนถึงการกู้ยืมของภาคธุรกิจที่แข็งแกร่ง เนื่องจากบริษัทต่างๆ พยายามหาทางจัดหาแหล่งเงินทุนก่อนที่เงื่อนไขการเงินจะเข้มงวดยิ่งขึ้น ขณะที่นักวิเคราะห์ชี้ว่าฐานะทางการเงินของบริษัทต่าง ๆ ยังคงแข็งแกร่ง ทำให้เกิดการออกตราสารหนี้เพิ่มขึ้น แม้ว่าตลาดจะมีความผันผวน
นักกลยุทธ์ตลาดคาดการณ์ว่าความผันผวนจะยังคงอยู่ในระดับสูงตลอดปี 2025 โดยอ้างอิงจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ และการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน นักวิเคราะห์จาก UBS เตือนว่าความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ ภาษีศุลกากร และความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน อาจทำให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูงต่อไป ส่งผลให้ตลาดมีความผันผวนและกดดันการประเมินมูลค่าหุ้น นอกจากนี้ ยังมีการเน้นย้ำถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ เช่น ความตึงเครียดในตะวันออกกลางและยุโรป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานและตลาดพลังงาน
อย่างไรก็ดี แม้ว่าหุ้นเติบโตจะเผชิญกับแรงกดดัน แต่ความเชื่อมั่นโดยรวมของตลาดยังขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจที่จะเผยแพร่ในอนาคต เช่น รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราเงินเฟ้อ นักลงทุนยังคงให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลระหว่างความเสี่ยงระยะสั้นและแนวโน้มเศรษฐกิจระยะยาวตลอดปี 2025 ขณะเดียวกันก็จับตาดูการดำเนินการของธนาคารกลางสหรัฐฯ และการพัฒนานโยบายการคลังอย่างใกล้ชิดเพื่อใช้เป็นแนวทางต่อไป
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (30Min) CFD US30 DJIA
แนวต้านสำคัญ : 42618.1, 42623.9, 42633.3
แนวรับสำคัญ : 42599.3, 42593.5, 42584.1
30Min Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 42583.3 - 42599.3 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 42599.3 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 42620.0 และ SL ที่ประมาณ 42575.3 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 42618.1 - 42634.1 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 42653.0 และ SL ที่ประมาณ 42591.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 42618.1 - 42634.1 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 42618.1 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 42595.4 และ SL ที่ประมาณ 42642.1 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 42583.3 - 42599.3 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 42564.0 และ SL ที่ประมาณ 42626.0 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Jan 8, 2025 09:51AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 42570.8 | 42584.1 | 42595.4 | 42608.7 | 42620 | 42633.3 | 42644.6 |
Fibonacci | 42584.1 | 42593.5 | 42599.3 | 42608.7 | 42618.1 | 42623.9 | 42633.3 |
Camarilla | 42600 | 42602.3 | 42604.5 | 42608.7 | 42609.1 | 42611.3 | 42613.6 |
Woodie's | 42569.8 | 42583.6 | 42594.4 | 42608.2 | 42619 | 42632.8 | 42643.6 |
DeMark's | - | - | 42602.1 | 42612.1 | 42626.7 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ