ธนาคารกลางยุโรปอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมที่จะถึงนี้ 

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงต่อเนื่อง ใกล้แตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี โดยนักลงทุนยังคงแสดงความกังวลเกี่ยวกับนโยบายทางการค้าของสหรัฐ และข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซน CNN รายงานว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่กำลังพิจารณาประกาศภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจระดับชาติเพื่อเป็นเหตุผลในการปรับขึ้นภาษี และไม่มีท่าทีว่าจะมีการปรับลดแผนภาษีในอนาคต ด้านข้อมูลเศรษฐกิจของยูโรโซนอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเป็น 2.4% ถึงอย่างนั้นนักวิเคราะห์บางคนมองว่าธนาคารกลางยุโรปจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 25 bps ต่อไปในการประชุมที่จะถึงนี้

Composite PMI ของยูโรโซนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 49.6 ในเดือนธันวาคม จาก 48.3 ในเดือนพฤศจิกายน แม้ว่าภาคบริการจะเติบโตเพียงเล็กน้อย แต่กิจกรรมของภาคการผลิตที่ชะลอตัวลงอย่างรวดเร็ว ทำให้การเติบโตโดยรวมเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยเศรษฐกิจ 3 ประเทศใหญ่ ได้แก่ เยอรมนี, ฝรั่งเศส และอิตาลี ต่างรายงานว่ากิจกรรมการผลิตลดลง ในขณะที่ สเปนและไอร์แลนด์ มีกิจกรรมในภาคการผลิตเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ประเทศส่วนใหญ่เผชิญกับคำสั่งซื้อใหม่ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นการลดลง 7 เดือนติดต่อกัน นอกจากนี้ยังได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ในประเทศและการส่งออกที่อ่อนแอ ส่งผลให้การจ้างงานลดลงในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบ 4 ปี ซึ่งเกิดจากการเลิกจ้างคนงานในภาคการผลิต แม้ว่าภาคบริการจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่แรงกดดันด้านต้นทุนที่ทวีความรุนแรงขึ้น ทำให้บริษัทส่วนใหญ่จำเป็นต้องควบคุมต้นทุนการผลิตให้ดีมากขึ้น

อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนเพิ่มขึ้นเป็น 2.4% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนธันวาคม นับว่าเป็นการเพิ่มขึ้นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน และเป็นอัตราเงินเฟ้อสูงสุดตั้งแต่เดือนกรกฎาคม การเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อในช่วงปลายปีนี้คาดว่าจะเกิดจากผลกระทบจากฐานที่ต่ำในปีก่อนหน้า เนื่องจากราคาพลังงานที่ลดลงอย่างรวดเร็วในปีที่แล้ว โดยราคาพลังงานเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ที่ 0.1% ในขณะเดียวกัน อัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นสำหรับภาคบริการที่ 4% แต่อัตราเงินเฟ้อยังคงทรงตัวสำหรับหมวดอาหาร และเครื่องดื่ม เมื่อพิจารณาจากเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของกลุ่ม พบว่าอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นในเยอรมนี 2.8% ฝรั่งเศส 1.8% และสเปน 2.8% ในขณะเดียวกัน อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานที่ผันผวน ทรงตัวที่ 2.7% โดยธนาคารกลางยุโรปคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับสู่เป้าหมาย 2% ภายในสิ้นปีนี้

อัตราการว่างงานในยูโรโซนยังคงอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6.3% และสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด โดยจำนวนผู้ว่างงานลดลง 39,000 คนจากเดือนก่อนหน้า เหลือ 10.819 ล้านคน ในขณะที่อัตราการว่างงานของเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปีที่กำลังหางานทำ อยู่ที่ 15% ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2023 ในบรรดาประเทศเศรษฐกิจหลักของยูโรโซน สเปนยังคงมีอัตราการว่างงานสูงสุดที่ 11.2% รองลงมาคือฝรั่งเศสที่ 7.7% และอิตาลีที่ 5.7% ในทางกลับกัน เยอรมนีมีอัตราการว่างงานต่ำสุดที่ 3.4%

การปล่อยสินเชื่อแก่ภาคครัวเรือนในยูโรโซนเพิ่มขึ้น 0.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 6.918 ล้านล้านยูโรในเดือนพฤศจิกายน นับว่าเป็นการเพิ่มขึ้นอีกครั้งหลังจากการเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนก่อนหน้า แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการใช้จ่ายที่เพิ่มมากของภาคครัวเรือน โดยเฉพาะการใช้จ่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกัน การให้สินเชื่อแก่บริษัทต่างๆ เพิ่มขึ้น 1% เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.162 ล้านล้านยูโร ลดลงจากการเพิ่มขึ้น 1.2% ในเดือนตุลาคม อย่างไรก็ตาม ยังคงเห็นสัญญาณการเติบโตของสินเชื่อภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง ด้านการเติบโตของสินเชื่อภาคเอกชนโดยรวม ซึ่งครอบคลุมทั้งครัวเรือนและบริษัทที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ลดลงเหลือ 1.5% ในเดือนพฤศจิกายน จาก 1.7% ในเดือนตุลาคม