ECB เผชิญความท้าทายเศรษฐกิจซบเซา คาดลดดอกเบี้ยต่อในปี 2025
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) กำลังเผชิญกับความท้าทายที่ยากลำบากในการบริหารเศรษฐกิจของยูโรโซนที่เปราะบาง ท่ามกลางความไม่มั่นคงทางการเมืองภายในและภัยคุกคามจากภายนอก เช่น การเก็บภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์ที่กำลังจะเข้ารับตำแหน่งในเร็วๆ นี้ นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในปี 2025 โดยคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลงเหลือ 2.00% ภายในกลางปี และอาจลดลงเหลือ 1.5% ภายในสิ้นปี แม้ว่าจะมีการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อในเดือนธันวาคม 2024 ที่ระดับ 2.4% แต่อัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะกลับมามีเสถียรภาพใกล้เป้าหมายที่ 2% ของ ECB ได้
ทั้งนี้ ยูโรโซนปิดท้ายปี 2024 ด้วยการเติบโตที่อ่อนแอและการหดตัวในภาคส่วนสำคัญ เช่น การผลิต เศรษฐกิจของเยอรมนีหดตัวเป็นปีที่สองติดต่อกัน ขณะที่ฝรั่งเศสรายงานการเติบโตที่ชะลอตัว ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและคำสั่งซื้อในภาคอุตสาหกรรมยังคงอยู่ในระดับต่ำ สะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจซบเซา แม้อัตราการออมของครัวเรือนจะสูงขึ้นจากผลกระทบของเงินเฟ้อในอดีต โดย ECB คาดว่าการบริโภคจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ด้วยการสนับสนุนจากการเติบโตของรายได้ที่แท้จริงและอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง
อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อในภาคบริการยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งสร้างความซับซ้อนต่อความพยายามของ ECB ในการรักษาเสถียรภาพด้านราคา ฟิลิป เลน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ECB เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างสมดุลเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยหรือการล่าช้าในการลดเงินเฟ้อ
ด้านความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลง โดยตัวชี้วัดอย่าง Sentix แสดงถึงมุมมองในเชิงลบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับภาวะถดถอยของเยอรมนี โดยมีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะเติบโตเพียง 1.0% ในปี 2025 ซึ่งถูกจำกัดจากอุปสงค์ภายในประเทศที่อ่อนแอและความท้าทายในการส่งออก ท่ามกลางการส่งออกที่อาจเพิ่มขึ้นในระยะสั้นก่อนที่สหรัฐฯ จะเก็บภาษีนำเข้า แต่การฟื้นตัวในระยะยาวยังคงซบเซา
ทั้งนี้ นโยบายการผ่อนคลายทางการเงินของ ECB มีเป้าหมายเพื่อสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตและการควบคุมเงินเฟ้อ แต่ความเสี่ยง เช่น ความคาดหวังของผู้บริโภคที่สูงขึ้นเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจนทำให้ต้นทุนการนำเข้าสูงขึ้น ยังคงเป็นอุปสรรค ขณะที่ตลาดแรงงานแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นด้วยอัตราการว่างงานที่ 6.3% แต่การเติบโตของการจ้างงานที่ช้าลงและอุปสงค์ที่อ่อนแอชี้ให้เห็นถึงความท้าทายที่จะเกิดขึ้น
ด้านการผลิตภาคอุตสาหกรรมในยูโรโซนเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพฤศจิกายน แต่ยังคงต่ำกว่าปีที่แล้ว 1.9% ซึ่งสะท้อนถึงความอ่อนแอที่ยืดเยื้อ ขณะที่การเติบโตของยอดค้าปลีกเพียง 0.1% สะท้อนถึงอุปสงค์ของผู้บริโภคที่ซบเซาเนื่องจากครัวเรือนให้ความสำคัญกับการออมมากขึ้น โดยอัตราการออมที่สูงถึง 15.3% ในไตรมาสที่ 3 ปี 2024 ได้ขัดขวางการใช้จ่าย ในขณะที่สหรัฐฯ ได้รับประโยชน์จากการเติบโตที่ขับเคลื่อนด้วยผู้บริโภคที่แข็งแกร่งกว่า
สำหรับการฟื้นตัวของเยอรมนียังคงไม่แน่นอนท่ามกลางความอ่อนแอของอุตสาหกรรม ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และภาวะเงินเฟ้อ ต้นทุนพลังงานที่สูงและอุปสงค์ที่อ่อนแอทำให้ภาคอุตสาหกรรมตกอยู่ในภาวะถดถอย ขณะที่ยอดค้าปลีกลดลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนพฤศจิกายน ท่ามกลางอัตราการออมของครัวเรือนที่สูงและความกังวลในตลาดแรงงานที่ส่งผลต่อการใช้จ่าย
นอกจากนี้ เยอรมนียังเผชิญกับจำนวนบริษัทล้มละลายที่เพิ่มขึ้น โดยพบการปิดกิจการมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2009 เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและเงินอุดหนุนที่ลดลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการล้มละลายในภาคบริการสะท้อนถึงความท้าทายทางเศรษฐกิจในวงกว้าง
ด้านข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่เผยแพร่เมื่อเร็วๆ นี้ แสดงภาพเศรษฐกิจที่หลากหลาย ซึ่งส่งผลต่อการคาดการณ์นโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งสูงกว่าเดือนพฤศจิกายนที่ 2.7% เล็กน้อย อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาที่ผันผวนของอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 3.2% ต่อปี ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้
ราคาผู้ผลิตยังเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนธันวาคม โดยดัชนี PPI ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน และ 3.3% เมื่อเทียบรายปี สะท้อนถึงแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่ลดลง นักวิเคราะห์มองว่าข้อมูล PPI เป็นเพียงการลดลงชั่วคราว โดยบางส่วนเตือนว่าเงินเฟ้ออาจยังคงอยู่ในระดับสูงในระยะสั้น เนื่องจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ดี การชะลอตัวของเงินเฟ้อพื้นฐาน เมื่อรวมกับข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่อ่อนตัวลง ได้เพิ่มการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งอาจเกิดขึ้นเร็วที่สุดในช่วงกลางปี ซึ่งความเชื่อมั่นของตลาดสะท้อนถึงแนวโน้มดังกล่าว โดยฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลลดลงหลังจากการรายงาน
ท่ามกลางแนวโน้มเงินเฟ้อ เศรษฐกิจยังคงแสดงถึงความยืดหยุ่นในบางภาคส่วน โดยความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็กพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 6 ปี จากความเชื่อมั่นหลังการเลือกตั้งและแนวนโยบายที่นำโดยพรรครีพับลิกัน อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเริ่มแสดงถึงความระมัดระวัง โดยมีความกังวลเกี่ยวกับราคาที่เพิ่มสูงขึ้นจากภาษีนำเข้าและการเปลี่ยนแปลงนโยบาย ขณะที่ตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง โดยอัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ แม้ว่าแรงกดดันจากค่าจ้างและต้นทุนพลังงานยังคงส่งผลต่อความคาดหวังทางเศรษฐกิจ จึงคาดว่าจะส่งผลให้เงินยูโรอาจยังคงแนวโน้มปรับตัวขึ้นลงในกรอบปัจจุบันไปจนถึงกรอบล่างได้มากขึ้น และยังคงอ่อนค่ากว่าเงินดอลลาร์ได้อย่างต่อเนื่องในระยะกลางจากความแตกต่างของความร้อนแรงระหว่างสองเขตเศรษฐกิจ
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (30Min) CFD EUR/USD
แนวต้านสำคัญ : 1.0291, 1.0294, 1.0297
แนวรับสำคัญ : 1.0285, 1.0282, 1.0279
30Min Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.0279 - 1.0285 แต่ไม่สามารถทะลุแนวรับที่ 1.0285 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0292 และ SL ที่ประมาณ 1.0276 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถทะลุแนวต้านที่ช่วงราคา 1.0291 - 1.0297 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0307 และ SL ที่ประมาณ 1.0282 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.0291 - 1.0297 แต่ไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ 1.0291 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0283 และ SL ที่ประมาณ 1.0300 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถทะลุแนวรับที่ช่วงราคา 1.0279 - 1.0285 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.0269 และ SL ที่ประมาณ 1.0294 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Jan 16, 2025 09:56AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 1.0274 | 1.0279 | 1.0283 | 1.0288 | 1.0292 | 1.0297 | 1.0301 |
Fibonacci | 1.0279 | 1.0282 | 1.0285 | 1.0288 | 1.0291 | 1.0294 | 1.0297 |
Camarilla | 1.0286 | 1.0286 | 1.0287 | 1.0288 | 1.0289 | 1.029 | 1.029 |
Woodie's | 1.0274 | 1.0279 | 1.0283 | 1.0288 | 1.0292 | 1.0297 | 1.0301 |
DeMark's | - | - | 1.0282 | 1.0287 | 1.0291 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ