การลาออกของทรูโดอาจเปลี่ยนโฉมเศรษฐกิจแคนาดาท่ามกลางความตึงเครียดด้านภาษี
การลาออกของนายจัสติน ทรูโดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแคนาดาที่อาจเกิดขึ้นหลังจากดำรงตำแหน่งมาเก้าปี ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญต่อทิศทางการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศ รายงานระบุว่าทรูโดอาจลาออกในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ ซึ่งทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าอาจมีการเลือกตั้งเร่งด่วนเพื่อจัดตั้งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพและสามารถรับมือกับความท้าทายต่างๆ ได้ ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นกับรัฐบาลสหรัฐฯ โดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งได้เสนอให้มีการเก็บภาษีนำเข้า 25% กับสินค้าจากแคนาดา ซึ่งมาตรการดังกล่าวอาจทำให้ความสัมพันธ์ทวิภาคีตึงเครียดอย่างมากและเพิ่มความไม่แน่นอนในด้านการค้าและนโยบายเศรษฐกิจ โดยจากการสำรวจความคิดเห็นบ่งชี้ว่าพรรคเสรีนิยมของทรูโดอาจพ่ายแพ้อย่างมากต่อพรรคอนุรักษนิยมฝ่ายค้าน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของความคิดเห็นของประชาชนที่ได้รับอิทธิพลจากความไม่พอใจต่อการบริหารของรัฐบาลปัจจุบันในประเด็นสำคัญต่างๆ
ทั้งนี้ ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการลาออกของทรูโดที่อาจเกิดขึ้นนั้นเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินของธนาคารแห่งแคนาดา (BoC) โดยคาดว่าธนาคารกลางจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 จุดพื้นฐานเหลือ 3.00% ในเดือนนี้ แต่ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายในการปรับสมดุล
อีกด้าน การเติบโตของการจ้างงานที่แข็งแกร่งในเดือนธันวาคมซึ่งมีการเพิ่มงานสุทธิ 90,900 ตำแหน่ง และการลดลงของอัตราการว่างงานเหลือ 6.7% แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม การชะลอตัวพื้นฐานของเศรษฐกิจ ภัยคุกคามจากภาษี และอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำยังคงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เกิดการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติม ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ยังคงความระมัดระวัง โดยระบุว่าการตอบสนองของแคนาดาต่อภาษีของสหรัฐฯ อาจนำไปสู่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมเพื่อต่อสู้กับแรงกดดันด้านเงินฝืด หรือในทางกลับกันอาจต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหากมีการใช้มาตรการตอบโต้
อย่างไรก็ดี ภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจของแคนาดาสะท้อนถึงความเปราะบางสองด้าน ขณะที่ภาคการผลิตมีการเติบโตที่เร็วที่สุดในรอบเกือบสองปี อันเนื่องมาจากการสะสมสินค้าคงคลังในสหรัฐฯ ก่อนที่จะมีการเก็บภาษีที่อาจเกิดขึ้น ขณะที่ภาคบริการหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบสามเดือน จากการประท้วงของพนักงานไปรษณีย์และความต้องการที่ลดลง
ด้านความเคลื่อนไหวในตลาดที่อยู่อาศัยยังเน้นย้ำความไม่สมดุลดังกล่าว โดยโครงการก่อสร้างบ้านลดลง 13% ในเดือนธันวาคม ในขณะที่ยอดขายบ้านในไตรมาสที่สี่เพิ่มขึ้นสูง จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าความต้องการจะฟื้นตัวอีกครั้งในช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2025 ซึ่งสอดคล้องกับความคาดหวังของการถึงจุดต่ำสุดของอัตราดอกเบี้ยในระยะสั้น
ทั้งนี้ เส้นทางข้างหน้าสำหรับเศรษฐกิจแคนาดาขึ้นอยู่กับความสามารถในการปรับตัวต่อแรงกระแทกภายนอกและข้อจำกัดภายใน ทิศทางนโยบายของ BoC จะขึ้นอยู่กับพัฒนาการของความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และแคนาดาซึ่งเป็นเสาหลักของเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของแคนาดา ซึ่งอุตสาหกรรม เช่น น้ำมันและก๊าซ การขนส่ง และการผลิต ยังคงพึ่งพาความต้องการจากสหรัฐฯ อย่างมาก ซึ่งเพิ่มความสำคัญของการบริหารจัดการการหยุดชะงักทางการค้าอย่างมีประสิทธิผลพร้อมส่งเสริมการเติบโตที่ยั่งยืน
ด้านสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจโดยรวมยังคงมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นเนื่องจากปัจจัยพลวัตระหว่างประเทศ ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่หลากหลายเผยให้เห็นยอดค้าปลีกที่เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนธันวาคม และการขอรับสวัสดิการว่างงานที่สูงกว่าคาดการณ์ สะท้อนให้เห็นถึงตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง แม้ว่าการเติบโตของการบริโภคจะชะลอตัว
ดัชนีธุรกิจของธนาคารกลางฟิลาเดลเฟีย (Philadelphia Fed Business Index) เพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิดเป็น 44.3 ในเดือนมกราคม บ่งชี้ถึงการขยายตัวของกิจกรรมการผลิต นักวิเคราะห์แนะนำว่าข้อมูลนี้อาจสนับสนุนการประมาณการการเติบโตของ GDP ในไตรมาสที่สี่ แม้ว่าความไม่แน่นอนจะยังคงมีอยู่จากการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่อาจเกิดขึ้นภายใต้รัฐบาลทรัมป์ ซึ่งรวมถึงภาษีศุลกากรและการลดหย่อนภาษีที่อาจทำให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นพร้อมกันกับการสร้างแรงกดดันต่อการเติบโตของรายได้จริง
ด้านคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ แสดงความมั่นใจในแนวโน้มของเงินเฟ้อ โดยชี้ถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นหากแรงกดดันเงินฝืดยังคงมีอยู่ อย่างไรก็ตาม ภัยคุกคามจากแรงกดดันเงินเฟ้อที่อาจกลับมาเพิ่มขึ้นจากนโยบายภาษีฉบับใหม่ยังคงเป็นข้อกังวล ขณะที่ธนาคารกลางยังคงเดินหน้าในการคุมเข้มเชิงปริมาณอย่างระมัดระวัง จากสภาพคล่องที่ทรงตัว
ขณะเดียวกัน ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น โดย BIS เตือนถึงความเสี่ยงของภาวะเงินฝืดที่เกิดจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์และความตึงเครียดทางการค้า ทำให้การจัดการทางเศรษฐกิจมีความซับซ้อนมากขึ้น แม้ว่าตัวชี้วัดตลาดแรงงาน เช่น การเพิ่มขึ้นของการจ้างงานนอกภาคเกษตรและการลดลงของการว่างงานที่ระดับ 4.1% ในเดือนธันวาคมจะแสดงให้เห็นถึงเสถียรภาพ แต่การเพิ่มขึ้นของราคาที่เกี่ยวข้องกับภาษีอาจบั่นทอนกำลังซื้อของผู้บริโภค ซึ่งส่งผลต่อการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าการเติบโตของการบริโภคจะชะลอตัวลง แต่สังเกตเห็นแรงส่งที่แข็งแกร่งในช่วงต้นไตรมาสแรกของปี 2025 เน้นย้ำถึงความสมดุลที่ละเอียดอ่อนที่ธนาคารกลางต้องรักษาในการจัดการกับความท้าทายเหล่านี้ จึงอาจส่งผลให้เงินดอลลาร์แคนาดามีแนวโน้มปรับตัวขึ้นลงในกรอบปัจจุบันไปจนถึงกรอบบนได้อีกในช่วงนี้
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1D) CFD USD/CAD
แนวต้านสำคัญ : 1.4404, 1.4424, 1.4455
แนวรับสำคัญ : 1.4342, 1.4322, 1.4291
1D Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.4292 - 1.4342 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.4342 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.4424 และ SL ที่ประมาณ 1.4267 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.4404 - 1.4454 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.4506 และ SL ที่ประมาณ 1.4317 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.4404 - 1.4454 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1.4404 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.4342 และ SL ที่ประมาณ 1.4479 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.4292 - 1.4342 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.4260 และ SL ที่ประมาณ 1.4429 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Jan 17, 2025 09:49AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 1.426 | 1.4291 | 1.4342 | 1.4373 | 1.4424 | 1.4455 | 1.4506 |
Fibonacci | 1.4291 | 1.4322 | 1.4342 | 1.4373 | 1.4404 | 1.4424 | 1.4455 |
Camarilla | 1.437 | 1.4378 | 1.4385 | 1.4373 | 1.4401 | 1.4408 | 1.4416 |
Woodie's | 1.427 | 1.4296 | 1.4352 | 1.4378 | 1.4434 | 1.446 | 1.4516 |
DeMark's | - | - | 1.4357 | 1.4381 | 1.444 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ