ราคาถั่วเหลืองลดลง ท่ามกลางความตึงเครียดการค้าสหรัฐ-จีน ขณะที่บราซิลครองตลาด

ราคาถั่วเหลืองลดลงในวันพุธเนื่องจากการขายทำกำไรและทางเทคนิค โดยร่วงลงจากระดับสูงสุดในรอบหลายเดือนที่ผ่านมา การปรับตัวลดลงของตลาดเกิดจากความกังวลเกี่ยวกับภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ต่อจีน โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศกำหนดเส้นตายวันที่ 1 กุมภาพันธ์สำหรับการเรียกเก็บภาษี 10% ต่อสินค้าจีน ซึ่งก่อให้เกิดความกังวลว่าจีนอาจตอบโต้ด้วยมาตรการทางการค้า ซึ่งจีนเป็นผู้นำเข้าถั่วเหลืองรายใหญ่ที่สุดของโลก

ทั้งนี้ ราคาที่ปรับขึ้นก่อนหน้านี้ได้รับแรงสนับสนุนจากความคาดหวังว่าภาษีศุลกากรอาจไม่เกิดขึ้นในทันที อย่างไรก็ตาม การที่จีนระงับการนำเข้าถั่วเหลืองจากบริษัทบราซิล 5 แห่ง โดยอ้างปัญหาด้านสุขอนามัยพืช ได้เพิ่มแรงกดดันต่อความเชื่อมั่นในตลาด นักวิเคราะห์คาดว่าการดำเนินการนี้อาจสะท้อนถึงการใช้กลยุทธ์เพื่อสร้างอำนาจต่อรองหรือการจัดการตลาดของจีน ท่ามกลางการส่งออกที่แข็งแกร่งของบราซิล ซึ่งตอกย้ำถึงบทบาทที่เพิ่มขึ้นของบราซิลในตลาดถั่วเหลืองโลก

ด้านบราซิลกำลังเตรียมที่จะผลิตถั่วเหลืองในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 171.7 ล้านเมตริกตัน จากผลผลิตที่ดี แม้ว่าจะมีความล่าช้าเนื่องจากฝนตกหนัก ในขณะเดียวกัน ความแห้งแล้งในอาร์เจนตินายังคงคุกคามผลผลิตของพืช ทำให้เกิดความไม่แน่นอนในอุปทานทั่วโลก สถานการณ์เหล่านี้เน้นย้ำถึงบทบาทที่เพิ่มขึ้นของบราซิลในการตอบสนองความต้องการถั่วเหลืองที่เพิ่มขึ้นของจีน ซึ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 105 ล้านเมตริกตันในปี 2024 โดยปัจจุบันบราซิลครองส่วนแบ่ง 73% ของการนำเข้าถั่วเหลืองของจีน โดยขยายส่วนแบ่งตลาดในขณะที่สหรัฐฯ ยังคงเผชิญกับอุปสรรคทางภูมิรัฐศาสตร์และอุปทานในประเทศที่ลดลง

ในสหรัฐอเมริกา การผลิตถั่วเหลืองในปี 2024/25 คาดว่าจะอยู่ที่ 4.4 พันล้านบุชเชล ลดลงอย่างมากเนื่องจากผลผลิตในรัฐสำคัญลดลง สต็อกสิ้นสุดคาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ 380 ล้านบุชเชล ลดลง 90 ล้านจากการประมาณการก่อนหน้านี้ แม้ว่าการส่งออกและการบดจะยังคงมีเสถียรภาพก็ตาม ภาคเกษตรของสหรัฐฯ ยังเผชิญความท้าทายเพิ่มเติมจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า ซึ่งทำให้การส่งออกมีความสามารถในการแข่งขันน้อยลงในระดับโลก รวมถึงนโยบายการค้าที่เปลี่ยนแปลงซึ่งส่งผลต่อพลวัตของตลาด

ด้านตลาดน้ำมันพืชทั่วโลกยังคงมีความผันผวน โดยการส่งออกกากถั่วเหลืองที่แข็งแกร่งของบราซิลเป็นแรงผลักดันให้ปริมาณการบดน้ำมันทั่วโลกเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม การลดลงของการผลิตน้ำมันพืชในรัสเซีย อินเดีย และจีน ได้รับการชดเชยบางส่วนด้วยการเพิ่มขึ้นของผลผลิตเมล็ดทานตะวันและฝ้าย ความเชื่อมั่นในตลาดธัญพืชยังคงหลากหลาย โดยถั่วเหลืองซื้อขายที่ประมาณ $10.50 ต่อบุชเชล หลังจากการปรับตัวลดลงล่าสุด แต่ยังคงต่ำกว่าระดับสูงสุดในช่วงเก็บเกี่ยว ซึ่งการเคลื่อนไหวของราคาระยะยาวจะขึ้นอยู่กับพัฒนาการทางภูมิรัฐศาสตร์ ประสิทธิภาพผลผลิต และสภาพอากาศในภูมิภาคการผลิตที่สำคัญ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าที่จะยังคงส่งผลต่อตลาดการเกษตรทั่วโลก

ทั้งนี้ ราคาถั่วเหลืองยังคงมีแนวโน้มขาขึ้น โดยเข้าใกล้ระดับ $1,070 และเสริมความแข็งแกร่งให้กับการคาดการณ์แนวโน้มขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายถัดไปอยู่ที่ $1,080 จากอิทธิพลของรูปแบบกราฟหัวและไหล่กลับหัว (inverted head-and-shoulders) อย่างไรก็ตาม การทะลุลงต่ำกว่า $1,050 อาจก่อให้เกิดแรงกดดันเชิงลบระหว่างวัน ส่งผลให้ราคาอาจทดสอบระดับแนวรับสำคัญที่ $1,014.50 ก่อนที่จะพยายามขึ้นอีกครั้ง โดยกรอบการซื้อขายที่คาดหวังสำหรับช่วงนี้อยู่ระหว่างแนวรับ $1,055 และแนวต้าน $1,085

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD US Soybeans Futures - Mar 25 (ZSH5)

แนวต้านสำคัญ : 1058.32, 1059.71, 1061.95

แนวรับสำคัญ : 1053.84, 1052.45, 1050.21                                 

1H Outlook   

ที่มา: TradingView     

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1048.84 - 1053.84 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1053.84 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1059.41 และ SL ที่ประมาณ 1046.34 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1058.32 – 1063.32 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1067.50 และ SL ที่ประมาณ 1051.34 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1058.32 – 1063.32 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1058.32 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1053.54 และ SL ที่ประมาณ 1065.82 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1048.84 - 1053.84 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1045.00 และ SL ที่ประมาณ 1060.82 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Jan 23, 2025 09:37AM GMT+7