อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

เงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนค่าลงเล็กน้อย หลังจากแข๋งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่น และมีแนวโน้มที่ธนาคารกลางจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น คาซูโอะ อุเอดะ ยังไม่ได้กำหนดถึงวันที่ชัดเจนในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง 

PMI ภาคการผลิตของญี่ปุ่นกลับมาลดลงอย่างรวดเร็วเหลือ 48.8 ในเดือนมกราคม จาก 49.6 ในเดือนธันวาคม น้องเป็นการหดตัวของกิจกรรมในภาคการผลิต 7 เดือนติดต่อกัน และถือว่าเป็นการหดตัวที่เร็วที่สุดตั้งแต่เดือนมีนาคม 2024 เนื่องจากจำนวนผลผลิตที่สามารถทำได้กลับมาลดลงอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกัน คำสั่งซื้อใหม่ยังคงมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง และลดลงเร็วที่สุดในรอบ 6 เดือน อย่างไรก็ตาม อัตราการจ้างงานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของอัตราการว่างงาน 2 เดือนติดต่อกัน ในขณะที่ต้นทุนด้านวัตถุดิบลดลงเล็กน้อย ส่งผลให้ต้นทุนโดยรวมยังคงไม่ลดลงมากนัก เนื่องจากต้นทุนด้านแรงงานเพิ่มมากขึ้น ได้ความเชื่อมั่นทางธุรกิจยังคงอยู่ในเชิงบวก เนื่องจากผู้ผลิตเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจภายในประเทศอาจกลับมาเติบโตได้อีกครั้งหากสามารถควบคุมอัตราเงินเฟ้อและการปรับขึ้นค่าจ้างได้อย่างเหมาะสม 

ด้าน PMI ภาคบริการของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็น 52.7 ในเดือนมกราคม นับว่าเป็นการเติบโตของกิจกรรมในภาคบริการเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยคำสั่งซื้อใหม่ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน และการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่ยังมีแนวโน้มจะเร่งตัวขึ้นอีกในอนาคต นอกจากนี้ ยอดขายในต่างประเทศกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งหลังจากชะลอตัวลงในเดือนธันวาคม ด้านการจ้างงานยังพบว่ามีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่ต้นทุนด้านวัตถุดิบเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องและทำจุดสุดใหม่อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นในภาคบริการยังคงทรงตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

อัตราเงินเฟ้อรายปีในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นแตะ 3.6% ในเดือนธันวาคม จาก 2.9% ในเดือนก่อนหน้า ซึ่นับว่าเป็นอัตราเงินเฟ้อที่สูงที่สุดตั้งแต่ปี 2023 โดยราคาอาหารเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งในรอบปีที่ 6.4% โดยผักสดและอาหารสดยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อสำหรับอาหารปรับตัวขึ้นมากที่สุด นอกจากนี้ ราคาไฟฟ้ายังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้นเร็วที่สุดในรอบ 4 เดือนที่ 18.7% จาก 9.9% ในเดือนก่อนหน้า เนื่องจากรัฐบาลญี่ปุ่นได้ยกเลิกการสนับสนุนด้านพลังงานตั้งแต่เดือนพฤษภาคม นอกจากนี้อัตราเงินเฟ้อสำหรับที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ 0.8% ในขณะเดียวกันอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาหารและพลังงานที่ผันผวนเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 16 เดือนที่ 3%

ดุลการค้าของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแตะระดับ 130,940 ล้านเยนในเดือนธันวาคม จากระดับ 32,350 ล้านเยนในเดือนเดียวกันของปีก่อน นับว่าเป็นการเพิ่มขึ้นอีกครั้งตั้งแต่เดือนมิถุนายน เนื่องจากการส่งออกเพิ่มขึ้รเร็วกว่าการนำเข้า โดยการนำเข้าเพิ่มขึ้น 1.8% นับว่าเป็นการนำเข้ามากที่สุดในรอบ 5 เดือน ที่ 9,779,670 ล้านเยน นับว่าเป็นการเพิ่มขึ้นอีกครั้งหลังจากที่ลดลง 3.8% ในเดือนพฤศจิกายน โดยการนำเข้าส่วนใหญ่ยังคงเป็นการนำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ เพิ่มมากกว่า 21.7% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ นอกจากนี้การนำเข้าแร่โลหะและสารเคมียังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การนำเข้าเชื้อเพลิงไม่ว่าจะเป็น ปิโตรเลี่ยมและ LNG ได้หดตัวลงกว่า 8.4% เมื่อมาดูประเทศคู่ค้าพบว่าการนำเข้าจากจีนและสหรัฐยังคงมีสัดส่วนการนำเข้าที่มากที่สุด ด้านการส่งออกของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 2.8% โดยทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งที่ 9,910,600 ล้านเยน โดยการส่งเครื่องจักรขยายตัว 3.7% นำโดยเซมิคอนดักเตอร์ 10.6% ในขณะที่การส่งออกเครื่องจักรอื่นๆ เพิ่มขึ้น 14.7%