การเติบโตของเศรษฐกิจในแคนาดาอาจชะลอตัวลงหลังจากการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐ
ดอลลาร์แคนาดาอ่อนค่าลงเล็กน้อย หลังจากเกิดความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ขึ้นอีกครั้ง หลังจากการเกิดข้อพิพาทระหว่างสหรัฐฯ และโคลอมเบียเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาษีนำเข้าสินค้าของแคนาดา 25% โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้เกิดความกังวลทางการค้าเกี่ยวกับคู่ค้าสำคัญของแคนาดา ที่อาจชะลอการซื้อขายลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งอาจส่งผลให้เงินต่างประเทศไหลเข้าน้อยลงโดยเฉพาะในภาคการผลิตซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อการส่งออกสินค้าหลักของประเทศ
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบที่ลดลง ซึ่งเป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกสำคัญ และมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของแคนาดา ได้เพิ่มแรงกดดันและสร้างความกังวลเกี่ยวกับภาษีนำเข้าของแคนาดา, เม็กซิโก และจีน ว่าอาจส่งผลกระทบในวงกว้างและจะส่งผลกระทบต่อความต้องการน้ำมันดิบ รวมไปถึงการเติบโตของพลังงานทั่วโลก โดยความเสี่ยงเหล่านี้เมื่อรวมกับอัตราดอกเบี้ยที่แตกต่างกันอย่างมากระหว่างสหรัฐและแคนาดา ทำให้การฟื้นตัวของค่าเงินแคนาดายากมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางแคนาดาที่อาจส่งผลกระทบต่อค่าเงินแคนาดาโดยตรง
โดยนักลงทุนได้มีการคาดการณ์สำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางแคนดาว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพียง 25 bps นอกจากนี้ได้มีการคาดการณ์เพิ่มเติมถึงนโยบายที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ว่าอาจจะมีการประกาศเร็วกว่าที่คาดเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อของแคนาดากลับมามีแนวโน้มลดลงอีกครั้ง
ด้านข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งจะมีการประกาศอัตราดอกเบี้ยในคืนนี้ โดยนักลงทุนและนักวิเคราะห์หลายคนได้คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ แม้ว่าจะถูกกดดันจากประธานาธิบดีคนใหม่ก็ตาม โดย Fed ยังคงมองเห็นว่าอัตราเงินเฟ้อและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงสูงเกินกว่าที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ และต้องการทราบข้อมูลเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อนำมาวิเคราะห์ในเดือนถัดๆไป
CoStar Group กล่าวว่ามีโอกาสเพิ่มเติมที่ธนาคารกลางแคนาดาอาจจะลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือ 2.5% จากระดับปัจจุบันที่ 3.25% อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความเสี่ยงจากด้านลบหลายประการ โดยเฉพาะความสามารถในการเติบโตของแคนาดาหลังจากที่มีการปรับขึ้นภาษีแล้ว นอกจากนี้การปรับตัวตัดลดเบี้ยที่ลดลงเร็วมากเกินไปอาจส่งผลให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้ามีต้นทุนที่เพิ่มมากขึ้น แล้วอาจส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อที่กลับมาเพิ่มขึ้นได้อีกครั้ง
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลแคนาดาอายุ 10 ปีลดลงมาอยู่ที่ 3.23% เนื่องจากการเทขายหุ้นเทคโนโลยีซึ่งได้รับแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับอิทธิพลของสหรัฐในด้าน AI ส่งผลให้ส่วนต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและแคนาดามีช่วงที่กว้างมากยิ่งขึ้น และสะท้อนถึงการคาดการณ์ถึงนโยบายการเงินที่แตกต่างกัน แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ แต่ธนาคารกลางแคนาดาคาดว่าปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 25 bps เนื่องจากความไม่แน่นอนทางการเมือง, การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง และข้อมูลเงินเฟ้อที่ไม่ชัดเจน
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)
แนวต้านสำคัญ: 1.4468, 1.4495, 1.4518
แนวรับสำคัญ: 1.4418, 1.4395, 1.4368
ที่มา: Investing.com
Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.4395 - 1.4418 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.4418 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.4495 และ SL ที่ประมาณ 1.4368 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2: หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.4468 - 1.4495 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.4518 และ SL ที่ประมาณ 1.4395 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1: หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.4468 - 1.4495 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1.4468 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.4395 และ SL ที่ประมาณ 1.4518 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2: หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.4395 - 1.4418 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.4368 และ SL ที่ประมาณ 1.4495 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
ชื่อ
|
S3
|
S2
|
S1
|
จุดกลับตัว
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 1.4368 | 1.4395 | 1.4418 | 1.4445 | 1.4468 | 1.4495 | 1.4518 |
Fibonacci | 1.4395 | 1.4414 | 1.4426 | 1.4445 | 1.4464 | 1.4476 | 1.4495 |
Camarilla | 1.4428 | 1.4433 | 1.4437 | 1.4445 | 1.4447 | 1.4451 | 1.4456 |
Woodie's | 1.4366 | 1.4394 | 1.4416 | 1.4444 | 1.4466 | 1.4494 | 1.4516 |
DeMark's | - | - | 1.4407 | 1.444 | 1.4457 | - | - |