บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568

Create at 2 weeks ago (Feb 03, 2025 16:00)

ตลาดร่วงหนักหลังสหรัฐฯ เพิ่มภาษีศุลกากร ตึงเครียดการค้าเพิ่มขึ้น

ตลาดการเงินโลกเผชิญกับความปั่นป่วนในวันจันทร์ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เพิ่มความตึงเครียดทางการค้าด้วยการกำหนดอัตราภาษีศุลกากรในวงกว้างต่อสินค้านำเข้าจากแคนาดา เม็กซิโก และจีน มาตรการดังกล่าวรวมถึงการเก็บภาษี 25% สำหรับสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดา และ 10% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีน ซึ่งทำให้เกิดความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ และความเป็นไปได้ที่ประเทศที่ได้รับผลกระทบจะใช้มาตรการตอบโต้ ขณะที่ตลาดหุ้นตอบสนองอย่างรุนแรง โดยฟิวเจอร์สสหรัฐฯ ดิ่งลงอย่างหนัก ฟิวเจอร์ส Nasdaq ร่วง 2.35% ฟิวเจอร์ส S&P 500 ลดลง 1.8% และราคาน้ำมันพุ่งขึ้นมากกว่า 2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

เพื่อตอบโต้ภาษีของสหรัฐฯ นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดาได้ประกาศมาตรการตอบโต้ ขณะที่ประธานาธิบดีคลอเดีย ไชน์บาว์ม ของเม็กซิโกคาดว่าจะเปิดเผยมาตรการตอบโต้ของเม็กซิโกในเร็วๆ นี้ พร้อมกันกับจีนที่ประกาศว่าจะใช้ "มาตรการตอบโต้" เช่นกัน และเตือนว่าผู้บริโภคชาวอเมริกันอาจเผชิญกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากมาตรการดังกล่าว ซึ่งความไม่แน่นอนเกี่ยวกับขอบเขตและระยะเวลาของมาตรการภาษีเหล่านี้ได้เพิ่มความตื่นตระหนกให้กับตลาดที่อยู่ภายใต้แรงกดดันจากการเทขายหุ้นเทคโนโลยีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งถูกกระตุ้นโดยโมเดล AI DeepSeek ของจีน นักวิเคราะห์เตือนว่าข้อจำกัดทางการค้าเหล่านี้อาจกดดันกำไรของบริษัท เพิ่มอัตราเงินเฟ้อ และลดความคาดหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลกระทบเพิ่มเติมต่อค่าเงิน เช่น ดอลลาร์แคนาดาและหยวนจีน 

ทั้งนี้ แม้จะมีสัญญาณเตือนล่วงหน้าเกี่ยวกับภาษีศุลกากร แต่การบังคับใช้จริงได้ทำให้ตลาดมีความผันผวนมากขึ้น โดยคำสั่งฝ่ายบริหารของทรัมป์มีข้อกำหนดสำหรับการขึ้นภาษีที่สูงขึ้นอีกหากประเทศที่ได้รับผลกระทบใช้มาตรการตอบโต้ และยังส่งสัญญาณถึงการจำกัดการค้าในวงกว้างมากขึ้นในอนาคต มาตรการดังกล่าวได้ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น ในขณะที่ค่าเงินของแคนาดาและเม็กซิโกอ่อนค่าลง ขณะเดียวกัน ตลาดจีนยังคงปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน ทำให้ยังไม่มีปฏิกิริยาต่อค่าเงินหยวนที่ชัดเจน

อย่างไรก็ดี นักวางกลยุทธ์ตลาดยังมีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับผลกระทบระยะยาวของภาษีของทรัมป์ บางฝ่ายเชื่อว่ามาตรการเหล่านี้จะอยู่ไม่นาน เนื่องจากผลกระทบทางเศรษฐกิจอาจรุนแรงเกินไป ขณะที่บางฝ่ายเตือนว่าหากข้อจำกัดทางการค้ายืดเยื้อ อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก นักวิเคราะห์ของ Morgan Stanley คาดการณ์ว่าตลาดอาจปรับฐานลง 3%–5% ขณะที่ Barclays ประเมินว่าผลกระทบของภาษีอาจลดกำไรของบริษัทใน S&P 500 ลง 2.8% นอกจากนี้ Goldman Sachs คาดว่าภาษีในวงกว้างต่อแคนาดาและเม็กซิโกอาจผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.7% และลดอัตราการเติบโตของ GDP ลง 0.4%

นอกเหนือจากความตึงเครียดทางการค้า นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญและรายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ที่จะประกาศเร็วๆ นี้ จะเป็นตัวชี้วัดสำคัญถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน ซึ่งอาจส่งผลต่อทิศทางนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ นอกจากนี้ บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี เช่น Alphabet, Amazon และ Qualcomm กำลังเตรียมเผยแพร่รายงานผลประกอบการรายไตรมาส โดยนักลงทุนให้ความสนใจเป็นพิเศษกับการใช้จ่ายด้าน AI ขณะที่การเทขายหุ้นเทคโนโลยีครั้งล่าสุด ซึ่งได้รับแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนการลงทุนใน AI และการแข่งขันจาก DeepSeek ของจีน ได้ทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความยั่งยืนของการลงทุนขนาดใหญ่ใน AI 

ทั้งนี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ นักลงทุนกำลังจับตาสถานการณ์ทางการค้าที่เปลี่ยนแปลง ธนาคารกลางสหรัฐฯ และผลประกอบการของบริษัทต่างๆ เพื่อประเมินผลกระทบที่กว้างขึ้นต่อตลาด แม้ว่าบริษัท AI และเซมิคอนดักเตอร์ขนาดใหญ่จะยังเป็นแหล่งสร้างเสถียรภาพ แต่สตาร์ทอัพเทคโนโลยีที่เติบโตสูงก็อาจมีโอกาสเช่นกัน หากการประเมินมูลค่ามีการปรับเปลี่ยน อย่างไรก็ดี ด้วยแนวโน้มความปั่นป่วนทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มเติม คาดว่าตลาดจะยังคงมีความผันผวนอย่างต่อเนื่องในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (15Min) CFD US30 DJIA

แนวต้านสำคัญ : 44029.2, 44054.9, 44096.3

แนวรับสำคัญ : 43946.4, 43920.7, 43879.3          

15Min Outlook                   

วิเคราะห์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่มา: TradingView     

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 43912.4 - 43946.4 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 43946.4 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 44040.1 และ SL ที่ประมาณ 43895.4 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 44029.2 - 44063.2 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 44148.6 และ SL ที่ประมาณ 43929.4 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 44029.2 - 44063.2 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 44029.2 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 43931.6 และ SL ที่ประมาณ 44080.2 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 43912.4 - 43946.4 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 43823.1 และ SL ที่ประมาณ 44046.2 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Feb 3, 2025 03:42PM GMT+7

Name
S3
S2
S1
Pivot Points
R1
R2
R3
Classic 43823.1 43879.3 43931.6 43987.8 44040.1 44096.3 44148.6
Fibonacci 43879.3 43920.7 43946.4 43987.8 44029.2 44054.9 44096.3
Camarilla 43954.2 43964.1 43974.1 43987.8 43993.9 44003.9 44013.8
Woodie's 43821.3 43878.4 43929.8 43986.9 44038.3 44095.4 44146.8
DeMark's - - 43959.8 44001.9 44068.2 - -

ที่มา: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิกที่นี่
รู้เท่าทันสถานการณ์โลกและบทวิเคราะห์เทคนิคขั้นสูง: คลิกที่นี่
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES