ตลาดร่วงหนักหลังสหรัฐฯ เพิ่มภาษีศุลกากร ตึงเครียดการค้าเพิ่มขึ้น
ตลาดการเงินโลกเผชิญกับความปั่นป่วนในวันจันทร์ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เพิ่มความตึงเครียดทางการค้าด้วยการกำหนดอัตราภาษีศุลกากรในวงกว้างต่อสินค้านำเข้าจากแคนาดา เม็กซิโก และจีน มาตรการดังกล่าวรวมถึงการเก็บภาษี 25% สำหรับสินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดา และ 10% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีน ซึ่งทำให้เกิดความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ และความเป็นไปได้ที่ประเทศที่ได้รับผลกระทบจะใช้มาตรการตอบโต้ ขณะที่ตลาดหุ้นตอบสนองอย่างรุนแรง โดยฟิวเจอร์สสหรัฐฯ ดิ่งลงอย่างหนัก ฟิวเจอร์ส Nasdaq ร่วง 2.35% ฟิวเจอร์ส S&P 500 ลดลง 1.8% และราคาน้ำมันพุ่งขึ้นมากกว่า 2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
เพื่อตอบโต้ภาษีของสหรัฐฯ นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดาได้ประกาศมาตรการตอบโต้ ขณะที่ประธานาธิบดีคลอเดีย ไชน์บาว์ม ของเม็กซิโกคาดว่าจะเปิดเผยมาตรการตอบโต้ของเม็กซิโกในเร็วๆ นี้ พร้อมกันกับจีนที่ประกาศว่าจะใช้ "มาตรการตอบโต้" เช่นกัน และเตือนว่าผู้บริโภคชาวอเมริกันอาจเผชิญกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากมาตรการดังกล่าว ซึ่งความไม่แน่นอนเกี่ยวกับขอบเขตและระยะเวลาของมาตรการภาษีเหล่านี้ได้เพิ่มความตื่นตระหนกให้กับตลาดที่อยู่ภายใต้แรงกดดันจากการเทขายหุ้นเทคโนโลยีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งถูกกระตุ้นโดยโมเดล AI DeepSeek ของจีน นักวิเคราะห์เตือนว่าข้อจำกัดทางการค้าเหล่านี้อาจกดดันกำไรของบริษัท เพิ่มอัตราเงินเฟ้อ และลดความคาดหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลกระทบเพิ่มเติมต่อค่าเงิน เช่น ดอลลาร์แคนาดาและหยวนจีน
ทั้งนี้ แม้จะมีสัญญาณเตือนล่วงหน้าเกี่ยวกับภาษีศุลกากร แต่การบังคับใช้จริงได้ทำให้ตลาดมีความผันผวนมากขึ้น โดยคำสั่งฝ่ายบริหารของทรัมป์มีข้อกำหนดสำหรับการขึ้นภาษีที่สูงขึ้นอีกหากประเทศที่ได้รับผลกระทบใช้มาตรการตอบโต้ และยังส่งสัญญาณถึงการจำกัดการค้าในวงกว้างมากขึ้นในอนาคต มาตรการดังกล่าวได้ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น ในขณะที่ค่าเงินของแคนาดาและเม็กซิโกอ่อนค่าลง ขณะเดียวกัน ตลาดจีนยังคงปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน ทำให้ยังไม่มีปฏิกิริยาต่อค่าเงินหยวนที่ชัดเจน
อย่างไรก็ดี นักวางกลยุทธ์ตลาดยังมีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับผลกระทบระยะยาวของภาษีของทรัมป์ บางฝ่ายเชื่อว่ามาตรการเหล่านี้จะอยู่ไม่นาน เนื่องจากผลกระทบทางเศรษฐกิจอาจรุนแรงเกินไป ขณะที่บางฝ่ายเตือนว่าหากข้อจำกัดทางการค้ายืดเยื้อ อาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก นักวิเคราะห์ของ Morgan Stanley คาดการณ์ว่าตลาดอาจปรับฐานลง 3%–5% ขณะที่ Barclays ประเมินว่าผลกระทบของภาษีอาจลดกำไรของบริษัทใน S&P 500 ลง 2.8% นอกจากนี้ Goldman Sachs คาดว่าภาษีในวงกว้างต่อแคนาดาและเม็กซิโกอาจผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.7% และลดอัตราการเติบโตของ GDP ลง 0.4%
นอกเหนือจากความตึงเครียดทางการค้า นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญและรายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ที่จะประกาศเร็วๆ นี้ จะเป็นตัวชี้วัดสำคัญถึงความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน ซึ่งอาจส่งผลต่อทิศทางนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ นอกจากนี้ บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี เช่น Alphabet, Amazon และ Qualcomm กำลังเตรียมเผยแพร่รายงานผลประกอบการรายไตรมาส โดยนักลงทุนให้ความสนใจเป็นพิเศษกับการใช้จ่ายด้าน AI ขณะที่การเทขายหุ้นเทคโนโลยีครั้งล่าสุด ซึ่งได้รับแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับต้นทุนการลงทุนใน AI และการแข่งขันจาก DeepSeek ของจีน ได้ทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความยั่งยืนของการลงทุนขนาดใหญ่ใน AI
ทั้งนี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ นักลงทุนกำลังจับตาสถานการณ์ทางการค้าที่เปลี่ยนแปลง ธนาคารกลางสหรัฐฯ และผลประกอบการของบริษัทต่างๆ เพื่อประเมินผลกระทบที่กว้างขึ้นต่อตลาด แม้ว่าบริษัท AI และเซมิคอนดักเตอร์ขนาดใหญ่จะยังเป็นแหล่งสร้างเสถียรภาพ แต่สตาร์ทอัพเทคโนโลยีที่เติบโตสูงก็อาจมีโอกาสเช่นกัน หากการประเมินมูลค่ามีการปรับเปลี่ยน อย่างไรก็ดี ด้วยแนวโน้มความปั่นป่วนทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นเพิ่มเติม คาดว่าตลาดจะยังคงมีความผันผวนอย่างต่อเนื่องในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (15Min) CFD US30 DJIA
แนวต้านสำคัญ : 44029.2, 44054.9, 44096.3
แนวรับสำคัญ : 43946.4, 43920.7, 43879.3
15Min Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 43912.4 - 43946.4 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 43946.4 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 44040.1 และ SL ที่ประมาณ 43895.4 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 44029.2 - 44063.2 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 44148.6 และ SL ที่ประมาณ 43929.4 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 44029.2 - 44063.2 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 44029.2 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 43931.6 และ SL ที่ประมาณ 44080.2 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 43912.4 - 43946.4 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 43823.1 และ SL ที่ประมาณ 44046.2 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Feb 3, 2025 03:42PM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 43823.1 | 43879.3 | 43931.6 | 43987.8 | 44040.1 | 44096.3 | 44148.6 |
Fibonacci | 43879.3 | 43920.7 | 43946.4 | 43987.8 | 44029.2 | 44054.9 | 44096.3 |
Camarilla | 43954.2 | 43964.1 | 43974.1 | 43987.8 | 43993.9 | 44003.9 | 44013.8 |
Woodie's | 43821.3 | 43878.4 | 43929.8 | 43986.9 | 44038.3 | 44095.4 | 44146.8 |
DeMark's | - | - | 43959.8 | 44001.9 | 44068.2 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ