การใช้จ่ายครัวเรือนออสเตรเลียเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่แนวโน้มลดดอกเบี้ยยังอยู่
การใช้จ่ายของครัวเรือนออสเตรเลียเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สามติดต่อกันในเดือนธันวาคม โดยได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายในกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย ตามข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งออสเตรเลีย (ABS) โดยเมื่อเทียบรายปี การใช้จ่ายขยายตัว 4.3% สูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2024 จากการซื้อรถยนต์ใหม่ การรับประทานอาหารนอกบ้าน การเดินทางทางอากาศ และบริการสตรีมมิ่ง ขณะที่สินค้าฟุ่มเฟือยอื่น ๆ เช่น เสื้อผ้าและเครื่องเรือนในบ้านก็มีส่วนช่วยในการเติบโต อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของการใช้จ่ายครั้งนี้ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงแนวโน้มที่ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง
ด้านการบริโภคของภาคครัวเรือนคาดว่าจะช่วยเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ประมาณ 0.2 จุดเปอร์เซ็นต์ในไตรมาสที่สี่ และช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจที่ยังเผชิญกับอัตราดอกเบี้ยจำนองที่สูงและค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ยอดค้าปลีกของออสเตรเลียในเดือนธันวาคมลดลง 0.1% หลังจากได้แรงหนุนจากเทศกาล Black Friday ในเดือนพฤศจิกายน อย่างไรก็ตาม การลดลงนี้น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยยอดขายยังคงอยู่ในระดับดีจาก Cyber Monday และการลดราคาที่ยืดออกไป โดยปริมาณค้าปลีกในไตรมาสที่สี่เพิ่มขึ้น 1.0% เป็น 105.8 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่สูงที่สุดตั้งแต่ต้นปี 2022
ทั้งนี้ ตลาดการเงินคาดการณ์ว่า RBA จะลดอัตราดอกเบี้ย โดยสัญญาล่วงหน้าบ่งชี้ว่ามีโอกาส 95% ที่จะลดลง 25 จุดพื้นฐานในการประชุมวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ข้อมูลเงินเฟ้อที่อ่อนตัวลงบ่งชี้ว่าภาวะเงินฝืดกำลังดำเนินไปเร็วกว่าที่คาดไว้ นักวิเคราะห์จาก Westpac คาดว่า RBA จะลดดอกเบี้ยเพิ่มในเดือนพฤษภาคม สิงหาคม และพฤศจิกายน ซึ่งอาจทำให้อัตราดอกเบี้ยลดลงเหลือ 3.35% ภายในสิ้นปี 2025 โดยต้นทุนการกู้ยืมที่ต่ำลงอาจช่วยบรรเทาภาระทางการเงินของครัวเรือนและกระตุ้นการใช้จ่ายสินค้าฟุ่มเฟือย ซึ่งถูกกดดันจากค่าครองชีพที่สูงในช่วงสองปีที่ผ่านมา
ด้านอัตราเงินเฟ้อของออสเตรเลียชะลอตัวลงต่ำสุดในรอบเกือบสี่ปีในไตรมาสที่สี่ ยืนยันแนวโน้มการลดดอกเบี้ย โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เพิ่มขึ้น 2.4% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐานลดลงเหลือ 3.2% ท่ามกลางการอุดหนุนค่าไฟฟ้าของรัฐบาลที่ช่วยบรรเทาภาวะเงินเฟ้อ แม้ว่าการใช้จ่ายที่แข็งแกร่งสำหรับการท่องเที่ยวและบริการช่วงวันหยุดจะทำให้แรงกดดันด้านราคายังคงอยู่
แม้เศรษฐกิจจะเผชิญความท้าทาย แต่ตลาดแรงงานของออสเตรเลียยังคงแข็งแกร่ง โดยอัตราว่างงานทรงตัวที่ 4.0% ขณะที่การเติบโตของค่าจ้างชะลอตัวลง ช่วยลดความเสี่ยงของภาวะเงินเฟ้อจากค่าจ้าง ท่ามกลางกิจกรรมทางธุรกิจที่ฟื้นตัวในเดือนธันวาคม โดยเฉพาะในภาคค้าปลีกที่ได้รับแรงหนุนจากเทศกาลคริสต์มาส และดัชนีสภาวะธุรกิจของ National Australia Bank (NAB) แสดงให้เห็นว่ายอดขายและผลกำไรดีขึ้นในหลายอุตสาหกรรม แม้ว่าต้นทุนยังคงเป็นปัจจัยกดดัน
อย่างไรก็ดี ออสเตรเลียยังคงเผชิญความเสี่ยงจากความตึงเครียดทางการค้าทั่วโลก แต่รัฐบาลมั่นใจว่าจะสามารถรับมือได้ รัฐมนตรีคลัง Jim Chalmers ระบุว่าการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าของสหรัฐฯ เป็นสิ่งที่คาดการณ์ไว้ และออสเตรเลียอยู่ในสถานะที่ดีในการปรับตัว แม้ว่าออสเตรเลียและนิวซีแลนด์จะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากภาษีศุลกากรใหม่ แต่ทั้งสองประเทศยังคงพึ่งพาการค้าเสรีโดยเฉพาะกับจีน
ขณะเดียวกัน ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบสามสัปดาห์หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษีศุลกากรเพิ่มเติม ส่งผลให้นักลงทุนหันเข้าหาสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ขณะเดียวกัน ความคาดหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ลดลง
ในเดือนมกราคม ภาคการผลิตของสหรัฐฯ ขยายตัวครั้งแรกในรอบกว่าสองปี แม้ว่าความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีศุลกากรยังคงเป็นปัจจัยกดดัน นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าความไม่แน่นอนของภาษีที่ยังคงมีอยู่จะส่งผลกระทบต่อภาคการผลิต เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้นทำให้สินค้าส่งออกของสหรัฐฯ มีขีดความสามารถในการแข่งขันลดลง
ด้านความต้องการสินเชื่อธุรกิจเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 4 ปี 2024 เป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ตามผลสำรวจของธนาคารกลางสหรัฐฯ ทั้งธุรกิจขนาดใหญ่และขนาดเล็กต่างแสวงหาสินเชื่อเพื่อการพาณิชย์และอุตสาหกรรมมากขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้วกระตุ้นให้เกิดการกู้ยืม ในขณะเดียวกัน ความต้องการสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ บัตรเครดิต และสินเชื่อเพื่อการบริโภคของครัวเรือนลดลงเนื่องจากอัตราจำนองที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากมุมมองนโยบายการเงินที่แตกต่างกันระหว่างธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) และธนาคารกลางสหรัฐฯ อัตราแลกเปลี่ยน AUD/USD อาจเผชิญกับแรงกดดันขาลงในช่วงใกล้นี้ แม้ว่าความคาดหวังว่า RBA จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งในปี 2025 อาจส่งผลกระทบต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย แต่ดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงได้รับการสนับสนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ยืดหยุ่น การคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่ลดลง และความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความไม่แน่นอนของนโยบายการค้า อย่างไรก็ตาม ความอ่อนแอของ AUD ในอนาคตอาจได้รับการบรรเทาจากสภาวะตลาดแรงงานของออสเตรเลียที่แข็งแกร่งและการใช้จ่ายครัวเรือนที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงหากอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ลดลงเร็วกว่าที่คาดไว้ ส่งผลให้เฟดใช้ท่าทีผ่อนปรนมากขึ้น คู่ AUD/USD อาจทรงตัวหรือฟื้นตัวได้ในช่วงปลายปี
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD AUD/USD
แนวต้านสำคัญ : 0.6214, 0.6216, 0.6219
แนวรับสำคัญ : 0.6208, 0.6206 , 0.6203
1H Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 0.6200 - 0.6208 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 0.6208 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.6216 และ SL ที่ประมาณ 0.6196 รือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 0.6214 - 0.6222 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.6227 และ SL ที่ประมาณ 0.6204 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 0.6214 - 0.6222 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 0.6214 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.6208 และ SL ที่ประมาณ 0.6226 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 0.6200 - 0.6208 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 0.6195 และ SL ที่ประมาณ 0.6218 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Feb 4, 2025 10:12AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 0.62 | 0.6203 | 0.6208 | 0.6211 | 0.6216 | 0.6219 | 0.6224 |
Fibonacci | 0.6203 | 0.6206 | 0.6208 | 0.6211 | 0.6214 | 0.6216 | 0.6219 |
Camarilla | 0.621 | 0.6211 | 0.6211 | 0.6211 | 0.6213 | 0.6213 | 0.6214 |
Woodie's | 0.62 | 0.6203 | 0.6208 | 0.6211 | 0.6216 | 0.6219 | 0.6224 |
DeMark's | - | - | 0.6209 | 0.6211 | 0.6217 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ