เงินเยนพุ่ง BOJ ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย ตลาดจับตาคุมเข้มเพิ่ม
เงินเยนญี่ปุ่นพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 สัปดาห์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากที่สมาชิกคณะกรรมการนโยบายธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เรียกร้องให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่อง ขณะที่ตลาดคาดการณ์ถึงการใช้นโยบายเข้มงวดเพิ่มเติม โดยผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGB) อยู่ที่ระดับสูงสุดในรอบหลายปี ท่ามกลางการเรียกร้องของสมาชิกคณะกรรมการ BOJ นายนาโอกิ ทามูระ ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นอย่างน้อย 1.0% ภายในปลายปี 2025 โดยเตือนว่าอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำเป็นพิเศษเป็นเวลานานอาจกระตุ้นให้เกิดเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ BOJ ได้ยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยาวนานกว่า 10 ปี และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 0.5% ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยอ้างถึงความคืบหน้าที่มั่นคงในการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของโตเกียวที่อยู่ที่ 2.5% ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วประเทศในเดือนธันวาคมอยู่ที่ 3.0% อย่างไรก็ตาม BOJ ยังคงมุ่งเน้นไปที่แนวโน้มที่ขับเคลื่อนโดยอุปสงค์ในวงกว้าง โดยคาดว่าดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานจะอยู่ที่ 2.1% ในปีงบประมาณ 2025 ซึ่งตอกย้ำความคาดหวังว่าจะมีการเข้มงวดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป
อย่างไรก็ดี BOJ มองว่าปัญหาการขาดแคลนแรงงานเป็นความท้าทายทางเศรษฐกิจหลักของญี่ปุ่น ไม่ใช่ความต้องการที่อ่อนแอ ซึ่งอาจเป็นเหตุผลในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงมากขึ้น โดยธุรกิจต่างๆ ในหลายภาคส่วน รวมถึงการผลิต การท่องเที่ยว และบริการ ต่างประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงานมากกว่าการขาดลูกค้า ซึ่งแนวโน้มของ BOJ ในเดือนมกราคมเน้นย้ำถึงการหดตัวของกำลังแรงงาน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงและผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ
ประชากรสูงอายุของญี่ปุ่นทำให้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานเรื้อรังเลวร้ายลง โดยคาดการณ์ว่าจะมีการขาดแคลนแรงงาน 3.4 ล้านคนภายในปี 2030 แม้ว่าบริษัทต่างๆ จะปรับขึ้นค่าจ้าง 5.1% ในปี 2024 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 30 ปี แต่ภาคส่วนต่างๆ เช่น การบริการและการขนส่งยังคงถูกจำกัด โดยอัตราเงินเฟ้อหลังการระบาดใหญ่ ซึ่งในช่วงแรกขับเคลื่อนโดยค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลง ปัจจุบันได้รับแรงสนับสนุนจากค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคบริการ
ด้านข้อมูลค่าจ้างในเดือนธันวาคมแสดงให้เห็นว่าเพิ่มขึ้น 2.7% โดยค่าจ้างที่แท้จริงปรับตัวดีขึ้น 0.6% หลังจากเกิดภาวะเงินเฟ้อ การใช้จ่ายครัวเรือนฟื้นตัวในเดือนธันวาคม โดยเพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน อย่างไรก็ตาม ค่าจ้างที่แท้จริงยังคงตามหลังอัตราเงินเฟ้อเนื่องจากต้นทุนอาหารและเชื้อเพลิงที่สูง ทำให้ยังคงมีแรงกดดันต่ออำนาจซื้อของครัวเรือน
ด้วยอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้น ญี่ปุ่นต้องเผชิญกับความต้องการบริการทางการเงินที่เพิ่มขึ้น โดยครัวเรือนมีสินทรัพย์ทางการเงินมูลค่า 2,200 ล้านล้านเยน (14 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นเงินสดและเงินฝาก ทำให้การลงทุนที่หลากหลายมีความจำเป็นมากขึ้น นายฮิโรฮิเดะ โคงูจิ ผู้อำนวยการบริหารธนาคารกลางญี่ปุ่น กล่าวว่าธุรกิจต่างๆ ยังคงแสวงหาบริการทางการเงินเพื่อการปรับโครงสร้างและการควบรวมกิจการ ขณะที่เทคโนโลยีดิจิทัลสามารถช่วยตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงเหล่านี้และเพิ่มผลผลิตท่ามกลางประชากรสูงอายุ
ทั้งนี้ เงินเยนแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 151.81 เยนต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 25 จุดพื้นฐานภายในเดือนกันยายน ในทางตรงกันข้าม คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 จุดพื้นฐานในเดือนกรกฎาคม โดยคาดว่าจะปรับลดทั้งหมด 46 จุดพื้นฐานภายในเดือนธันวาคม แม้ว่านายสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ยืนยันว่าทรัมป์สนับสนุนให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่รัฐบาลจะไม่กดดันให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ด้านตลาดแรงงาน จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานรายใหม่ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานกำลังผ่อนคลายลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 11,000 ราย เป็น 219,000 ราย โดยเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในนิวยอร์กและแคลิฟอร์เนีย ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากผลกระทบที่ยังคงอยู่ของไฟป่า
ทั้งนี้ ประธานเฟดสาขาดัลลาส ลอรี โลแกน ส่งสัญญาณว่าต้องการให้คงอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันไว้เป็นระยะเวลานาน แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะเข้าใกล้เป้าหมาย 2% ของเฟดก็ตาม และโต้แย้งว่าอัตราเงินเฟ้อที่คงที่ควบคู่ไปกับตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง บ่งชี้ว่านโยบายการเงินไม่ได้เข้มงวดจนเกินไป ทำให้ความเร่งด่วนในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลดลง ขณะที่ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ เห็นพ้องกับมุมมองนี้ โดยระบุว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมจะต้องทำให้เงินเฟ้อเย็นลงอย่างมีนัยสำคัญ หรือไม่ก็ทำให้ตลาดงานอ่อนแอลง ท่ามกลางข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่าดัชนีราคาเพิ่มขึ้น 2.6% ในเดือนธันวาคม ซึ่งตอกย้ำแนวทางการผ่อนคลายทางการเงินอย่างระมัดระวัง
อย่างไรก็ดี รายงานของธนาคารกลางสหรัฐฯ ประจำบอสตันเตือนว่าการที่ทรัมป์เสนอเก็บภาษีกับเม็กซิโก แคนาดา และจีน อาจทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นถึง 0.8 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะทำให้การตัดสินใจทางนโยบายของเฟดมีความซับซ้อนมากขึ้น แม้ว่าในที่สุดรัฐบาลจะระงับการเก็บภาษีกับเม็กซิโกและแคนาดา แต่แนวทางการค้าโดยรวมยังคงไม่แน่นอน
ด้วยเหตุนี้ หากธนาคารกลางญี่ปุ่นดำเนินนโยบายคุมเข้มทางการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไป และอัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นยังคงมีเสถียรภาพ เงินเยนอาจแข็งค่าขึ้นได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม เงินดอลลาร์อาจยังได้รับแรงหนุน หากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง หรือหากธนาคารกลางสหรัฐฯ ชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยยังคงมีแนวโน้มความผันผวนในระยะสั้น แต่ในระยะกลาง เงินเยนอาจมีทิศทางแข็งค่าขึ้น เนื่องจากญี่ปุ่นกำลังก้าวออกจากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเป็นพิเศษ
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1D) CFD USD/JPY
แนวต้านสำคัญ : 152.40, 152.82, 153.48
แนวรับสำคัญ : 151.08, 150.66, 150.00
1D Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 150.08 – 151.08 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 151.08 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 152.32 และ SL ที่ประมาณ 149.58 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 152.40 – 153.40 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 154.40 และ SL ที่ประมาณ 150.58 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 152.40 – 153.40 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 152.40 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 150.58 และ SL ที่ประมาณ 153.90 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 150.08 – 151.08 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 148.70 และ SL ที่ประมาณ 151.90 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Feb 7, 2025 10:13AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 148.84 | 150 | 150.58 | 151.74 | 152.32 | 153.48 | 154.06 |
Fibonacci | 150 | 150.66 | 151.08 | 151.74 | 152.4 | 152.82 | 153.48 |
Camarilla | 150.69 | 150.85 | 151.01 | 151.74 | 151.33 | 151.49 | 151.65 |
Woodie's | 148.56 | 149.86 | 150.3 | 151.6 | 152.04 | 153.34 | 153.78 |
DeMark's | - | - | 150.3 | 151.6 | 152.03 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ