ธนาคารกลางญี่ปุ่นมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป

ค่าเงินเยนของญี่ปุ่นกลับมาส่งตัวอีกครั้งหลังจากโอนค่าลงในช่วงก่อนหน้า โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากมีมาตรการภาษีล่าสุดของสหรัฐฯ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารได้กำหนดขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม 25% ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าโลกที่กำลังเกิดขึ้น และมีความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่อาจกลับมาเพิ่มขึ้นได้อีกครั้ง ซึ่งอาจส่งผลต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมของธนาคารกลางสหรัฐ ในขณะเดียวกัน ได้มีการคาดการณ์จากนักลงทุนว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีนี้ เนื่องจากการใช้จ่ายครัวเรือนที่ยังสูงเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้

ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ซึ่งใช้วัดแนวโน้มเศรษฐกิจในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าโดยอาศัยข้อมูลต่างๆ เช่น การเสนอการจ้างงานและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 108.9 ในเดือนธันวาคม ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นมานี้เกิดจากอัตราการว่างงานที่ลดลงเล็กน้อย ในขณะที่ตัวเลขการจ้างงานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในเดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ การใช้จ่ายภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการใช้จ่ายที่กลับมาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

ดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจญี่ปุ่นซึ่งรวมถึงข้อมูลต่างๆ เช่น ผลผลิตของโรงงาน, การจ้างงาน และยอดขายปลีก เพิ่มขึ้นเป็น 116.8 ในเดือนธันวาคม จาก 115.4 ในเดือนก่อนหน้า ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่นยังสามารถฟื้นตัวได้แม้ว่าจะอยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับแรงสนับสนุนจากการจ้างงานที่เพิ่มมากขึ้นและการเติบโตของค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม แรงกดดันด้านต้นทุนยังคงมีอยู่เนื่องจากญี่ปุ่นยังเข้าสินค้าอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยที่สูงในสหรัฐฯ และยุโรป ทำให้การนำเข้าสินค้ามีต้นทุนที่เพิ่มมากขึ้น 

การใช้จ่ายครัวเรือนเพิ่มขึ้น 2.7% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนธันวาคม ถือเป็นการเติบโตครั้งแรกในรอบ 5 เดือน เนื่องจากบริษัทต่างๆได้จ่ายโบนัสในช่วงฤดูหนาว ส่งผลให้การใช้จ่ายส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายในเครื่องนุ่งห่มและรองเท้า ซึ่งเพิ่มขึ้น 4.1% ในขณะเดียวกัน การใช้จ่ายสำหรับที่อยู่อาศัยยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นค่าจ้างอย่างต่อเนื่องได้ส่งผลเชิงบวกให้แก่ความสามารถในการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนด้วยเช่นกัน

นาโอกิ ทามูระ กรรมการบริหารธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) ได้แสดงความคิดเห็นว่าควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 1% หรือสูงกว่านั้นในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2025 โดยให้เหตุผลว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นนี้เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อลดความเสี่ยงด้านอัตราเงินเฟ้อที่มากเกินไปและช่วนสนับสนุนค่าเงินเยนให้กลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง นอกจากนี้ แม้ว่าธนาคารกลางจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 0.75% จาก 0.5% แต่แนวโน้มเศรษฐกิจยังคงอยู่ในภาวะทางการเงินที่ผ่อนคลาย เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยจริงจะยังคงติดลบ

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นเกิน 1.3% นับว่าเป็นการทำจุดสูงสุดในรอบ 14 ปี โดยแรงสนับสนุนส่วนใหญ่ยังคงเกิดจากการคาดการณ์ของนักลงทุนวัฒนาคากลางญี่ปุ่นจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป นอกจากนี้ยังได้แรงสนับสนุนเพิ่มเติมว่าอาจมีการปรับขึ้นอะต่อดอกเบี้ยไปถึง 1% นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงให้ความสนใจกับการประกาศ GDP แล้วตังค์เงินเฟ้อของญี่ปุ่นในสัปดาห์หน้า เพื่อหาข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในอนาคต นอกจากนี้การประกาศอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ หากส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้งเนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับภาษีนำเข้าสินค้า