อัตราเงินเฟ้อของจีนกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

ค่าเงินหยวนแต่ค่าขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนกำลังประเมินผลกระทบจากความตึงเครียดทางการค้าโลกที่เพิ่มมากขึ้น โดยมีรายงานจากทางสหรัฐว่าการปรับขึ้นภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจประกาศใช้นโยบายเร็วที่สุดในวันพฤหัสบดีนี้ โดยมีการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 10%  และภาษีเหล็กและอลูมิเนียมอีก 25%  อย่างไรก็ตาม การคุยกันของประธานาธิบดีทรัมป์ และประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน อาจเพิ่มบรรเทาหรือชะลอภาษีการค้าที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ ในขณะเดียวกัน รัฐบาลของจีนได้กำลังพิจารณาเงินมูลค่ากว่า 50,000 ล้านหยวน เพื่อสนับสนุนภาคอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง 

PMI ภาคการผลิตของจีนอยู่ที่ 50.1 ในเดือนมกราคม โดยเป็นการเติบโตของกิจกรรมภาคกลางผลิต 4 เดือนติดต่อกัน แม้ว่าแนวโน้มอัตราการเติบโตจะเริ่มชะลอตัวลงก็ตาม เนื่องจากคำสั่งซื้อจากต่างประเทศหดตัวเป็นเดือนที่ 2 ท่ามกลางความท้าทายที่เพิ่มมากขึ้นจากนโยบายทางการค้าทั่วโลก โดยเฉพาะการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม การจ้างงานลดลงมากที่สุดตั้งแต่ปี 2024 ในด้านต้นทุนการผลิตพบว่าราคาวัตถุดิบยังคงทรงตัว ในขณะที่ราคาขายสินค้าลดลงในอัตราที่รวดเร็ว ดร.หวัง เจ๋อ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ Caixin Insight Group กล่าวว่า นโยบายที่นำมาใช้ในปีที่ผ่านมาเรื่องแสดงให้เห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมแล้ว

อัตราเงินเฟ้อประจำปีของจีนพุ่งขึ้นแตะ 0.5% ในเดือนมกราคม จาก 0.1% ในเดือนธันวาคม นับว่าเป็นการเพิ่มขึ้นมากกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่ 0.4% โดยได้รับแรงหนุนจากเทศกาลตรุษจีนในช่วงปลายเดือน ส่งผลให้มีการผลักดันอุปสงค์ภายในประเทศและช่วยให้การค้าขายเพิ่มขึ้น นอกจากนี้การเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้ออย่างสะท้อนให้เห็นถึงผลลัพธ์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล่าสุดของรัฐบาลและนโยบายการเงินที่สนับสนุนเศรษฐกิจของธนาคารกลาง ส่งผลให้ราคาอาหารฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย โดยส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของราคาเนื้อหมูที่เพิ่มขึ้นกว่า 13.8% ในขณะที่ราคาผักสดเพิ่มขึ้นเพียง 2.4% ด้านดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมอาหารและพลังงานที่ผันผวน เพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน 

ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 3.209 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนมกราคม เนื่องจากเงินหยวนอ่อนค่าลง 0.7% ในขณะที่เงินดอลลาร์แทบไม่เปลี่ยนแปลง ในขณะเดียวกัน การสำรองทองคำอยู่ที่ 73.45 ล้านออนซ์ทรอย สูงกว่า 73.29 ล้านออนซ์ในเดือนก่อนหน้า ทำให้มูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 206.53 พันล้านดอลลาร์จาก 193.43 พันล้านดอลลาร์ สอดคล้องกับราคาทองคำที่พุ่งสูงขึ้น นอกจากนี้ ยังแสดงให้เห็นว่าจีนยังคงเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการสะสมทองคำอย่างต่อเนื่อง

คณะรัฐมนตรีจีนประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่าจะดำเนินนโยบายที่ช่วยส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ โดนเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาเสถียรภาพการลงทุนต่างๆ ซึ่งมีความสำคัญต่อการสร้างงาน โดยการประชุมประจำสัปดาห์ล่าสุดได้ระบบแผนงานที่จะเพิ่มรายได้ของประชาชน และส่งเสริมการเติบโตของรายได้อย่างยั่งยืน โดยได้มีการลงทุนในภาคส่วนสำคัญ เช่น วัฒนธรรม, การท่องเที่ยวและกีฬา นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ารัฐบาลจะขยายความคุ้มครองด้านเงินบำนาญเพิ่มเติมในเดือนมีนาคมนี้ นอกจากนี้ การประชุมนี้ยังได้เปิดเผยเป้าหมายการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศสำหรับปี 2025 ควบคู่ไปกับนโยบายสนับสนุนอื่นๆ อีกด้วย