ธนาคารกลางรัสเซียตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่ผ่านมา

ค่าเงินรูเบิลรัสเซียทรงตัวในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่มีข่าวว่าคณะผู้แทนรัสเซียจะเข้าร่วมการเจรจากับยูเครนและสหรัฐฯ เพื่อเจรจาเงื่อนไขการหยุดยิง หลังจากที่ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้คำมั่นว่าจะไกล่เกลี่ยข้อตกลงสันติภาพ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่าการเจรจาในครั้งนี้อาจประสบความสำเร็จและช่วยบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ สมาชิกฝ่ายบริหารของทรัมป์ยังสนับสนุนความเป็นไปได้ในการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรหลังจากเกิดความขัดแย้ง ซึ่งจำกัดการส่งออกของรัสเซียและการเข้าถึงตลาดการเงินทั่วโลกตั้งแต่ปี 2022 ทำให้ความต้องการเงินรูเบิลลดลงอย่างมาก

อัตราเงินเฟ้อประจำปีของรัสเซียเพิ่มขึ้นเป็น 9.9% ในเดือนมกราคม จาก 9.5% ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ปี 2023 โดยการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อนี้สอดคล้องกับการคาดการณ์ของธนาคารกลางรัสเซียว่าอัตราเงินเฟ้อจะเข้าใกล้ 10% ในช่วงเปลี่ยนผ่านของปีท่ามกลางค่าเงินรูเบิลที่อ่อนค่าลง นอกจากนี้ วิกฤตแรงงานที่เกิดขึ้นจากการระดมกำลังพล และระดับการใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นบางส่วนจากการสนับสนุนของรัฐบาลช่วยกระตุ้นให้อัตราเงินเฟ้อกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

ธนาคารกลางรัสเซียคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 21% ในการประชุมเดือนกุมภาพันธ์ สอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด โดยธนาคารกลางรัสเซียมีความคิดเห็นว่าตาเงินเฟ้อยังคงสูงมากเกินไป ในขณะที่อุปสงค์ภายในประเทศยังคงอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับกำลังการผลิตในประเทศ นอกจากนี้ ต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นในขณะที่อัตราการว่างงานต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ตาม อัตราเงินเฟ้อยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ธนาคารกลางใช้พิจารณาการปรับอัตราดอกเบี้ย

GDP ของรัสเซียขยายตัว 4.1% ในปี 2024 โดยได้รับการสนับสนุนจากการใช้จ่ายของรัฐบาลและการลงทุนด้านการทหารที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในขณะที่รัสเซียยังคงทำสงครามกับยูเครน การใช้จ่ายของรัฐบาลเติบโตขึ้นกว่า 4.5% จาก 3.8% ในปีก่อนหน้า ในขณะที่การลงทุนส่วนใหญ่ยังคงเป็นการลงทุนในด้านกำลังพลและอาวุธซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 10.2% จาก 7.7% ในขณะเดียวกันการใช้จ่ายภาคครัวเรือนขยายตัวที่ 5.5% นับว่าเป็นการชะลอตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากเงินเฟ้อที่สูงขึ้นทำให้ผู้บริโภคต้องเผชิญกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

รัสเซียเกินดุลการค้ากว่า 5.6 พันล้านดอลลาร์ในเดือนธันวาคม 2024 ลดลงอย่างรวดเร็วจาก 10.9 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน นับว่าเป็นการเกินดุลการค้าที่ต่ำที่สุดตั้งแต่ปี 2020 เนื่องจากการส่งออกลดลงอย่างรวดเร็วที่ 19.2% โดยมีมูลค่าการส่งออกเหลือเพียง 31.3 พันล้านดอลลาร์ โดยได้รับแรงกดดันจากความต้องการพลังงานที่ชะลอตัวจากจีน ซึ่งเป็นประเทศหลักในการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ของรัสเซียตั้งแต่การคว่ำบาตรของชาติตะวันตก ในขณะเดียวกัน การนำเข้าลดลง 7.5% เหลือ 25.7 พันล้านดอลลาร์ การชะลอตัวของการนำเข้านี้ได้รับผลกระทบจากค่าเงินรูเบิลที่อ่อนค่าลงส่งผลให้ต้นทุนในการผลิตเพิ่มมากขึ้น ในขณะเดียวกันที่เศรษฐกิจยังคงมีแนวโน้มอ่อนแอ ทำให้กำลังซื้อของครัวเรือนและธุรกิจของรัสเซียซบเซา

อัตราการว่างงานของรัสเซียอยู่ที่ 2.3% ในเดือนธันวาคม โดยจำนวนผู้ว่างงานลดลงเหลือ 1.788 ล้านคน จาก 1.797 ล้านคน โดยปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่เพิ่มมากขึ้นส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วน นอกจากนี้ การเกณฑ์ทหารจำนวนมากโดยกองทัพ รวมถึงการย้ายถิ่นฐาน ทำให้จำนวนแรงงานภายในประเทศลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้อัตราการว่างงานต่ำสุดเป็นประวัติการณ์