การเติบโตของยูโรโซนยังคงไม่เห็นสัญญาณที่ชัดเจน

ค่าเงินยูโรกลับมาส่งตัวอีกครั้งหลังจากอ่อนค่า 3 สัปดาห์ติดต่อกัน เนื่องจากนักลงทุนเตรียมรับมือกับค่าเงินที่อาจผันผวนสำหรับการเลือกตั้งทั่วไปของเยอรมนีในวันอาทิตย์และประเมินข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ล่าสุด จากผลสำรวจการเลือกตั้งในเยอรมนีชี้ให้เห็นว่ากลุ่มที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยม ซึ่งนำโดย Friedrich Merz จะแนวโน้มที่จะชนะการเลือกตั้ง แต่จะต้องมีพันธมิตรร่วมรัฐบาลเพื่อจัดตั้งรัฐบาลท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจซบเซา ในด้านข้อมูลเศรษฐกิจของยูโรโซน แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมของเอกชนมีการเติบโตเล็กน้อยเท่านั้น และส่งสัญญาณถึงภาวะเศรษฐกิจที่อาจชะลอตัวลงได้อีกหลังจากการประกาศข้อมูล GDP ในไตรมาสที่ 4 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม มุมมองของนักลงทุนยังคงมองว่าความตึงเครียดทางภูมิศาสตร์ยังคงดำเนินอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่สหรัฐฯ ส่งสัญญาณถึงแผนการลดการสนับสนุนยูเครนในขณะที่กำลังเจรจากับรัสเซีย โดยไม่นับรวมยูเครนและยุโรป นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ มีแนวโน้มที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์, เซมิคอนดักเตอร์ และยาเป็น 25% เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อผู้ผลิตในยุโรป และสร้างแรงกดดันต่อประเทศผู้ผลิตที่มีการเกินทุนการค้ากับสหรัฐเป็นส่วนใหญ่ 

PMI ภาคบริการของยูโรโซนลดลงมาอยู่ที่ 50.7 ในเดือนกุมาพันธ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน จาก 51.3 ในเดือนมกราคม ตัวเลขดังกล่าวแม้ว่าจะเป็นการขยายตัวกิจกรรมภาคบริการ 3 เดือนติดต่อกัน แต่อัตราการเติบโตนี้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่อ่อนแอ แสดงให้เห็นจากธุรกิจเกิดใหม่ที่ลดลงไปครั้งแรกในรอบ 3 เดือน แม้ว่าอาการจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยก็ตาม เมื่อมาดูด้านต้นทุนการผลิต พบว่าต้นทุนการผลิตยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอัตราที่รวดเร็วใกล้เคียงกับเดือนมกราคม 

ด้าน PMI ภาคการผลิตเพิ่มขึ้นแตะ 47.3 ในเดือนกุมภาพันธ์ จาก 46.6 ในเดือนมกราคม โดยตัวเร่งดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องของกิจกรรมในภาคการผลิต 9 เดือนติดต่อกัน เนื่องจากการผลิตส่วนใหญ่ยังคงมีแนวโน้มลดลง แสดงให้เห็นจากจำนวนแรงงานในภาคการผลิตที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะเดียวกันบริษัทต่างๆในยูโรโซนยังคงลดการซื้อสินค้าของตนลง เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่ยังคงมีแนวโน้มอ่อนแอ ในด้านต้นทุนการผลิตพบว่า ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันและเพิ่มขึ้นในอัตราที่เร็วที่สุดในรอบ 6 เดือน ส่งผลให้ราคาขายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 0.6 จุดเป็น -13.6 ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน ตามการรายงานพบว่า ผู้บริโภคยังคงมองในแง่ดีว่าธนาคารกลางยุโรปจะยังคงปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีนี้ โดยคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรปฉบับหรือว่าอัตราดอกเบี้ยลงอีก 25 bps ในการประชุม 3 ครั้งถัดไป และชี้ให้เห็นว่ามีโอกาสมากขึ้นที่อัตราดอกเบี้ยจะลดลงต่ำกว่า 2% ภายในปี 2026 โดยโอกาสที่เพิ่มขึ้นนี้เกิดจากอัตราเงินเฟ้อที่ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก ในขณะที่ความสามารถในการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนยังคงทรงตัว 

ดุลการค้าของยูโรโซนลดลงเหลือ 15,500 ล้านยูโรในเดือนธันวาคม จาก 16,400 ล้านยูโรในปีก่อน แต่สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 14,400 ล้านยูโร เนื่องจากการนำเข้าเพิ่มขึ้นมากกว่าการส่งออก โดยการนำเข้าเพิ่มขึ้น 3.8% จากปีก่อนหน้าเป็น 211,000 ล้านยูโร โดยการนำเข้าโดยการนำเข้าสินค้าส่วนใหญ่ยังคงเป็นสินค้าประเภทเครื่องจักรในยานยนต์ ในขณะที่การส่งออกเพิ่มขึ้นเพียง 3.1% สู่ 226,500 ล้านยูโร นำโดยการขายสารเคมีและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง