ธนาคารกลางจีนตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกุมภาพันธ์ 

ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลงเล็กน้อย แม้ว่าธนาคารกลางจีนจะให้คำสัญญาว่าจะหนุนค่าเงินหยวนท่ามกลางแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ โดยการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐนี้เกิดขึ้นจากจุดยืนที่แข็งกร้าวของธนาคารกลางสหรัฐในเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และแรงกดดันจากภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งอาจส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ค่าเงินหยวนได้รับแรงหนุนบางส่วนจากคำพูดของประธานาธิบดีทรัมป์ที่จะตกลงเจรจาการค้ากับจีน ทำให้นักลงทุนมีมุมมองที่มองโลกในแง่ดีมากขึ้นสำหรับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน 

ธนาคารประชาชนจีน (PBoC) ได้ระบุในรายงานการดำเนินนโยบายการเงินประจำไตรมาสที่ 4 ว่าจะปรับนโยบายทางการเงินในเวลาที่เหมาะสม เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจภายในประเทศ หลังจากได้รับแรงกดดันจากภายนอกที่เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่อุปสงค์ภายในประเทศยังคงมีแนวโน้มชะลอตัวลง นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากอัตราเงินฝืดและการค้าที่ทวีความตึงเครียดมากขึ้น เพื่อรับมือกับความเสี่ยงเหล่านี้ PBoC จำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินที่ครอบคลุม รวมถึงอัตราดอกเบี้ยและอัตราส่วนเงินสำรองของธนาคาร 

อย่างไรก็ตาม การปรับใช้นโยบายทางการเงินดังกล่าวจำเป็นจะต้องปรับตามสภาพเศรษฐกิจในประเทศและทั่วโลก นอกจากนี้ PBoC ยังยืนยันที่จะรักษาสภาพคล่องที่เพียงพอ สนับสนุนการฟื้นตัวในระดับปานกลางของอัตราเงินเฟ้อ และรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนให้อยู่ในจุดที่สมเหตุสมผล ในส่วนของ GDP เจ้าหน้าของจีนคาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโตอย่างมั่นคงในปี 2025 หลังจากขยายตัว 5.0% เมื่อปีที่แล้ว

ธนาคารในประเทศจีนขยายสินเชื่อใหม่มูลค่า 5,130,000 ล้านหยวนในเดือนมกราคม ถือเป็นการขยายตัวของสินเชื่อสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่ 800,000 ล้านหยวน เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วยค้ำประกันสินเชื่อ นอกจากนี้ ผู้ให้กู้มักจะปล่อยสินเชื่อก่อนกำหนดเพื่อให้ได้ลูกค้าและขยายส่วนแบ่งการตลาดในช่วงต้นปี ส่งผลให้ปริมาณเงินหมุนเวียนเพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ธนาคารประชาชนจีน (PBoC) ได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้เป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันในการประชุมเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ชั้นดีระยะเวลา 1 ปี (LPR) ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงสำหรับสินเชื่อเพื่อธุรกิจและครัวเรือนส่วนใหญ่ ยังคงอยู่ที่ 3.1% ในขณะที่อัตราดอกเบี้ย LPR ระยะเวลา 5 ปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงสำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัย ยังคงอยู่ที่ 3.6% ซึ่งทั้ง 2 อัตราดอกเบี้ยนี้อยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากที่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนตุลาคมและกรกฎาคมของปีก่อนหน้า 

ทั้งนี้ การคงอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางเกิดขึ้นจากความผันผวนของค่าเงินหยวนและนโยบายการค้าที่กดดันเศรษฐกิจภายในประเทศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านภาษีนำเข้า ในขณะเดียวกัน PBoC ได้ประกาศเมื่อไม่นานนี้ว่าจะเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจที่ซบเซา รวมถึงการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยและอัตราส่วนเงินสำรองของธนาคารสำหรับธนาคารพาณิชย์ เพื่อกระตุ้นการกู้ยืมในระบบเศรษฐกิจให้มากขึ้น