บทวิเคราะห์ USD/CAD วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568

Create at 1 month ago (Feb 24, 2025 10:40)

ธนาคารกลางแคนาดาเตือน ความขัดแย้งทางการค้าอาจฉุดเศรษฐกิจถาวร

ธนาคารกลางแคนาดา (BoC) เตือนถึงความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯ ที่ยืดเยื้อที่อาจทำให้ GDP ของแคนาดาลดลงถาวร ตามบันทึกการประชุมนโยบายล่าสุด BoC เน้นย้ำว่าความขัดแย้งทางการค้าที่ต่อเนื่องอาจทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจอ่อนแอลง กระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน เพิ่มแรงกดดันเงินเฟ้อ และทำให้ค่าเงินดอลลาร์แคนาดาอ่อนค่าลง นอกจากนี้ ธุรกิจบางแห่งเริ่มพิจารณาย้ายฐานการผลิตไปยังสหรัฐฯ ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการไหลออกของเงินทุนและความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว

ผู้ว่าการธนาคารกลาง Tiff Macklem เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการรักษาเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% ของ BoC ในการทบทวนนโยบายปี 2026 ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการค้า พร้อมทั้งเตือนว่าหากสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีในวงกว้าง เศรษฐกิจแคนาดาจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง และอาจส่งผลให้ GDP ลดลงต่อเนื่องในระยะยาว โดย Macklem อธิบายถึงสถานการณ์ดังกล่าวที่เป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างมากกว่าจะเป็นเพียงแรงกระแทกชั่วคราว นอกจากนี้ ยังแนะนำว่า BoC อาจต้องปรับปรุงเครื่องมือนโยบายการเงิน โดยเฉพาะด้านการวัดเงินเฟ้อและนโยบายที่เกี่ยวข้องกับตลาดที่อยู่อาศัย รวมถึงคาดการณ์ว่าหากสหรัฐฯ ดำเนินมาตรการภาษีและแคนาดาตอบโต้ เศรษฐกิจอาจแทบไม่พบการเติบโตเลยในปี 2025-2026 พร้อมกับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นในระยะสั้น

ด้านอัตราเงินเฟ้อของแคนาดาเพิ่มขึ้นเป็น 1.9% ในเดือนมกราคม จากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติที่สูงขึ้น แม้ว่าการลดภาษีขายชั่วคราวจะช่วยบรรเทาภาวะเงินเฟ้อในวงกว้าง ดัชนี CPI พื้นฐานยังคงอยู่ในกรอบเป้าหมาย 1%-3% ของ BoC เป็นเวลา 6 เดือน นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ามีโอกาส 63% ที่ BoC จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในการประชุมเดือนมีนาคม แต่แนวโน้มอาจเปลี่ยนแปลงหากสหรัฐฯ เดินหน้าขึ้นภาษีนำเข้า ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์แคนาดาอ่อนค่าลงเล็กน้อย และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางมาตรวัดเงินเฟ้อหลักของ BoC ได้แก่ CPI-median และ CPI-trim ที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 2.7% สะท้อนแรงกดดันด้านราคาในระดับพื้นฐานที่ยังคงอยู่

สำหรับยอดค้าปลีกของแคนาดาเติบโต 2.5% ในเดือนธันวาคม ได้แรงหนุนจากการลดภาษีขายของรัฐบาลและยอดขายยานยนต์ที่แข็งแกร่ง การเพิ่มขึ้นของยอดใช้จ่ายภาคครัวเรือนช่วยพยุงเศรษฐกิจท่ามกลางความไม่แน่นอน นักวิเคราะห์มองว่าการขยายตัวของการบริโภคอาจทำให้ BoC ชะลอการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเบื้องต้นของเดือนมกราคมบ่งชี้ว่ายอดค้าปลีกลดลง 0.4% สร้างความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภค ขณะที่อัตราการเติบโตของ GDP ในไตรมาส 4 ปี 2024 คาดว่าจะอยู่ที่ 1.7% (Annualized)

ทั้งนี้ ความตึงเครียดทางการค้าทำให้นักลงทุนแคนาดาหันไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยขึ้น เช่น ทองคำ และหุ้นของบริษัทที่ผลิตสินค้าที่มีคู่แข่งน้อย เช่น ยูเรเนียม ท่ามกลางสัดส่วนการส่งออก 75% ของแคนาดาที่มุ่งไปยังสหรัฐฯ ทำให้การขึ้นภาษีของทรัมป์เป็นความเสี่ยงสำคัญ แม้ว่าภาคการเงิน อสังหาริมทรัพย์ และพลังงานจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่หุ้นในอุตสาหกรรมที่อ่อนไหวต่อการค้า เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์และเหล็กกล้า ได้ปรับตัวลดลงตั้งแต่ทรัมป์กลับมาดำรงตำแหน่ง โดยความไม่แน่นอนดังกล่าวช่วยหนุนความต้องการทองคำ ส่งผลให้ดัชนี TSX ได้รับแรงสนับสนุน ขณะที่นักลงทุนเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในบริษัทน้ำมันและก๊าซที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินดอลลาร์แคนาดาที่อ่อนค่า ส่งผลให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตลาดจะมีความผันผวน แต่มองเห็นโอกาสในการลงทุนในบางภาคส่วน

ด้านค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเมื่อวันศุกร์ แต่ลดลงภายหลังจากข้อมูลกิจกรรมทางธุรกิจที่อ่อนแอที่สุดในรอบ 17 เดือน ท่ามกลางข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ซบเซาและยอดขายบ้านที่น่าผิดหวังทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า Fed อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยนักลงทุนจะจับตาการเปิดเผยดัชนี PCE ในสัปดาห์นี้เพื่อประเมินทิศทางนโยบายการเงินต่อไป

ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคในสหรัฐฯ ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือนในเดือนกุมภาพันธ์ โดยครัวเรือนกังวลว่าภาษีของทรัมป์อาจกระทบต่อกำลังซื้อ โดยดัชนีความเชื่อมั่นของมหาวิทยาลัยมิชิแกนลดลงสู่ระดับ 64.7 ขณะที่คาดการณ์เงินเฟ้อในอีกหนึ่งปีข้างหน้าพุ่งขึ้นเป็น 4.3% สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2023

ด้านกิจกรรมทางธุรกิจของสหรัฐฯ ชะลอตัวอย่างหนัก โดยดัชนี S&P Global Composite PMI ลดลงสู่ระดับ 50.4 ขณะที่ภาคการผลิตได้รับประโยชน์ระยะสั้นจากการเร่งสต็อกสินค้าเพื่อรับมือกับต้นทุนภาษีที่อาจเกิดขึ้น ท่ามกลางภาคบริการที่หดตัวเป็นครั้งแรกในรอบกว่าหนึ่งปี ความกังวลเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาล รวมถึงข้อจำกัดทางการค้าและการปรับลดงบประมาณของรัฐบาลกลาง ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น โดยการปรับลดงบประมาณของรัฐบาลกลางนำไปสู่การสูญเสียตำแหน่งงาน ซึ่งเพิ่มความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ นโยบายของทรัมป์ยังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ อัตราเงินเฟ้อ และตลาดการเงิน แม้ว่าต้นทุนจะเพิ่มขึ้น แต่ตลาดซื้อขายสัญญาล่วงหน้าส่งสัญญาณว่ามีโอกาสสูงที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งในปี 2025 โดยคาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายนและตุลาคม ท่ามกลางยอดขายบ้านมือสองที่ลดลง 4.9% ในเดือนมกราคม เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยจำนองที่สูงและภาษีนำเข้าวัสดุก่อสร้างที่กระทบต่อความสามารถในการซื้อ

อย่างไรก็ดี ตลาดยังคงกังวลด้านการคลัง แม้ว่ารัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ สกอตต์ เบสเซนต์ จะพยายามสร้างความมั่นใจให้ตลาดว่าจะไม่มีแผนออกตราสารหนี้ระยะยาวในทันที แต่การลดภาษีที่ทรัมป์เสนออาจเพิ่มหนี้สาธารณะมากกว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์ภายในทศวรรษหน้า ท่ามกลางธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่กำลังพิจารณาการปรับงบดุล ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลและเงื่อนไขทางการเงิน

ด้วยเหตุนี้ คู่สกุล USD/CAD คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นในระยะใกล้ เนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และแคนาดาที่ยืดเยื้อที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของแคนาดา นอกจากนี้ ความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัยของนักลงทุน เช่น ทองคำและพันธบัตรสหรัฐฯ ยังเป็นปัจจัยกดดันค่าเงิน CAD โดยในระยะสั้น ค่าเงิน CAD ที่อ่อนค่าลงเนื่องจากความเสี่ยงด้านการค้าและภาวะเศรษฐกิจซบเซาอาจทำให้ค่าเงิน USD/CAD เคลื่อนตัวเข้าใกล้ระดับแนวต้านที่สูงขึ้น โดยอาจมีความผันผวนเกิดขึ้นได้เมื่อตลาดตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของนโยบายภาษีศุลกากรและการเปลี่ยนแปลงนโยบายของธนาคารกลาง

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD USD/CAD

แนวต้านสำคัญ : 1.4195, 1.4198, 1.4204                

แนวรับสำคัญ : 1.4183, 1.4180, 1.4174                

1H Outlook             

วิเคราะห์ USD/CAD ที่มา: TradingView            

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.4175 - 1.4183 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.4183 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.4195 และ SL ที่ประมาณ 1.4171 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.4195 - 1.4203 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.4214 และ SL ที่ประมาณ 1.4179 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.4195 - 1.4203 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1.4195 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.4180 และ SL ที่ประมาณ 1.4207 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.4175 - 1.4183 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.4166 และ SL ที่ประมาณ 1.4199 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Feb 24, 2025 10:14AM GMT+7

Name
S3
S2
S1
Pivot Points
R1
R2
R3
Classic 1.4165 1.4174 1.418 1.4189 1.4195 1.4204 1.421
Fibonacci 1.4174 1.418 1.4183 1.4189 1.4195 1.4198 1.4204
Camarilla 1.4183 1.4184 1.4186 1.4189 1.4188 1.419 1.4191
Woodie's 1.4165 1.4174 1.418 1.4189 1.4195 1.4204 1.421
DeMark's - - 1.4177 1.4188 1.4192 - -

ที่มา: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิกที่นี่
รู้เท่าทันสถานการณ์โลกและบทวิเคราะห์เทคนิคขั้นสูง: คลิกที่นี่
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES