ธนาคารกลางแคนาดาเตือน ความขัดแย้งทางการค้าอาจฉุดเศรษฐกิจถาวร
ธนาคารกลางแคนาดา (BoC) เตือนถึงความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯ ที่ยืดเยื้อที่อาจทำให้ GDP ของแคนาดาลดลงถาวร ตามบันทึกการประชุมนโยบายล่าสุด BoC เน้นย้ำว่าความขัดแย้งทางการค้าที่ต่อเนื่องอาจทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจอ่อนแอลง กระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน เพิ่มแรงกดดันเงินเฟ้อ และทำให้ค่าเงินดอลลาร์แคนาดาอ่อนค่าลง นอกจากนี้ ธุรกิจบางแห่งเริ่มพิจารณาย้ายฐานการผลิตไปยังสหรัฐฯ ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการไหลออกของเงินทุนและความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว
ผู้ว่าการธนาคารกลาง Tiff Macklem เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการรักษาเป้าหมายเงินเฟ้อที่ 2% ของ BoC ในการทบทวนนโยบายปี 2026 ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการค้า พร้อมทั้งเตือนว่าหากสหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีในวงกว้าง เศรษฐกิจแคนาดาจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง และอาจส่งผลให้ GDP ลดลงต่อเนื่องในระยะยาว โดย Macklem อธิบายถึงสถานการณ์ดังกล่าวที่เป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างมากกว่าจะเป็นเพียงแรงกระแทกชั่วคราว นอกจากนี้ ยังแนะนำว่า BoC อาจต้องปรับปรุงเครื่องมือนโยบายการเงิน โดยเฉพาะด้านการวัดเงินเฟ้อและนโยบายที่เกี่ยวข้องกับตลาดที่อยู่อาศัย รวมถึงคาดการณ์ว่าหากสหรัฐฯ ดำเนินมาตรการภาษีและแคนาดาตอบโต้ เศรษฐกิจอาจแทบไม่พบการเติบโตเลยในปี 2025-2026 พร้อมกับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นในระยะสั้น
ด้านอัตราเงินเฟ้อของแคนาดาเพิ่มขึ้นเป็น 1.9% ในเดือนมกราคม จากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติที่สูงขึ้น แม้ว่าการลดภาษีขายชั่วคราวจะช่วยบรรเทาภาวะเงินเฟ้อในวงกว้าง ดัชนี CPI พื้นฐานยังคงอยู่ในกรอบเป้าหมาย 1%-3% ของ BoC เป็นเวลา 6 เดือน นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ามีโอกาส 63% ที่ BoC จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในการประชุมเดือนมีนาคม แต่แนวโน้มอาจเปลี่ยนแปลงหากสหรัฐฯ เดินหน้าขึ้นภาษีนำเข้า ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์แคนาดาอ่อนค่าลงเล็กน้อย และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น ท่ามกลางมาตรวัดเงินเฟ้อหลักของ BoC ได้แก่ CPI-median และ CPI-trim ที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 2.7% สะท้อนแรงกดดันด้านราคาในระดับพื้นฐานที่ยังคงอยู่
สำหรับยอดค้าปลีกของแคนาดาเติบโต 2.5% ในเดือนธันวาคม ได้แรงหนุนจากการลดภาษีขายของรัฐบาลและยอดขายยานยนต์ที่แข็งแกร่ง การเพิ่มขึ้นของยอดใช้จ่ายภาคครัวเรือนช่วยพยุงเศรษฐกิจท่ามกลางความไม่แน่นอน นักวิเคราะห์มองว่าการขยายตัวของการบริโภคอาจทำให้ BoC ชะลอการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเบื้องต้นของเดือนมกราคมบ่งชี้ว่ายอดค้าปลีกลดลง 0.4% สร้างความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการใช้จ่ายของผู้บริโภค ขณะที่อัตราการเติบโตของ GDP ในไตรมาส 4 ปี 2024 คาดว่าจะอยู่ที่ 1.7% (Annualized)
ทั้งนี้ ความตึงเครียดทางการค้าทำให้นักลงทุนแคนาดาหันไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยขึ้น เช่น ทองคำ และหุ้นของบริษัทที่ผลิตสินค้าที่มีคู่แข่งน้อย เช่น ยูเรเนียม ท่ามกลางสัดส่วนการส่งออก 75% ของแคนาดาที่มุ่งไปยังสหรัฐฯ ทำให้การขึ้นภาษีของทรัมป์เป็นความเสี่ยงสำคัญ แม้ว่าภาคการเงิน อสังหาริมทรัพย์ และพลังงานจะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่หุ้นในอุตสาหกรรมที่อ่อนไหวต่อการค้า เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์และเหล็กกล้า ได้ปรับตัวลดลงตั้งแต่ทรัมป์กลับมาดำรงตำแหน่ง โดยความไม่แน่นอนดังกล่าวช่วยหนุนความต้องการทองคำ ส่งผลให้ดัชนี TSX ได้รับแรงสนับสนุน ขณะที่นักลงทุนเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในบริษัทน้ำมันและก๊าซที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินดอลลาร์แคนาดาที่อ่อนค่า ส่งผลให้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตลาดจะมีความผันผวน แต่มองเห็นโอกาสในการลงทุนในบางภาคส่วน
ด้านค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเมื่อวันศุกร์ แต่ลดลงภายหลังจากข้อมูลกิจกรรมทางธุรกิจที่อ่อนแอที่สุดในรอบ 17 เดือน ท่ามกลางข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ซบเซาและยอดขายบ้านที่น่าผิดหวังทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า Fed อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยนักลงทุนจะจับตาการเปิดเผยดัชนี PCE ในสัปดาห์นี้เพื่อประเมินทิศทางนโยบายการเงินต่อไป
ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคในสหรัฐฯ ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือนในเดือนกุมภาพันธ์ โดยครัวเรือนกังวลว่าภาษีของทรัมป์อาจกระทบต่อกำลังซื้อ โดยดัชนีความเชื่อมั่นของมหาวิทยาลัยมิชิแกนลดลงสู่ระดับ 64.7 ขณะที่คาดการณ์เงินเฟ้อในอีกหนึ่งปีข้างหน้าพุ่งขึ้นเป็น 4.3% สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2023
ด้านกิจกรรมทางธุรกิจของสหรัฐฯ ชะลอตัวอย่างหนัก โดยดัชนี S&P Global Composite PMI ลดลงสู่ระดับ 50.4 ขณะที่ภาคการผลิตได้รับประโยชน์ระยะสั้นจากการเร่งสต็อกสินค้าเพื่อรับมือกับต้นทุนภาษีที่อาจเกิดขึ้น ท่ามกลางภาคบริการที่หดตัวเป็นครั้งแรกในรอบกว่าหนึ่งปี ความกังวลเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาล รวมถึงข้อจำกัดทางการค้าและการปรับลดงบประมาณของรัฐบาลกลาง ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น โดยการปรับลดงบประมาณของรัฐบาลกลางนำไปสู่การสูญเสียตำแหน่งงาน ซึ่งเพิ่มความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ นโยบายของทรัมป์ยังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ อัตราเงินเฟ้อ และตลาดการเงิน แม้ว่าต้นทุนจะเพิ่มขึ้น แต่ตลาดซื้อขายสัญญาล่วงหน้าส่งสัญญาณว่ามีโอกาสสูงที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งในปี 2025 โดยคาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนมิถุนายนและตุลาคม ท่ามกลางยอดขายบ้านมือสองที่ลดลง 4.9% ในเดือนมกราคม เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยจำนองที่สูงและภาษีนำเข้าวัสดุก่อสร้างที่กระทบต่อความสามารถในการซื้อ
อย่างไรก็ดี ตลาดยังคงกังวลด้านการคลัง แม้ว่ารัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ สกอตต์ เบสเซนต์ จะพยายามสร้างความมั่นใจให้ตลาดว่าจะไม่มีแผนออกตราสารหนี้ระยะยาวในทันที แต่การลดภาษีที่ทรัมป์เสนออาจเพิ่มหนี้สาธารณะมากกว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์ภายในทศวรรษหน้า ท่ามกลางธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่กำลังพิจารณาการปรับงบดุล ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลและเงื่อนไขทางการเงิน
ด้วยเหตุนี้ คู่สกุล USD/CAD คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นในระยะใกล้ เนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และแคนาดาที่ยืดเยื้อที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของแคนาดา นอกจากนี้ ความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัยของนักลงทุน เช่น ทองคำและพันธบัตรสหรัฐฯ ยังเป็นปัจจัยกดดันค่าเงิน CAD โดยในระยะสั้น ค่าเงิน CAD ที่อ่อนค่าลงเนื่องจากความเสี่ยงด้านการค้าและภาวะเศรษฐกิจซบเซาอาจทำให้ค่าเงิน USD/CAD เคลื่อนตัวเข้าใกล้ระดับแนวต้านที่สูงขึ้น โดยอาจมีความผันผวนเกิดขึ้นได้เมื่อตลาดตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของนโยบายภาษีศุลกากรและการเปลี่ยนแปลงนโยบายของธนาคารกลาง
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD USD/CAD
แนวต้านสำคัญ : 1.4195, 1.4198, 1.4204
แนวรับสำคัญ : 1.4183, 1.4180, 1.4174
1H Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.4175 - 1.4183 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.4183 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.4195 และ SL ที่ประมาณ 1.4171 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.4195 - 1.4203 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.4214 และ SL ที่ประมาณ 1.4179 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.4195 - 1.4203 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 1.4195 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.4180 และ SL ที่ประมาณ 1.4207 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.4175 - 1.4183 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.4166 และ SL ที่ประมาณ 1.4199 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Feb 24, 2025 10:14AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 1.4165 | 1.4174 | 1.418 | 1.4189 | 1.4195 | 1.4204 | 1.421 |
Fibonacci | 1.4174 | 1.418 | 1.4183 | 1.4189 | 1.4195 | 1.4198 | 1.4204 |
Camarilla | 1.4183 | 1.4184 | 1.4186 | 1.4189 | 1.4188 | 1.419 | 1.4191 |
Woodie's | 1.4165 | 1.4174 | 1.418 | 1.4189 | 1.4195 | 1.4204 | 1.421 |
DeMark's | - | - | 1.4177 | 1.4188 | 1.4192 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ