ธนาคารกลางแคนาดามีแนวโน้มที่จะใช้นโยบายทางการเงินที่ผ่อนคลายต่อไป

ดอลลาร์แคนาดาอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการขู่ขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ได้ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มอุปสงค์จากสหรัฐโดยตรง และส่งผลให้การนำเข้าสินค้าในสหรัฐอาจชะลอตัวลง โดยประธานาธิบดีทรัมป์ยืนยันแผนที่จะจัดเก็บภาษีศุลกากรสินค้าของแคนาดา 25% และภาษีส่งออกพลังงานของแคนาดา 10% ภายในเดือนมีนาคม ความไม่แน่นอนนี้ทำให้ธนาคารแห่งแคนาดามีท่าทีที่จะผ่อนคลายนโยบายทางการเงินมากขึ้น โดยธนาคารได้ลดอัตราดอกเบี้ยจาก 5% เหลือเกือบ 3% เพื่อตอบสนองต่ออัตราเงินเฟ้อต่ำกว่าเป้าหมาย และได้สร้างแรงผลักดันต่อตลาดว่า ธนาคารกลางแคนาดาระบุว่าพร้อมที่จะปรับนโยบายเพื่อสนับสนุนการเติบโตในประเทศ

อัตราเงินเฟ้อในแคนาดาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 1.9% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนมกราคม เพิ่มขึ้นจาก 1.8% ในเดือนก่อนหน้า สอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ยังคงอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางแคนาดาที่ 2% เป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน ส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางแคนาดาจะมีแนวโน้มที่จะดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อไป เมื่อมาดูรายละเอียดพบว่า อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในกลุ่มภาคขนส่ง เนื่องจากราคาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่สูงขึ้นส่งผลให้ต้นทุนน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นกว่า 8.6%

ดัชนีราคาผู้ผลิตภาคอุตสาหกรรมในแคนาดาเพิ่มขึ้น 1.6% ในเดือนในเดือนมกราคม นับเป็นการเพิ่มขึ้นอีกครั้งหลังจากที่หดตัวในเดือนธันวาคม โดยส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนจากราคาพลังงานที่สูงขึ้นกว่า 7% โดยเฉพาะราคาน้ำมันดีเซลที่เพิ่มขึ้น 9.4% ซึ่งใช้ในหลายกลุ่มอุตสาหรกรรม ส่งผลให้ต้นทุนโดยรวมเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ ในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร แรงกดดันด้านราคาที่เพิ่มขึ้นเพิ่มเติมมาจากราคาผลไม้, ผัก, อาหารสัตว์ และผลิตภัณฑ์อาหารอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้นกว่า 2.1% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนมกราคม พบว่าดัชนีราคาผู้ผลิตพุ่งขึ้น 5.8% ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา 

ยอดขายปลีกในแคนาดาลดลง 0.4% จากเดือนก่อนหน้าในเดือนมกราคม 2025 ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 7 เดือน โดยยอดขายเพิ่มขึ้นในภาค 9 ส่วนย่อย นำโดยกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มที่เพิ่มขึ้น 3.5% และยอดขายสำหรับกลุ่มสินค้าปลีกเพิ่มขึ้น 3.2% แม้ว่าการเติบโตของยอดขายโดยรวมจะยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่การเติบโตนั้นยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในระยะยาว อย่าอะไรก็ตามเมื่อเทียบเป็นรายปีพบว่ายอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 2.4% นับเป็นการเพิ่มขึ้นสู่จุดสูงสุดในรอบ 2 ปี

การลงทุนจากต่างประเทศในสินทรัพย์ทางการเงินของแคนาดาเพิ่มขึ้น 14,400 ล้านดอลลาร์แคนาดาในเดือนธันวาคม 2024 ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 13,800 ล้านดอลลาร์แคนาดา ในเดือนก่อนหน้า และถือเป็นเดือนที่ 10 ติดต่อกันที่มีการลงทุนสุทธิในตลาดในประเทศ โดยสินทรัพย์ส่วนใหญ่ที่นักลงทุนต่างชาติเลือกคือการลงทุนในตราสารหนี้ นำโดยพันธบัตรรัฐบาล ในขณะเดียวกัน นักลงทุนชาวแคนาดาได้ซื้อสินทรัพย์จากต่างประเทศ 3,800 ล้านดอลลาร์แคนาดาในช่วงเดือนธันวาคม ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการลงทุนสุทธิ 17,600 ล้านดอลลาร์แคนาดาในเดือนก่อนหน้า