ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีและความกังวลเศรษฐกิจ
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงในช่วงเย็นวันอาทิตย์ หลังจากสัปดาห์ที่ผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับนโยบายภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) โดยปัจจุบันนักลงทุนกำลังจับตาดูข้อมูลเงินเฟ้อสำคัญ ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจด้านนโยบายของ Fed ในอนาคต
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นหลักของสหรัฐฯ ร่วงลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยดัชนี S&P 500 ลดลงเกือบ 3% ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 2.2% และ Nasdaq Composite ปรับตัวลง 3.5% หลังจากที่ทรัมป์ประกาศเก็บภาษี 25% กับเม็กซิโกและแคนาดา แม้ว่าต่อมาจะให้การยกเว้นชั่วคราวในภายหลัง ซึ่งยิ่งเพิ่มความไม่แน่นอนทางนโยบายมากขึ้น นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ยังมีแผนที่จะบังคับใช้ภาษีตอบโต้ทั่วโลกตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน ซึ่งทำให้เกิดความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่อาจชะลอตัว โดยฮาวเวิร์ด ลัทนิค รัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐฯ ย้ำถึงความมุ่งมั่นของทรัมป์ในการใช้ภาษีเป็นเครื่องมือกดดันเม็กซิโก แคนาดา และจีน โดยอ้างเหตุผลเกี่ยวกับปัญหายาเฟนทานิล
เมื่อวันจันทร์ ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของวอลล์สตรีทยังคงร่วงลง เนื่องจากความกังวลด้านเศรษฐกิจทั่วโลกเพิ่มขึ้น โดยในช่วงเปิดตลาดเช้าวันจันทร์ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าของดาวโจนส์ S&P 500 และ Nasdaq ต่างปรับตัวลดลง โดยเฉพาะ Nasdaq ซึ่งขณะนี้เข้าสู่ภาวะปรับฐาน หลังจากร่วงลงกว่า 10% จากจุดสูงสุดในเดือนธันวาคม ขณะที่ภาวะเงินฝืดในจีนยิ่งซ้ำเติมความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ชะลอลง และสงครามการค้าที่ยืดเยื้อ
ทั้งนี้ นักลงทุนยังให้ความสนใจกับผลสำรวจคาดการณ์เงินเฟ้อของธนาคารกลางสาขานิวยอร์ก ซึ่งก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่าคาดการณ์การเติบโตของราคาสินค้าในระยะสั้นคงที่ แต่มีการปรับขึ้นเล็กน้อยในระยะยาว นอกจากนี้ สัปดาห์นี้จะมีการเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ดัชนีราคาผู้บริโภค และข้อมูลตลาดแรงงาน ซึ่งอาจมีอิทธิพลต่อแนวโน้มตลาด
ขณะเดียวกัน บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Oracle, Adobe และ DocuSign เตรียมเปิดเผยผลประกอบการ โดยเฉพาะ Oracle ที่นักลงทุนจับตาอย่างใกล้ชิด หลังจากที่ทรัมป์ประกาศการลงทุนมูลค่า 500,000 ล้านดอลลาร์ในโครงการพัฒนา AI ร่วมกับ OpenAI และ SoftBank โดยแม้ว่า Oracle จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในธุรกิจคลาวด์ แต่บรรดานักวิเคราะห์เตือนว่าผลประกอบการที่แข็งแกร่งอาจไม่เพียงพอที่จะปกป้องหุ้นเทคโนโลยีจากความผันผวนของตลาดได้
จากความไม่แน่นอนดังกล่าว ดัชนี S&P 500 อาจเผชิญกับความผันผวนต่อเนื่อง โดยระดับแนวรับสำคัญอาจถูกทดสอบหากข้อมูลเศรษฐกิจไม่เป็นไปตามคาดหรือความตึงเครียดทางการค้าทวีความรุนแรงขึ้น โดยแรงกดดันจากภาวะเงินฝืดในจีนและข้อมูลตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ที่อ่อนแอกว่าคาดยิ่งทำให้เกิดความกลัวเรื่องภาวะถดถอย ซึ่งอาจจำกัดแนวโน้มขาขึ้นของดัชนีในระยะยาว อย่างไรก็ตาม รายงานผลประกอบการจากบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ๆ บรรเทาผลกระทบได้ชั่วคราว โดยเฉพาะหากผลประกอบการออกมาดีกว่าคาด ทั้งนี้ นักลงทุนควรเตรียมตัวสำหรับการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากความเสี่ยงทางเศรษฐกิจมหภาคและการเปลี่ยนแปลงนโยบายยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนอารมณ์ของตลาด
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD US 500 [S&P 500]
แนวต้านสำคัญ : 5721.5, 5728.1, 5738.8
แนวรับสำคัญ : 5700.1, 5693.5, 5682.8
1H Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 5690.1 - 5700.1 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 5700.1 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5725.2 และ SL ที่ประมาณ 5685.1 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 5721.5 - 5731.5 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5753.2 และ SL ที่ประมาณ 5695.1 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 5721.5 - 5731.5 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 5721.5 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5697.2 และ SL ที่ประมาณ 5736.5 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 5690.1 - 5700.1 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5669.2 และ SL ที่ประมาณ 5726.5 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Mar 10, 2025 05:00PM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 5669.2 | 5682.8 | 5697.2 | 5710.8 | 5725.2 | 5738.8 | 5753.2 |
Fibonacci | 5682.8 | 5693.5 | 5700.1 | 5710.8 | 5721.5 | 5728.1 | 5738.8 |
Camarilla | 5703.8 | 5706.4 | 5708.9 | 5710.8 | 5714.1 | 5716.6 | 5719.2 |
Woodie's | 5669.4 | 5682.9 | 5697.4 | 5710.9 | 5725.4 | 5738.9 | 5753.4 |
DeMark's | - | - | 5704 | 5714.2 | 5732 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ