ธนาคารกลางญี่ปุ่นมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป

ค่าเงินเยนของญี่ปุ่นทรงตัวที่ประมาณ 148 เยนต่อดอลลาร์ โดยได้รับแรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสงครามการค้าโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้น นอกจากนี้ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังให้คำมั่นว่าจะดำเนินการจัดเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มเติมต่อไป หลังจากปรับขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม ส่งผลให้สหภาพยุโรปและแคนาดาตัดสินใจเพิ่มภาษีศุลกากรในเดือนหน้าเช่นเดียวกัน ในขณะเดียวกัน ค่าเงินเยนยังคงได้รับแรงหนุนจากความหวังว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีนี้ เนื่องจากการเติบโตของค่าจ้างและอัตราเงินเฟ้อยังคงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง

เศรษฐกิจญี่ปุ่นขยายตัว 2.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 เร่งตัวขึ้นจากการเติบโต 1.4% ในไตรมาส 3 ซึ่งถือเป็นการขยายเมื่อเทียบเป็นรายปีครั้งที่ 3 ติดต่อกัน โดยส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของรายจ่ายด้านทุนและรายจ่ายภาครัฐที่เพิ่มขึ้นเป็นไตรมาสที่ 4 ติดต่อกัน นอกจากนี้ ดุลการค้าที่เพิ่มขึ้นยังมีส่วนช่วยสนับสนุนสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นขยายตัว เนื่องจากการส่งออกยังคงเติบโตแม้จะมีข้อกังวลเกี่ยวกับภัยคุกคามด้านภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ขณะที่การนำเข้าลดลงเล็กน้อยหลังจากการเติบโต 2 ไตรมาสติดต่อกัน ในขณะเดียวกัน การบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้นเป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกัน แม้ว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ชะลอตัวลงก็ตาม เนื่องจากเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้น

การใช้จ่ายครัวเรือนในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 0.8% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนมกราคม ชะลอตัวลงจากที่เพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือนก่อนหน้า เนื่องจากผ่านช่วงการจ่ายโบนัสในฤดูหนาว ส่งผลให้การชะลอตัวลงนี้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านอาหารที่ลดลงกว่า 2.4 ในขณะที่ค่าใช้จ่ายด้านเสื้อผ้าและรองเท้าลดลง 7.6% ในขณะที่ ค่าใช้จ่ายส่วนบุคคลลดลงกว่า 4.5% ถือเป็นการลดลงรายเดือนครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว และเป็นอัตราที่สูงที่สุดในรอบ 3 ปี

ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจชั้นนำของญี่ปุ่น ซึ่งใช้วัดแนวโน้มเศรษฐกิจในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าโดยอาศัยข้อมูลต่างๆ เช่น การจ้างงานและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 108 ในเดือนมกราคม ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว เนื่องจากอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 2.5% ในเดือนมกราคม ในขณะที่การจ้างงานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ซึ่งสอดคล้องกับการใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่กลับมาเติบโตขึ้นอีกครั้ง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคยังคงมีแนวโน้มทรงตัวในปี 2025 

การเติบโตของสินเชื่อในญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.1% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งถือเป็นการขยายตัวของสินเชื่อที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 7 เดือน โดนมูลค่าของสินเชื่อคงค้างคาดว่าอยู่ที่ประมาณ 635 ล้านล้านเยน ซึ่งการขยายตัวนี้อ้างอิงไปถึงความสามารถในการใช้จ่ายผู้บริโภคและการขยายตัวของการลงทุนในภาคเอกชน โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กที่มีการขยายตัวของสินเชื่อที่ 0.9%

ค่าจ้างในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 2.8% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนมกราคม ชะลอตัวลงจาก 4.4% ในเดือนธันวาคม และต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 3.2% ในขณะเดียวกัน ค่าจ้างตามจริงที่ปรับตามอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งสะท้อนถึงอำนาจซื้อของผู้บริโภคลดลง 1.8% ในเดือนมกราคม นับเป็นการการลดลงครั้งแรกหลังจากเพิ่มขึ้น 2 เดือนติดต่อกัน เนื่องจากทางอำเภอสูงกว่าการเติบโตของค่าจ้าง ส่งผลให้กลุ่มแรงงานที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นเรียกร้องให้มีการปรับค่าจ้างขึ้นเฉลี่ย 6% นับเป็นการเรียกร้องให้มีการปรับขึ้นค่าแรงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 30 ปี ในด้านนโยบายการเงิน คาดว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นจะคงระดับอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมในการชมเดือนมีนาคม