บทวิเคราะห์ USD/JPY วันที่ 14 มีนาคม 2568

Create at 12 hours ago (Mar 14, 2025 08:49)

เยนทรงตัวหลังพุ่งแรง ตลาดเพิ่มเดิมพัน BOJ ขึ้นดอกเบี้ย

ค่าเงินเยนของญี่ปุ่นทรงตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี หลังจากแข็งค่าขึ้นอย่างมากตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยล่าสุดแตะระดับสูงสุดในรอบห้าเดือน เนื่องจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยและการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) แม้ว่า BOJ คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในการประชุมวันที่ 19 มีนาคม แต่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า BOJ อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25 จุดพื้นฐานสู่ระดับ 0.75% ในไตรมาสที่สาม ซึ่งมีแนวโน้มเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคม ขณะที่แรงกดดันด้านเงินเฟ้อจากค่าแรงที่เพิ่มขึ้นและต้นทุนอาหารที่สูงอย่างต่อเนื่องอาจทำให้ BOJ ดำเนินการเร็วกว่าคาด ซึ่งอาจเป็นช่วงเดือนพฤษภาคม

ขณะเดียวกัน ความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากนโยบายภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงอยู่ โดย 90% ของนักเศรษฐศาสตร์เตือนถึงผลกระทบด้านลบที่อาจเกิดขึ้น ขณะที่การเจรจาค่าแรงเมื่อเร็ว ๆ นี้ส่งผลให้ค่าจ้างเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สนับสนุนแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยอาจแตะระดับ 1.00% ภายในเดือนมีนาคม 2026 โดยผู้ว่าการ BOJ คาซูโอะ อุเอดะ ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่น โดยคาดว่าการเติบโตของค่าจ้างจะช่วยกระตุ้นการบริโภคและสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ BOJ ได้เริ่มทยอยถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ รวมถึงการลดปริมาณเงิน (QT) โดยมีแผนทบทวนนโยบายในช่วงกลางปีเดือนมิถุนายน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGB) ปรับตัวสูงขึ้นสะท้อนถึงการคาดการณ์การขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีเพิ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี โดย BOJ ยังเพิ่มการกำกับดูแลความเสี่ยงของสถาบันการเงินท่ามกลางสภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น

ด้านการเติบโตของ GDP ญี่ปุ่นในไตรมาสที่ 4 ปี 2024 ถูกปรับลดลงเหลือ 2.2% เมื่อเทียบปีต่อปี เนื่องจากการบริโภคภาคเอกชนที่อ่อนแอลง ขณะที่แรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงอยู่ โดยดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP Price Index) ถูกปรับเพิ่มขึ้นเป็น 2.9% แม้ว่าการปรับขึ้นค่าแรงอาจช่วยกระตุ้นการใช้จ่าย แต่ข้อมูลการบริโภคภาคครัวเรือนที่ต่ำกว่าคาดบ่งชี้ว่าโมเมนตัมทางเศรษฐกิจอาจชะลอตัวในช่วงต้นปี 2025

อีกด้าน การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นในเดือนมกราคม ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบสองปี เป็นผลมาจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงและต้นทุนการนำเข้าที่สูงขึ้น ขณที่อัตราเงินเฟ้อภาคค้าส่งยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 4.0% ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยจำนวนบริษัทที่ล้มละลายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจแตะระดับสูงสุดในรอบ 11 ปีภายในเดือนมีนาคม เนื่องจากปัญหาขาดแคลนแรงงานและต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ขณะที่บริษัทขนาดใหญ่กำลังเสนอการขึ้นค่าจ้างเพื่อดึงดูดแรงงาน ท่ามกลางธุรกิจขนาดเล็กที่กำลังประสบปัญหา

ในขณะเดียวกัน ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง เนื่องจากนโยบายการค้ายังคงสร้างความไม่แน่นอน แม้ว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อจะลดลง โดยภาษีของทรัมป์ส่งผลให้ตลาดมีความผันผวนมากขึ้น ขณะที่นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจถดถอย ท่ามกลางส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรภาคเอกชนสหรัฐฯ ที่ขยายตัว สะท้อนถึงความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจากผลสำรวจของรอยเตอร์พบว่า 95% ของนักเศรษฐศาสตร์ในอเมริกาเหนือเชื่อว่านโยบายภาษีของทรัมป์เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่ราคาผู้บริโภคในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2.8% เมื่อเทียบปีต่อปีในเดือนกุมภาพันธ์ และความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็กลดลงเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน

แม้ตลาดจะเผชิญความปั่นป่วนเมื่อไม่นานมานี้ แต่นักวิเคราะห์คาดว่าเฟดอาจชะลอการแทรกแซง ขณะที่การขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ ยังคงเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.147 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงห้าเดือนแรกของปีงบประมาณ 2025 ซึ่งการกู้ยืมของรัฐบาลยังคงอยู่ในระดับสูง โดยค่าใช้จ่ายด้านดอกเบี้ยหนี้ ประกันสังคม และสาธารณสุขเพิ่มขึ้นเร็วกว่าการเติบโตของรายได้ ท่ามกลางความท้าทายทางการคลังที่ยังคงอยู่ ขณะที่ผู้กำหนดนโยบายต้องบริหารจัดการเงินเฟ้อ นโยบายการค้า และเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ

ในระยะสั้น คู่สกุล USD/JPY อาจทรงตัวอยู่ในช่วง 147–150 ขณะที่ตลาดซึมซับการตัดสินใจของ BOJ ที่คงอัตราดอกเบี้ยไว้ในเดือนมีนาคม อย่างไรก็ตาม หากการคาดการณ์การปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคมสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงอยู่ ค่าเงินเยนอาจแข็งค่าขึ้นต่อไปและอาจทดสอบระดับ 145

ในทางกลับกัน ความเสี่ยงด้านขาลงของเงินเยนยังคงอยู่ โดยเฉพาะหากโมเมนตัมทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นชะลอตัวจากการบริโภคที่อ่อนแอลงและการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องและความแข็งแกร่งของเงินดอลลาร์ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีของทรัมป์และการขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ ที่ขยายตัว อาจผลักดัน USD/JPY ไปสู่ระดับ 152 ในระยะกลาง ขณะที่การทบทวนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ BOJ ในเดือนมิถุนายน และแนวทางนโยบายของเฟด จะเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดทิศทางของคู่สกุลเงินนี้

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1HCFD USD/JPY

แนวต้านสำคัญ : 148.34, 148.46, 148.64

แนวรับสำคัญ : 147.98, 147.86, 147.68            

1H Outlook              

วิเคราะห์ USD/JPY ที่มา: TradingView                          

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 147.78 – 147.98 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 147.98 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 148.47 และ SL ที่ประมาณ 147.68 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 148.34 – 148.54 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 149.15 และ SL ที่ประมาณ 147.88 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 148.34 – 148.54 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 148.34 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 147.98 และ SL ที่ประมาณ 148.64 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 147.78 – 147.98 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 147.24 และ SL ที่ประมาณ 148.44 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Mar 14, 2025 08:30AM GMT+7

Name
S3
S2
S1
Pivot Points
R1
R2
R3
Classic 147.51 147.68 147.99 148.16 148.47 148.64 148.95
Fibonacci 147.68 147.86 147.98 148.16 148.34 148.46 148.64
Camarilla 148.17 148.21 148.26 148.16 148.34 148.39 148.43
Woodie's 147.59 147.72 148.07 148.2 148.55 148.68 149.03
DeMark's - - 148.07 148.2 148.55 - -

ที่มา: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิกที่นี่
รู้เท่าทันสถานการณ์โลกและบทวิเคราะห์เทคนิคขั้นสูง: คลิกที่นี่
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES