เยนทรงตัวหลังพุ่งแรง ตลาดเพิ่มเดิมพัน BOJ ขึ้นดอกเบี้ย
ค่าเงินเยนของญี่ปุ่นทรงตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี หลังจากแข็งค่าขึ้นอย่างมากตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยล่าสุดแตะระดับสูงสุดในรอบห้าเดือน เนื่องจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยและการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) แม้ว่า BOJ คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในการประชุมวันที่ 19 มีนาคม แต่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า BOJ อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25 จุดพื้นฐานสู่ระดับ 0.75% ในไตรมาสที่สาม ซึ่งมีแนวโน้มเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคม ขณะที่แรงกดดันด้านเงินเฟ้อจากค่าแรงที่เพิ่มขึ้นและต้นทุนอาหารที่สูงอย่างต่อเนื่องอาจทำให้ BOJ ดำเนินการเร็วกว่าคาด ซึ่งอาจเป็นช่วงเดือนพฤษภาคม
ขณะเดียวกัน ความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากนโยบายภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังคงอยู่ โดย 90% ของนักเศรษฐศาสตร์เตือนถึงผลกระทบด้านลบที่อาจเกิดขึ้น ขณะที่การเจรจาค่าแรงเมื่อเร็ว ๆ นี้ส่งผลให้ค่าจ้างเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สนับสนุนแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยอาจแตะระดับ 1.00% ภายในเดือนมีนาคม 2026 โดยผู้ว่าการ BOJ คาซูโอะ อุเอดะ ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่น โดยคาดว่าการเติบโตของค่าจ้างจะช่วยกระตุ้นการบริโภคและสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ BOJ ได้เริ่มทยอยถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ รวมถึงการลดปริมาณเงิน (QT) โดยมีแผนทบทวนนโยบายในช่วงกลางปีเดือนมิถุนายน ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGB) ปรับตัวสูงขึ้นสะท้อนถึงการคาดการณ์การขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีเพิ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 16 ปี โดย BOJ ยังเพิ่มการกำกับดูแลความเสี่ยงของสถาบันการเงินท่ามกลางสภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น
ด้านการเติบโตของ GDP ญี่ปุ่นในไตรมาสที่ 4 ปี 2024 ถูกปรับลดลงเหลือ 2.2% เมื่อเทียบปีต่อปี เนื่องจากการบริโภคภาคเอกชนที่อ่อนแอลง ขณะที่แรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงอยู่ โดยดัชนีราคาผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP Price Index) ถูกปรับเพิ่มขึ้นเป็น 2.9% แม้ว่าการปรับขึ้นค่าแรงอาจช่วยกระตุ้นการใช้จ่าย แต่ข้อมูลการบริโภคภาคครัวเรือนที่ต่ำกว่าคาดบ่งชี้ว่าโมเมนตัมทางเศรษฐกิจอาจชะลอตัวในช่วงต้นปี 2025
อีกด้าน การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นในเดือนมกราคม ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบสองปี เป็นผลมาจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงและต้นทุนการนำเข้าที่สูงขึ้น ขณที่อัตราเงินเฟ้อภาคค้าส่งยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 4.0% ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยจำนวนบริษัทที่ล้มละลายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจแตะระดับสูงสุดในรอบ 11 ปีภายในเดือนมีนาคม เนื่องจากปัญหาขาดแคลนแรงงานและต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ขณะที่บริษัทขนาดใหญ่กำลังเสนอการขึ้นค่าจ้างเพื่อดึงดูดแรงงาน ท่ามกลางธุรกิจขนาดเล็กที่กำลังประสบปัญหา
ในขณะเดียวกัน ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง เนื่องจากนโยบายการค้ายังคงสร้างความไม่แน่นอน แม้ว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อจะลดลง โดยภาษีของทรัมป์ส่งผลให้ตลาดมีความผันผวนมากขึ้น ขณะที่นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงของภาวะเศรษฐกิจถดถอย ท่ามกลางส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรภาคเอกชนสหรัฐฯ ที่ขยายตัว สะท้อนถึงความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจากผลสำรวจของรอยเตอร์พบว่า 95% ของนักเศรษฐศาสตร์ในอเมริกาเหนือเชื่อว่านโยบายภาษีของทรัมป์เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่ราคาผู้บริโภคในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2.8% เมื่อเทียบปีต่อปีในเดือนกุมภาพันธ์ และความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็กลดลงเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน
แม้ตลาดจะเผชิญความปั่นป่วนเมื่อไม่นานมานี้ แต่นักวิเคราะห์คาดว่าเฟดอาจชะลอการแทรกแซง ขณะที่การขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ ยังคงเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.147 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงห้าเดือนแรกของปีงบประมาณ 2025 ซึ่งการกู้ยืมของรัฐบาลยังคงอยู่ในระดับสูง โดยค่าใช้จ่ายด้านดอกเบี้ยหนี้ ประกันสังคม และสาธารณสุขเพิ่มขึ้นเร็วกว่าการเติบโตของรายได้ ท่ามกลางความท้าทายทางการคลังที่ยังคงอยู่ ขณะที่ผู้กำหนดนโยบายต้องบริหารจัดการเงินเฟ้อ นโยบายการค้า และเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
ในระยะสั้น คู่สกุล USD/JPY อาจทรงตัวอยู่ในช่วง 147–150 ขณะที่ตลาดซึมซับการตัดสินใจของ BOJ ที่คงอัตราดอกเบี้ยไว้ในเดือนมีนาคม อย่างไรก็ตาม หากการคาดการณ์การปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคมสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงอยู่ ค่าเงินเยนอาจแข็งค่าขึ้นต่อไปและอาจทดสอบระดับ 145
ในทางกลับกัน ความเสี่ยงด้านขาลงของเงินเยนยังคงอยู่ โดยเฉพาะหากโมเมนตัมทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นชะลอตัวจากการบริโภคที่อ่อนแอลงและการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องและความแข็งแกร่งของเงินดอลลาร์ ซึ่งได้รับแรงหนุนจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีของทรัมป์และการขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ ที่ขยายตัว อาจผลักดัน USD/JPY ไปสู่ระดับ 152 ในระยะกลาง ขณะที่การทบทวนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของ BOJ ในเดือนมิถุนายน และแนวทางนโยบายของเฟด จะเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดทิศทางของคู่สกุลเงินนี้
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD USD/JPY
แนวต้านสำคัญ : 148.34, 148.46, 148.64
แนวรับสำคัญ : 147.98, 147.86, 147.68
1H Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 147.78 – 147.98 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 147.98 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 148.47 และ SL ที่ประมาณ 147.68 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 148.34 – 148.54 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 149.15 และ SL ที่ประมาณ 147.88 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 148.34 – 148.54 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 148.34 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 147.98 และ SL ที่ประมาณ 148.64 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 147.78 – 147.98 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 147.24 และ SL ที่ประมาณ 148.44 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Mar 14, 2025 08:30AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 147.51 | 147.68 | 147.99 | 148.16 | 148.47 | 148.64 | 148.95 |
Fibonacci | 147.68 | 147.86 | 147.98 | 148.16 | 148.34 | 148.46 | 148.64 |
Camarilla | 148.17 | 148.21 | 148.26 | 148.16 | 148.34 | 148.39 | 148.43 |
Woodie's | 147.59 | 147.72 | 148.07 | 148.2 | 148.55 | 148.68 | 149.03 |
DeMark's | - | - | 148.07 | 148.2 | 148.55 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ