เศรษฐกิจของออสเตรเลียขยายตัวมากกว่าที่คาด

ดอลลาร์ออสเตรเลียทรงตัวในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนยังคงจับตามองแผนภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ โดยล่าสุด ทรัมป์ได้ยืนยันจุดยืนว่าจะมีการเก็บภาษีศุลกากรกับคู่ค้าทั่วโลก ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เมษายนนี้ นอกจากนี้ ออสเตรเลียยังคงตกอยู่ภายใต้แรงกดดัน หลังจากที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม 25% ซึ่งส่งผลกระทบต่อสินค้าส่งออกของออสเตรเลียมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับการค้า แต่การขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศที่ขยายตัวขึ้นเล็กน้อย ให้ช่วยบรรเทาความกังวลที่เกิดขึ้นได้บางส่วน

แม้ว่าสหรัฐจะรีบเก็บภาษีนำเข้าเหล็กแล้วอลูมิเนียมกว่า 25% แต่นายกรัฐมนตรีแอนโธนี อัลบาเนซีของออสเตรเลียได้ตัดสินใจไม่เก็บภาษีศุลกากรตอบโต้กับสหรัฐฯ และจะยังคงหาแนวทางการพูดคุยเพื่อยกเว้นภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมของรัฐบาลทรัมป์ต่อไป โดยนายกรัฐมนตรีแอนโธนี อัลบาเนซี ให้ความคิดเห็นว่า”การตอบโต้นโยบายดังกล่าวอาจทำให้ต้นทุนของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นและส่งผลให้เงินเฟ้อสูงขึ้น ดังนั้นการเจรจาน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด” อย่างอะไรก็ตาม ประธานาธิบดีทรัมป์ยังคงยืนกรานว่าจะไม่มีข้อยกเว้นหรือการยกเว้นใดๆ สำหรับภาษีศุลกากรดังกล่าว ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ต่อคู่ค้าของสหรัฐทั้งหมด

ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในออสเตรเลียเพิ่มขึ้น 4% ในเดือนมีนาคม สู่ระดับ 95.9 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี การเพิ่มขึ้นนี้ได้รับแรงหนุนจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางออสเตรเลียในเดือนกุมภาพันธ์ และแรงกดดันด้านค่าครองชีพที่ลดลง ทำให้มุมมองของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้น ซึ่งส่งผลต่อตลาดแรงงานโดยตรง ในขณะที่ประเด็นสำคัญอย่างอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ผู้บริโภคใช้ในการคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจในอนาคต แม้ว่าจะยังมีความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้น แต่โดยรวมผู้บริโภคยังคงมีมุมมองที่เป็นบวก

เศรษฐกิจออสเตรเลียเติบโต 0.6% เทียบกับไตรมาสก่อนในไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 เมื่อเทียบเป็นรายปีพบว่าเศรษฐกิจของออสเตรเลียขยายตัวกว่า 1.3% ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะเติบโตเพียง 1.2% โดยแรงสนับสนุนส่วนใหญ่มาจากการฟื้นตัวของการใช้จ่ายภาคครัวเรือน เนื่องจากรายจ่ายด้านสิ่งจำเป็น เช่น ค่าเช่าและการดูแลสุขภาพยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในขณะที่การลงทุนของภาคเอกชนก็มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นเช่นเดียวกัน ซึ่งการลงทุนส่วนใหญ่ยังคงเป็นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้การส่งออกที่เพิ่มขึ้นยังช่วยกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจให้เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน

ดุลการค้าเกินดุลสินค้าของออสเตรเลียเพิ่มขึ้นเป็น 5.62 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ในเดือนมกราคม เพิ่มขึ้นจาก 4.92 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ในเดือนก่อนหน้า เนื่องจากการส่งออกเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่การนำเข้าลดลงเล็กน้อย โดยการส่งออกเพิ่มขึ้น 1.3% เป็น 44.53 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนจากการส่งออกทองคำที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วกว่า 78.6% สู่ระดับ 5.36 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย ในขณะที่การส่งออกของภาคส่วนอื่นเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย จากผลสำรวจพบว่ายอดขายไปยังสหรัฐเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วกว่า 104.3% ในขณะที่ยอดส่งออกไปยังจีนซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดลดลงกว่า 21.5%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลออสเตรเลียอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะ 4.48% เนื่องจากนักลงทุนยังคงประเมินแนวโน้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางออสเตรเลีย โดยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งล่าสุดทำให้ความคาดหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางลดน้อยลง เนื่องจากการเติบโตของ GDP ที่มากกว่าที่คาด นอกจากนี้ การประชุมล่าสุดของธนาคารจากออสเตรเลียยังได้ส่งสัญญาถึงแนวทางที่ระมัดระวังมากขึ้นในการตัดสินใจเรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคต

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (5H)

แนวต้านสำคัญ: 1.5841, 1.5849, 1.5856

แนวรับสำคัญ: 1.5826, 1.5819, 1.581

ที่มา: Investing.com

Buy/Long 1: หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.5819 - 1.5826 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.5826 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.5849 และ SL ที่ประมาณ 1.581 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

จุดกลับตัว 14 มีนาคม 2568 21:36 น. GMT+7