รัฐบาลจีนมีมาตราการที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลงเล็กน้อย เนื่องจากมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจล่าสุดขาดรายละเอียดที่ชัดเจน ทำให้นักลงทุนยังคงมองว่าเศรษฐกิจของจีนอาจยังทรงตัวต่อไปในปีนี้ แม้ว่ามาตรการดังกล่าวจะเน้นย้ำไปที่การบริโภคเป็นหลัก แต่คงให้คำชัดเจนได้ไม่มากนัก ในขณะเดียวกัน ทรัมป์ประกาศว่าสีจิ้นผิงจะเดินทางมายังวอชิงตัน ท่ามกลางความตึงเครียดด้านการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้น ทำให้นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าที่อาจทวีความรุนแรงขึ้น 

จีนประกาศเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่าจะจัดเก็บภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรบางรายการของแคนาดา 100% รวมถึงภาษีเนื้อสัตว์ 25% โดยภาษีเหล่านี้จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 20 มีนาคม เพื่อเป็นการตอบโต้มาตรการการค้าของแคนาดา หลังจากที่แคนาดาจัดเก็บภาษีรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในจีน 100% ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมของปีที่แล้ว ซึ่งสอดคล้องกับมาตรการที่คล้ายคลึงกันของสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม นอกจากนี้ แคนาดายังเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมจากจีน 25% โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา 

ธนาคารจีนขยายสินเชื่อใหม่กว่า 1,010,000 ล้านหยวนในเดือนกุมภาพันธ์ ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 1,275,000 ล้านหยวน เนื่องจากความต้องการสินเชื่อชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากเริ่มต้นปี เนื่องจากการกระตุ้นในช่วงแรกและการกู้ยืมล่วงหน้าตามฤดูกาลของธนาคารลดลง โดยตัวเลขการกู้ยืมในเดือนกุมภาพันธ์ยังคงต่ำกว่า 1,450,000 ล้านหยวน ในขณะเดียวกัน จำนวนคนที่ต้องการกู้ยืมกลับเพิ่มขึ้นกว่า 7% เมื่อเทียบเป็นรายปี

การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่เข้าสู่จีนลดลง 20.4% จากปีก่อนเหลือประมาณ 98,000 ล้านหยวนในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2025 ซึ่งถือเป็นการลดลงอย่างรวดเร็วตั้งแต่ปี 2009 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของต่างชาติที่ลดลงต่อโครงการต่างๆ ในประเทศ โดยแรงกดดันส่วนใหญ่ยังคงเกิดจากความเสี่ยงของภาวะเงินฝืดและมุมมองที่ว่ารัฐบาลมีการตอบสนองการกระตุ้นเศรษฐกิจช้าเกินไป นอกจากนี้ งบดุลของผู้ผลิตและผู้ให้บริการที่ไม่โปร่งใสทำให้ผู้ลงทุนต่างชาติรู้สึกไม่สบายใจ อย่างไรก็ตาม สัญญาณการสนับสนุนทางเศรษฐกิจจากรัฐบาลแสดงให้เห็นว่าจีนอาจผ่อนคลายมาตราการควบคุมที่เข้มงวดต่อภาคเทคโนโลยี ทำให้ความเชื่อมั่นในการลงทุนในบางภาคส่วนเพิ่มมากขึ้น

คณะรัฐมนตรีจีนได้เปิดตัวมาตราการพิเศษ เพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งรวมถึงการเพิ่มรายได้ของประชาชน รวมไปถึงการจัดตั้งโครงการอุดหนุนค่าเลี้ยงดูบุตร เพื่อกระตุ้นให้มีบุตรมากขึ้น โดยมาตราการดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่นายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง ของจีนรายงานงานต่อสภาประชาชนแห่งชาติ ว่าจะมุ่งเน้นไปที่การกระตุ้นการใช้จ่ายของภาคครัวเรือนเพื่อบรรเทาผลกระทบจากอุปสงค์ภายนอกที่อ่อนแอ 

อย่างไรก็ตามอุปสงค์ภายในประเทศยังคงอยู่ในระดับที่อ่อนแอ เนื่องจากผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ เช่นการหยุดชะงักจากโควิด 19 แล้วภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซา อย่างไรก็ตาม มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าวยังช่วยให้เพิ่มรายได้ของภาพครัวเรือน นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มเสถียรภาพของตลาดหุ้น แต่ยังไม่ได้ให้รายละเอียดที่แน่ชัดว่าจะเริ่มใช้มาตรการเมื่อใด 

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจีนอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.94% หลังจากที่จีนประกาศมาตรการพิเศษเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยเน้นไปที่การบริโภคและการทำให้ตลาดหุ้นกลับมามีเสถียรภาพอีกครั้ง ในขณะเดียวกัน นักลงทุนได้พิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจที่หลากหลาย เช่น ยอดขายปลีก กลับลดลงเร็วกว่าที่คาด