BoE คงดอกเบี้ย เดินหน้าระวังท่ามกลางความไม่แน่นอนเศรษฐกิจ
ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) คงอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานไว้ที่ 4.5% ในวันพฤหัสบดี โดยเน้นแนวทางที่ระมัดระวังและขับเคลื่อนด้วยข้อมูลสำหรับการปรับลดในอนาคต BoE ย้ำว่านโยบายการเงินจะไม่เป็นไปตามแนวทางที่กำหนดตายตัว และการปรับลดในอนาคตจะขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ แม้อัตราเงินเฟ้อยังคงสูงกว่าเป้าหมาย 2% แต่ BoE ลดอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปมากกว่าธนาคารกลางยุโรปและธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ตั้งแต่ฤดูร้อนปีที่แล้ว ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างซบเซา ขณะเดียวกัน ความไม่แน่นอนในภาคการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะภาษีศุลกากรที่เสนอโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ยิ่งเพิ่มความผันผวนทางเศรษฐกิจ
ในสหราชอาณาจักร การเพิ่มขึ้นของเงินสมทบประกันสังคมของนายจ้างตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการจ้างงานและราคาสินค้า นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี Rachel Reeves เตรียมประกาศมาตรการลดการใช้จ่ายภาครัฐในสัปดาห์หน้า ซึ่งอาจส่งผลต่อทิศทางเศรษฐกิจเพิ่มเติม
แม้จะมีความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ แต่ตลาดแรงงานยังคงทรงตัว โดยค่าจ้างภาคเอกชนเติบโต 6.1% ต่อปี ขณะที่การเติบโตของค่าจ้างโดยรวม (ไม่รวมโบนัส) อยู่ที่ 5.9% ท่ามกลางอัตราการว่างงานที่ยังคงอยู่ที่ 4.4% และจำนวนตำแหน่งงานว่างเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กลางปี 2022 อย่างไรก็ตาม ความคาดหวังเงินเฟ้อของประชาชนเพิ่มขึ้น โดยผลสำรวจ Citi/YouGov ระบุว่าความคาดหวังเงินเฟ้อระยะสั้นอยู่ที่ 3.9% สูงสุดในรอบกว่าหนึ่งปี
ด้านตลาดการเงินตอบสนองอย่างระมัดระวัง ค่าเงินปอนด์อังกฤษผันผวน และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษปรับตัวเล็กน้อย นักลงทุนยังคงไม่แน่ใจเกี่ยวกับแนวโน้มการลดดอกเบี้ย โดยคาดการณ์ว่าการลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปีอาจไม่มีความแน่นอนอีกต่อไป ขณะที่ผู้ว่าการ BoE แอนดรูว์ เบลีย์ เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการรอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มเงินเฟ้อก่อนดำเนินการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหราชอาณาจักรหดตัว 0.1% ในเดือนมกราคม เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมอ่อนแอ ทำให้ความพยายามของ Reeves ในการกระตุ้นเศรษฐกิจซับซ้อนขึ้น แม้ว่าภาคบริการและยอดขายซูเปอร์มาร์เก็ตยังคงแข็งแกร่ง แต่ภาคการผลิตและก่อสร้างชะลอตัว
ING และนักวิเคราะห์อื่นๆ คาดว่าเศรษฐกิจโดยรวมจะเติบโต 0.3% ในไตรมาสที่ 1 ปี 2025 อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์สำหรับปี 2025 และ 2026 ถูกปรับลดลงเนื่องจากความไม่แน่นอนทั่วโลก โดยองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของสหราชอาณาจักรในปี 2025 ลงเหลือ 1.4% โดยให้เหตุผลถึงการหยุดชะงักทางการค้า ขณะที่ Reeves คาดว่าจะประกาศมาตรการลดงบประมาณเพื่อรักษาเป้าหมายทางการคลัง โดยแม้จะมีความท้าทาย แต่อังกฤษยังคงคาดว่าจะเติบโตเร็วกว่าประเทศเศรษฐกิจหลักในยุโรป ท่ามกลางความเชื่อมั่นผู้บริโภคอังกฤษที่ปรับตัวดีขึ้นเป็นเดือนที่สองติดต่อกันในเดือนมีนาคม แม้ว่าความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการเงินส่วนบุคคลจะยังคงเปราะบาง
ด้านค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นในวันพฤหัสบดี หลังจากที่ Fed คงอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายภาษีของทรัมป์ โดย Fed คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25%-4.50% และส่งสัญญาณลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งในปีนี้
ทั้งนี้ นักลงทุนกำลังจับตาดูภาษีตอบโต้ซึ่งจะมีผลในวันที่ 2 เมษายน ขณะที่ Fed ปรับลดคาดการณ์การเติบโตในปี 2025 ลงเหลือ 1.7% จาก 2.1% และได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อ โดยพาวเวลล์ยังแสดงท่าทีระมัดระวังต่อดัชนีเศรษฐกิจที่อิงจากผลสำรวจ และมุมมองเกี่ยวกับ "ภาวะเงินเฟ้อชั่วคราว" ซึ่งอาจทำให้ตลาดผันผวน
ด้านข้อมูลแรงงานสหรัฐฯ แสดงให้เห็นว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย บ่งชี้ถึงตลาดแรงงานที่ทรงตัวท่ามกลางความระมัดระวัง ขณะที่ภาคอสังหาริมทรัพย์เติบโตเหนือความคาดหมายในเดือนกุมภาพันธ์ และดุลบัญชีเดินสะพัดในไตรมาส 4 ปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ยอดนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ ในเดือนมกราคมแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งอาจส่งผลให้แนวโน้มดีขึ้นเป็นการชั่วคราว โดยแม้สัญญาณเศรษฐกิจจะมีความหลากหลาย แต่นักลงทุนยังคาดการณ์ว่า Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งในปีนี้ โดยครั้งแรกคาดว่าจะเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคม
ด้วยเหตุนี้ คาดว่าอาจมีแนวโน้มความผันผวนในระยะสั้นเกิดขึ้น เนื่องจากนักลงทุนตอบสนองต่อข้อมูลเงินเฟ้อและแถลงการณ์ของ BoE อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงด้านขาลงยังคงเป็นปัจจัยหลัก โดยหากเศรษฐกิจสหราชอาณาจักรยังคงแสดงสัญญาณอ่อนแอ โดยเฉพาะภาคการผลิตและความเชื่อมั่นผู้บริโภค GBP/USD อาจทดสอบแนวรับที่ 1.2500 และมีโอกาสปรับตัวลงไปสู่ 1.2400 หากภาวะตลาดย่ำแย่ลง ในทางกลับกัน หากมีสัญญาณการเติบโตของค่าจ้างที่แข็งแกร่งขึ้นหรือความแข็งแกร่งของภาคบริการในสหราชอาณาจักร GBP/USD อาจได้รับแรงหนุนชั่วคราวและยืนเหนือระดับ 1.2600
นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนด้านการค้า จากนโยบายภาษีจากประธานาธิบดีทรัมป์ และการปรับขึ้นภาษีรอบใหม่ในวันที่ 2 เมษายน อาจกระตุ้นความต้องการเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งจะเป็นแรงกดดันเพิ่มเติมต่อ GBP/USD โดยหากไม่มีปัจจัยนอกเหนือความคาดหมายจากเศรษฐกิจสหราชอาณาจักร คู่สกุลดังกล่าวอาจมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในทิศทางขาลงในช่วงสัปดาห์ข้างหน้า และโอกาสในการปรับขึ้นอาจถูกจำกัด เว้นแต่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญ
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (30Min) CFD GBP/USD
แนวต้านสำคัญ : 1.2944, 1.2947, 1.2953
แนวรับสำคัญ : 1.2932, 1.2929, 1.2923
30Min Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.2924 - 1.2932 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.2932 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2945 และ SL ที่ประมาณ 1.2920 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2944 - 1.2952 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2967 และ SL ที่ประมาณ 1.2928 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.2944 - 1.2952 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้าน 1.2944 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2930 และ SL ที่ประมาณ 1.2956 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.2924 - 1.2932 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.2911 และ SL ที่ประมาณ 1.2948 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Mar 21, 2025 02:30PM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 1.2915 | 1.2923 | 1.293 | 1.2938 | 1.2945 | 1.2953 | 1.296 |
Fibonacci | 1.2923 | 1.2929 | 1.2932 | 1.2938 | 1.2944 | 1.2947 | 1.2953 |
Camarilla | 1.2934 | 1.2935 | 1.2937 | 1.2938 | 1.2939 | 1.2941 | 1.2942 |
Woodie's | 1.2915 | 1.2923 | 1.293 | 1.2938 | 1.2945 | 1.2953 | 1.296 |
DeMark's | - | - | 1.2934 | 1.294 | 1.295 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ