บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วันที่ 25 มีนาคม 2568

Create at 5 days ago (Mar 25, 2025 11:01)

หุ้นสหรัฐฯ พุ่ง นำโดยกลุ่มเทคโนโลยีแม้กังวลการค้า

ตลาดหุ้นทั่วโลกพุ่งขึ้นในวันจันทร์ นำโดยหุ้นสหรัฐฯ หลังมีรายงานว่าภาษีนำเข้าชุดใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจมุ่งเป้าเฉพาะเจาะจงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในตอนแรก ซึ่งช่วยลดความกังวลของนักลงทุน อย่างไรก็ตาม ความไม่แน่นอนยังคงมีอยู่เกี่ยวกับผลกระทบโดยรวมของมาตรการภาษีต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ และผลประกอบการของบริษัท โดยทรัมป์ยืนยันแผนเรียกเก็บภาษีนำเข้าใหม่ รวมถึงภาษีสำหรับรถยนต์ ยา และอะลูมิเนียม แต่ส่งสัญญาณว่าอาจมีการยกเว้นบางประเทศ นอกจากนี้ ยังมีการเรียกเก็บภาษี 25% กับประเทศที่ซื้อน้ำมันจากเวเนซุเอลา ซึ่งทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น

แม้ในช่วงแรกตลาดจะตอบรับเชิงบวก แต่ฟิวเจอร์สดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลงเล็กน้อยในการซื้อขายนอกเวลาทำการ เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังก่อนการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ นำโดยกลุ่มหุ้นเทคโนโลยี Tesla (TSLA) ที่พุ่งขึ้น 12% หลังประกาศยอดส่งมอบรถไตรมาสแรกสูงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ Nvidia (NVDA) เพิ่มขึ้น 3% ท่ามกลางมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการเติบโตของธุรกิจ AI ท่ามกลาง Apple (AAPL) ที่ขยับขึ้น 2.1% จากความคาดหวังว่ายอดขาย iPhone ในจีนจะแข็งแกร่ง แม้จะมีความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ส่วน Amazon (AMZN) ปรับตัวขึ้น 1.8% หลังมีรายงานว่าบริษัทกำลังขยายบริการคลาวด์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI และ Microsoft (MSFT) เพิ่มขึ้น 2.5% หลังได้รับสัญญาให้บริการคลาวด์มูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์จากรัฐบาลสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่า แม้มาตรการภาษีที่มุ่งเป้าเฉพาะกลุ่มจะดีกว่ามาตรการแบบกว้าง แต่ผลกระทบทางเศรษฐกิจและต่อบริษัทต่างๆ ยังคงมีนัยสำคัญ โดยนักลงทุนจะจับตาถ้อยแถลงของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และรายงานเศรษฐกิจที่จะออกมาในเร็วๆ นี้ เพื่อประเมินเสถียรภาพของตลาดและแนวโน้มเงินเฟ้อ

ด้าน Bank of America (BofA) คาดว่ากลยุทธ์การลงทุนแบบตามแนวโน้ม (Trend-Following Strategies) จะยังคงเป็นอุปสรรคต่อหุ้นสหรัฐฯ ในระยะสั้น โดยที่ที่ปรึกษาด้านการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity Trading Advisers – CTAs) อาจเพิ่มสถานะขายในดัชนี S&P 500 และ Nasdaq 100 ขณะที่โมเดลแนวโน้มของ BofA ส่งสัญญาณโมเมนตัมเชิงลบอย่างรุนแรง โดยคาดว่าค่าความแข็งแกร่งของแนวโน้มใน S&P 500 อาจลดลงถึง -75% และ Nasdaq-100 อาจลดลงถึง -76% BofA เตือนว่าหากตลาดไม่มีการกลับตัวที่สำคัญ กระแสเงินทุนจากกลยุทธ์เหล่านี้อาจสร้างแรงกดดันต่อหุ้นมากขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์หน้า

ในทางตรงกันข้าม UBS มองว่าการปรับฐานของตลาดหุ้นครั้งนี้เป็นโอกาสในการเข้าซื้อ โดยอ้างอิงข้อมูลในอดีตที่ชี้ว่า การเข้าตลาดหลังดัชนี S&P 500 ลดลง 10% มักให้ผลตอบแทนที่แข็งแกร่งทั้งในแง่สัมบูรณ์และปรับตามความเสี่ยง แม้ความไม่แน่นอนด้านนโยบายและเศรษฐกิจยังคงอยู่ UBS ไม่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเข้าสู่ภาวะถดถอย และยังคงประมาณการการเติบโตของ GDP ที่ 2% สำหรับปีหน้า โดยเปรียบเทียบสถานการณ์ปัจจุบันกับการชะลอตัวของตลาดในปี 2011 UBS ระบุว่ามาตรการกระตุ้นทางการคลังทั่วโลก โดยเฉพาะในยุโรปและจีน อาจช่วยบรรเทาความเสี่ยง แม้อาจเกิดความผันผวนในระยะสั้น แต่ UBS เชื่อว่าตลาดหุ้นจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้การปรับฐานครั้งนี้เป็นจุดเข้าซื้อที่น่าสนใจ

ในขณะเดียวกัน ความเคลื่อนไหวในภาคธุรกิจและการเมืองทั่วโลกยังเป็นประเด็นสำคัญ ผู้นำระดับสูงจาก Apple (AAPL), Qualcomm (QCOM), AstraZeneca (AZN) และ Saudi Aramco (TADAWUL:2222) กำลังเข้าร่วมการประชุม China Development Forum ซึ่งคาดว่าจะมีการหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังจากจีนพยายามดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และดำเนินมาตรการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศเพื่อลดผลกระทบจากภาษีและความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้า

ในด้านเศรษฐกิจ นักลงทุนกำลังจับตาการเปิดเผยข้อมูลสำคัญในสัปดาห์นี้เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับเงินเฟ้อและการเติบโต โดยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ให้ความสำคัญ มีกำหนดเผยแพร่ในวันศุกร์ โดยคาดว่าค่า Core PCE จะยังคงสูงกว่าระดับเป้าหมาย 2% ของ Fed นอกจากนี้ ยังมีรายงานสำคัญอื่นๆ เช่น การปรับประมาณการ GDP ไตรมาส 4 ยอดขายบ้าน และดัชนี S&P Global Composite Purchasing Managers’ Index (PMI) ซึ่งคาดว่าจะสะท้อนถึงการชะลอตัวเล็กน้อยของกิจกรรมทางธุรกิจ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ล่าสุดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม แต่ยอมรับว่าเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงและการเติบโตเริ่มชะลอตัว อย่างไรก็ตาม ประธาน Fed เจอโรม พาวเวลล์ ยืนยันว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงมีความ "แข็งแกร่งโดยรวม"

ด้วยเหตุนี้ แนวโน้มของ S&P 500 (US500) ยังคงมีความไม่แน่นอนในระยะสั้น เนื่องจากนักลงทุนต้องพิจารณาความหวังในผลกำไรจากเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย AI ต่อแรงกดดันจากปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาค ขณะที่การดีดตัวในวันจันทร์บ่งชี้ถึงการกลับมาของความสนใจในการซื้อ แต่แบบจำลองแนวโน้มของ Bank of America แสดงถึงโมเมนตัมเชิงลบที่ยังคงอยู่ พร้อมกับแรงกดดันจากการเพิ่มตำแหน่งขาย โดยหากแรงขายเพิ่มขึ้น ระดับแนวรับใกล้ 5,700–5,650 อาจถูกทดสอบ และหากราคาหลุดลงต่ำกว่านั้น 5,600 จะเป็นระดับเป้าหมายที่สำคัญ ในทางกลับกัน หากการเคลื่อนไหวอยู่เหนือ 5,800 ได้อย่างต่อเนื่อง อาจเปิดโอกาสให้เกิดการทดสอบระดับสูงสุดตลอดกาลอีกครั้ง ซึ่งจะได้รับแรงผลักดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ใกล้เข้ามาและสัญญาณนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ

ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD US 500 [S&P 500]

แนวต้านสำคัญ : 5760.9, 5762.1, 5764.0

แนวรับสำคัญ : 5757.1, 5755.9, 5754.0                   

1H Outlook      

วิเคราะห์ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่มา: TradingView                                   

Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 5752.1 - 5757.1 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 5757.1 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5761.2 และ SL ที่ประมาณ 5749.6 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 5760.9 - 5765.9 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5769.5 และ SL ที่ประมาณ 5754.6 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้                 

Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 5760.9 - 5765.9 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 5760.9 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5756.2 และ SL ที่ประมาณ 5768.4 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 5752.1 - 5757.1 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 5749.0 และ SL ที่ประมาณ 5763.4 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้

Pivot Points Mar 25, 2025 10:24AM GMT+7

Name
S3
S2
S1
Pivot Points
R1
R2
R3
Classic 5751.2 5754 5756.2 5759 5761.2 5764 5766.2
Fibonacci 5754 5755.9 5757.1 5759 5760.9 5762.1 5764
Camarilla 5757.1 5757.6 5758 5759 5759 5759.4 5759.9
Woodie's 5751 5753.9 5756 5758.9 5761 5763.9 5766
DeMark's - - 5755.2 5758.5 5760.2 - -

ที่มา: Investing 1Investing 2

______________________________
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิกที่นี่
รู้เท่าทันสถานการณ์โลกและบทวิเคราะห์เทคนิคขั้นสูง: คลิกที่นี่

 

Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES