ราคาข้าวโพดพุ่งจากปัจจัยสภาพอากาศและแรงกดดันภาษียุโรป
ราคาข้าวโพดปรับตัวสูงขึ้นจากแรงซื้อของกองทุนและปัจจัยทางเทคนิค โดยได้รับแรงหนุนจากความกังวลเรื่องความล่าช้าในการเพาะปลูกในเขตมิดเวสต์ฝั่งตะวันออก ซึ่งเกิดจากน้ำท่วมในช่วงที่ผ่านมา แม้ว่าจะยังอยู่ในช่วงต้นของฤดูกาลเพาะปลูก แต่สภาพอากาศที่ชื้นต่อเนื่อง ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์ลานีญา อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดทั้งหมดในปี 2025 นักวิเคราะห์คาดว่ากระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) จะปรับลดตัวเลขสต็อกข้าวโพดปลายงวดของสหรัฐฯ ในรายงานที่จะประกาศเร็ว ๆ นี้ ในขณะเดียวกัน สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) รายงานว่าการผลิตเอทานอลลดลงตามฤดูกาล แตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 สัปดาห์ ขณะที่สต็อกในประเทศและการส่งออกเอทานอลเพิ่มขึ้น
ความตึงเครียดทางภาษีกำลังสร้างความไม่แน่นอนให้กับตลาดข้าวโพด USDA ได้ยืนยันการขายข้าวโพดสหรัฐฯ จำนวน 240,000 ตันให้กับสเปนสำหรับฤดูกาลการตลาดปี 2024–25 เหนือการคาดการณ์ ก่อนที่สหภาพยุโรปจะเริ่มเก็บภาษีนำเข้าข้าวโพดจากสหรัฐฯ ที่อัตรา 25%
อัตราภาษีที่กำลังจะถูกบังคับใช้คาดว่าจะส่งผลให้การส่งออกข้าวโพดของสหรัฐฯ ไปยังสหภาพยุโรปลดลงอย่างมาก ซึ่งในฤดูกาลนี้ถือเป็นหนึ่งในผู้ซื้อรายใหญ่ โดยจากเดือนกรกฎาคม 2024 จนถึงต้นเดือนเมษายน 2025 สหภาพยุโรปได้นำเข้าข้าวโพดจากสหรัฐฯ ถึง 3.4 ล้านตัน เพิ่มขึ้นอย่างมากจากเพียง 114,000 ตันในปีที่ผ่านมา ทำให้สหรัฐฯ กลายเป็นซัพพลายเออร์อันดับสองรองจากยูเครน ด้วยราคาข้าวโพดสหรัฐฯ ที่ต่ำที่สุดในตลาดโลก ผู้ซื้อในยุโรปจึงฉวยโอกาสซื้อในช่วงที่ราคายังเอื้ออำนวย อย่างไรก็ตาม เมื่อภาษีมีผล ผู้ซื้ออาจจำเป็นต้องหันไปพึ่งแหล่งอื่นที่มีราคาสูงกว่า เช่น ยูเครนและบราซิล ซึ่งอาจมีการปรับราคาสูงขึ้นก่อนได้ผลผลิตรอบใหม่ในเดือนกรกฎาคม
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ในยุโรปเตรียมรับมือกับต้นทุนที่สูงขึ้น แต่อาจไม่ถึงขั้นขาดแคลนอุปทาน นักวิเคราะห์ประเมินว่าผู้นำเข้าอาจต้องจ่ายเพิ่ม 6–7 ดอลลาร์ต่อตัน ขณะที่สมาคมอุตสาหกรรมอาหารสัตว์แห่งยุโรป (FEFAC) เตือนว่าภาษีอาจเพิ่มภาระต้นทุนสูงถึง 2 พันล้านยูโร โดยสเปนเป็นผู้นำการนำเข้าข้าวโพดสหรัฐฯ ในกลุ่ม EU รวมถึงดีลล่าสุดที่ซื้อ 240,000 ตัน แม้ว่าการไม่รวมกากถั่วเหลืองจากบัญชีสินค้าที่ต้องเสียภาษีจะช่วยลดผลกระทบบางส่วน แต่ความกังวลยังคงอยู่ โดยเฉพาะการรวมไลซีน ซึ่งเป็นสารเติมอาหารสัตว์ รวมถึงผลกระทบจากภาษีตอบโต้การทุ่มตลาดของ EU ต่อไลซีนจากจีน
แม้ว่าสหภาพยุโรปมีแผนเก็บภาษีนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ เริ่มวันที่ 1 ธันวาคมนี้ แต่ผู้ค้าหลายรายมองว่าช่วงเวลาดังกล่าวยังเปิดโอกาสให้เกิดการเจรจาและค้าขายต่อเนื่องได้ ขณะที่จีนยังคงเน้นการนำเข้าถั่วเหลืองจากบราซิลเป็นหลัก
อย่างไรก็ดี สัญญาข้าวโพดล่วงหน้าในวันพุธปรับตัวสูงขึ้น ได้แรงหนุนจากปัจจัยการเมืองระหว่างประเทศ ความกังวลด้านสภาพอากาศ และข้อมูลด้านเอทานอล ตลาดตอบสนองอย่างแข็งแกร่งต่อการประกาศของประธานาธิบดีทรัมป์เกี่ยวกับการระงับภาษีใหม่เป็นเวลา 90 วันสำหรับประเทศส่วนใหญ่ ยกเว้นจีน ข่าวดังกล่าวช่วยดันราคาข้าวโพดล่วงหน้า CBOT เดือนพฤษภาคม (CK25) ขึ้น 5 เซนต์ ปิดที่ 4.74 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม ขณะที่ราคาข้าวโพดตลาดเงินสดปรับขึ้นเช่นกัน โดยราคาเฉลี่ยจาก CmdtyView ขยับขึ้นราว 5 1/4 เซนต์ มาอยู่ที่ 4.46 1/2 ดอลลาร์
แม้ราคาข้าวโพดจะขยับขึ้นในระยะสั้น แต่ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนกลับทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อจีนตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐฯ เป็น 84% ส่งผลให้แรงจูงใจในการนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะตลาดข้าวโพดและถั่วเหลืองซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งราคาที่ปรับตัวขึ้นก่อนหน้าเริ่มถูกกดดันก่อนจะฟื้นตัวช่วงปลายวัน
ในด้านเอทานอล EIA รายงานว่าการผลิตรายสัปดาห์ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนที่ 1.021 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่ปริมาณสำรองเพิ่มขึ้นเป็น 27.034 ล้านบาร์เรล สะท้อนถึงอุปสงค์ที่ลดลง ส่วนการส่งออกเอทานอลเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ปริมาณที่ใช้ในโรงกลั่นกลับลดลง
รายงาน WASDE ประจำเดือนของ USDA ที่จะประกาศในวันพฤหัสบดี คาดว่าจะมีการปรับลดสต็อกข้าวโพดปลายงวดของสหรัฐฯ ลงประมาณ 30 ล้านบุชเชล โดยกรอบคาดการณ์อยู่ที่ 1.405 ถึง 1.605 พันล้านบุชเชล ขณะที่ประมาณการผลผลิตในอเมริกาใต้อาจถูกปรับลดเช่นกัน โดยอาร์เจนตินาอาจลดลง 0.7 ล้านตัน เหลือ 49.3 ล้านตัน ส่วนบราซิลอาจลดเล็กน้อยเหลือ 125.91 ล้านตัน
ในขณะเดียวกัน สภาพอากาศยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยง โดยเฉพาะสำหรับเกษตรกรสหรัฐฯ ที่เริ่มต้นฤดูเพาะปลูกฤดูใบไม้ผลิ ฝนตกในบางส่วนของมิดเวสต์และพื้นที่เดลต้า ทำให้ความคืบหน้าในการเพาะปลูกล่าช้า โดยจนถึงวันอาทิตย์ มีการเพาะปลูกข้าวโพดเพียง 2% ของพื้นที่ทั่วประเทศ
แม้จะได้รับแรงสนับสนุนจากปัจจัยมหภาค เช่น ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง และราคาน้ำมันดิบที่แข็งแกร่ง แต่ความไม่แน่นอนด้านอุปสงค์ยังคงอยู่ โดยเฉพาะเมื่อผู้ซื้อในเอเชียเริ่มลดการซื้อสินค้าสหรัฐฯ จากความเสี่ยงทางภาษี ซึ่งเมื่อรวมกับการชะลอตัวตามฤดูกาลของกิจกรรมส่งออก และความตึงเครียดทางการเมืองทั่วโลก ก็ยังคงสร้างความผันผวนให้กับตลาดข้าวโพดและตลาดสินค้าเกษตรโดยรวม
สัญญาล่วงหน้าข้าวโพดมีแนวโน้มแข็งแกร่งในระยะสั้นต่อเนื่อง โดยได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อทางเทคนิคและความกังวลด้านสภาพอากาศที่ยังคงอยู่ อย่างไรก็ดี แนวโน้มขาขึ้นในระยะยาวอาจถูกจำกัดจากความเสี่ยงด้านอุปสงค์ อันเนื่องมาจากความตึงเครียดด้านภาษีการค้าระหว่างประเทศที่ทวีความรุนแรงขึ้น โดยหากความล่าช้าในการเพาะปลูกยังคงดำเนินต่อไปจนถึงเดือนเมษายน และปรากฏการณ์ลานีญาทวีความรุนแรง ราคาข้าวโพดอาจทดสอบแนวต้านที่ระดับ 485–490 ดอลลาร์ ในทางกลับกัน หากสภาพอากาศเริ่มทรงตัวและความไม่แน่นอนด้านการค้าลดลง อาจทำให้ราคาปรับฐานลงสู่ระดับ 460 ดอลลาร์
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD US Corn Futures - May 25 (ZCK5)
แนวต้านสำคัญ : 474.78, 474.93, 475.17
แนวรับสำคัญ : 474.30, 474.15, 473.92
1H Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 472.90 - 474.30 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 474.30 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 474.96 และ SL ที่ประมาณ 472.20 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 474.78 – 476.18 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 476.40 และ SL ที่ประมาณ 473.60 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 474.78 – 476.18 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้านที่ 474.78 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 474.3 และ SL ที่ประมาณ 476.88 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 472.90 - 474.30 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 472.40 และ SL ที่ประมาณ 475.48 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Apr 10, 2025 01:30PM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 473.71 | 473.92 | 474.33 | 474.54 | 474.96 | 475.17 | 475.58 |
Fibonacci | 473.92 | 474.15 | 474.3 | 474.54 | 474.78 | 474.93 | 475.17 |
Camarilla | 474.58 | 474.64 | 474.69 | 474.54 | 474.81 | 474.86 | 474.92 |
Woodie's | 473.8 | 473.96 | 474.43 | 474.59 | 475.05 | 475.21 | 475.68 |
DeMark's | - | - | 474.44 | 474.6 | 475.07 | - | - |
ที่มา: Fastmarkets, Reuters
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ