แบงก์ชาติอังกฤษเตือนตลาดผันผวนหนัก เหตุภาษีทรัมป์เขย่าเศรษฐกิจโลก
ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ได้เตือนว่าตลาดการเงินทั่วโลกยังคงมีความผันผวนสูง เนื่องจากนโยบายภาษีศุลกากรที่แข็งกร้าวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ซึ่งนำไปสู่มาร์จิ้นคอลจำนวนมากจากกองทุนเฮดจ์ฟันด์ และได้เพิ่มความเสี่ยงทางเศรษฐกิจทั่วโลก
รองผู้ว่าการ BoE ซาราห์ บรีเดน กล่าวว่า ผลกระทบเต็มรูปแบบของภาษีสหรัฐฯ ต่ออัตราเงินเฟ้อและนโยบายดอกเบี้ยของสหราชอาณาจักรยังไม่ชัดเจน แต่คาดว่าภาษีจะกดดันการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีการคลัง ราเชล รีฟส์ เน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือระดับโลก โดยเตือนถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจทั่วโลกอย่างรุนแรงจากภาษีดังกล่าว และให้คำมั่นว่าจะผลักดันระบบการค้าที่เป็นธรรมในการประชุม IMF ที่กำลังจะมาถึง
แม้เศรษฐกิจจะเติบโต 0.5% ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นอัตราที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 11 เดือน แต่ยังคงมีความกังวลว่าตัวเลขดังกล่าวอาจเกิดขึ้นเพียงระยะสั้น โดยอาจเกิดจากธุรกิจเร่งส่งออกไปยังสหรัฐฯ ก่อนการเก็บภาษีจริง ซึ่งช่วยดันตัวเลขในช่วงสั้นๆ ขณะที่ Barclays ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP ไตรมาสแรกเป็น 0.7% แต่คาดว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวในไตรมาสถัดไป โดยแม้ดุลการค้าของสหราชอาณาจักรจะแคบลง แต่มีการคาดการณ์ถึงการค้าที่หยุดชะงักที่อาจเป็นภาระต่อเศรษฐกิจในระยะยาว
ด้านภาวะตลาดแรงงานยังคงเปราะบาง โดยอัตราการจ้างงานชะลอตัว อัตราการปลดพนักงานเพิ่มขึ้น และธุรกิจต่างๆ ยังคงลดแผนการจ้างงานลงเนื่องจากภาษีเงินเดือนที่สูงขึ้นและความไม่แน่นอนทางการค้าอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและการเติบโตของค่าจ้างยังคงซบเซา ซึ่งเพิ่มแรงกดดันต่อเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ Barclays และ Deutsche Bank ได้ปรับลดคาดการณ์ CPI เล็กน้อย โดยคาดว่าจะขึ้นสู่จุดสูงสุดที่ 3.7% ก่อนจะผ่อนคลายลง และคาดว่าเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในระดับสูงในระยะสั้นเนื่องจากค่าสาธารณูปโภคและค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น แม้ปัจจัยกดเงินเฟ้อ เช่น ราคาพลังงานที่ลดลงและอุปสงค์ที่อ่อนแอ อาจดึง CPI ลงมาใกล้ระดับ 3% ภายในปีหน้า
ด้านตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหราชอาณาจักรอยู่ภายใต้แรงกดดันเช่นกัน โดยความต้องการลดลงอย่างมากในเดือนมีนาคม ท่ามกลางยอดขายและการคาดการณ์ราคาที่ลดลง แม้ราคาเสนอซื้อจะทำสถิติสูงสุดใหม่ในต้นเดือนเมษายน แต่ข้อมูลพื้นฐานชี้ให้เห็นแนวโน้มชะลอตัว โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในวงกว้าง ขณะที่ความคาดคาดหวังเกี่ยวกับค่าเช่ายังคงเพิ่มขึ้นเนื่องจากอุปทานตึงตัว
ขณะเดียวกัน ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเนื่องจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลง ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นจากนโยบายภาษีที่ไม่แน่นอนของประธานาธิบดีทรัมป์ โดยการประกาศเกี่ยวกับภาษีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการยกเว้นชั่วคราวสำหรับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และการขู่เก็บภาษีใหม่กับเซมิคอนดักเตอร์และยา ได้เพิ่มความสับสนให้ตลาด
ทั้งนี้ ตลาดยังคงตึงเครียดหลังจากที่ทรัมป์ประกาศชะลอภาษีส่วนใหญ่เป็นเวลา 90 วันหลังจากเกิดการเทขายในตลาดการเงินอย่างหนัก แม้อัตราเงินเฟ้อผู้บริโภคในเดือนมีนาคมจะเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ตัวเลขดังกล่าวยังไม่รวมผลกระทบจากภาษีรอบใหม่ โดยความกลัวเกี่ยวกับสงครามการค้าที่ยืดเยื้อที่อาจดันเงินเฟ้อให้สูงขึ้นและชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจยังคงมีอยู่
ด้านความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในสหรัฐฯ ลดลงอย่างมากในเดือนเมษายน โดยแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2022 ตามข้อมูลจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ขณะที่การคาดการณ์เงินเฟ้อพุ่งขึ้นเป็น 6.7% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 1981 โดยความกังวลเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มรายได้ อายุ และกลุ่มทางการเมือง ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการว่างงานที่เพิ่มขึ้น โดยมีจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และการคาดการณ์การสูญเสียงานในอนาคตแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2009 แม้จะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่การจ้างงานชะลอตัวลง และระยะเวลาว่างงานยาวนานขึ้น
นอกจากนี้ ผลกระทบจากสงครามการค้าเห็นได้ชัดเจนที่ท่าเรือขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ โดยการนำเข้าจากจีนลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากธุรกิจต่างๆ ชะลอการจัดส่งสินค้าก่อนที่ภาษีเพิ่มเติมจะมีผล ท่าเรือลอสแอนเจลิสเตือนว่าปริมาณการนำเข้าทั้งหมดอาจลดลงกว่า 10% ในช่วงครึ่งหลังของปี ขณะที่การส่งออกได้ลดลงไปแล้ว 15% ส่งผลกระทบต่อภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมการผลิต
ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลังสหรัฐฯ รายงานการขาดดุลงบประมาณ 161,000 ล้านดอลลาร์ในเดือนมีนาคม ลดลงจากปีก่อนเนื่องจากปฏิทินที่เปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม รายได้จากภาษีศุลกากรพุ่งขึ้นเป็น 8.2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2022 สาเหตุหลักมาจากภาษีชุดใหม่ของทรัมป์
ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลกที่เพิ่มขึ้นจากสงครามภาษีที่ทวีความรุนแรงขึ้นของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ เงินปอนด์อังกฤษมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับแรงกดดันในระยะกลาง เมื่อพิจารณาโดยรวมแล้ว คาดว่า GBP/USD จะซื้อขายต่ำลงสู่ระดับ 1.29–1.30 ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยมีความเสี่ยงด้านลบเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เว้นแต่จะมีการแก้ไขที่ชัดเจนเกี่ยวกับพลวัตทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน หรือมีการเปลี่ยนแปลงจุดยืนด้านนโยบายของธนาคารกลางอังกฤษ
ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์ทางเทคนิค (1H) CFD GBP/USD
แนวต้านสำคัญ : 1.3185, 1.3191, 1.3201
แนวรับสำคัญ : 1.3165, 1.3159, 1.3149
1H Outlook
ที่มา: TradingView
Buy/Long 1 หากมีการแตะแนวรับที่ช่วงราคา 1.3151 - 1.3165 แต่ไม่สามารถเบรกแนวรับที่ 1.3165 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3185 และ SL ที่ประมาณ 1.3144 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Buy/Long 2 หากสามารถเบรกแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3185 - 1.3199 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3210 และ SL ที่ประมาณ 1.3158 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 1 หากมีการแตะแนวต้านที่ช่วงราคา 1.3185 - 1.3199 แต่ไม่สามารถเบรกแนวต้าน 1.3185 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3158 และ SL ที่ประมาณ 1.3206 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Sell/Short 2 หากสามารถเบรกแนวรับที่ช่วงราคา 1.3151 - 1.3165 ได้ อาจตั้ง TP ที่ประมาณ 1.3132 และ SL ที่ประมาณ 1.3192 หรือตามความเสี่ยงที่รับได้
Pivot Points Apr 15, 2025 12:18AM GMT+7
Name
|
S3
|
S2
|
S1
|
Pivot Points
|
R1
|
R2
|
R3
|
---|---|---|---|---|---|---|---|
Classic | 1.3132 | 1.3149 | 1.3158 | 1.3175 | 1.3184 | 1.3201 | 1.321 |
Fibonacci | 1.3149 | 1.3159 | 1.3165 | 1.3175 | 1.3185 | 1.3191 | 1.3201 |
Camarilla | 1.316 | 1.3162 | 1.3165 | 1.3175 | 1.3169 | 1.3172 | 1.3174 |
Woodie's | 1.3128 | 1.3147 | 1.3154 | 1.3173 | 1.318 | 1.3199 | 1.3206 |
DeMark's | - | - | 1.3153 | 1.3173 | 1.318 | - | - |
ที่มา: Investing 1, Investing 2
อัพเกรดความรู้เพิ่มเติม: คลิ