ปัจจัยที่น่าสนใจของสัปดาห์นี้

ปัจจัยที่น่าสนใจของสัปดาห์นี้
Create at 3 years ago (Nov 23, 2020 12:17)

ตลาดหุ้นในสัปดาห์ที่สั้นลงจากวันหยุดที่กำลังจะมาถึงนี้มีแนวโน้มจะโฟกัสอยู่แค่สองประเด็น คือความหวังจากวัคซีน และการระบาดของไวรัสทั่วสหรัฐอเมริกา ข้อมูลทางเศรษฐกิจรวมถึงรายงานเกี่ยวกับการใช้จ่ายส่วนบุคคลและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจะแสดงให้เห็นว่าไวรัสกลับมาแพร่ระบาดกำลังกระตุ้นให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจก่อนวัน Black Friday ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นสำหรับเทศกาลช้อปปิ้งช่วงวันหยุด ข้อมูล PMI จากโซนยุโรปมีแนวโน้มที่จะชี้ให้เห็นถึงความเคลื่อนไหวทางธุรกิจที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากการล็อคดาวน์มาตรการใหม่จะสะท้อนตัวเลขให้เราเห็น ในขณะเดียวกันสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปดูเหมือนจะใกล้จะบรรลุข้อตกลงการค้าหลัง Brexit 

การระบาดของโรคยังคงถือเป็นภัยคุกคาม โดยสหรัฐฯมีรายงานผู้ติดเชื้อ COVID-19 จำนวน 12 ล้านคนในวันเสาร์ซึ่งครอบคลุมเวลาหลายวันด้วยการติดเชื้อที่ทำลายสถิติ ในขณะเดียวกันชาวอเมริกันหลายล้านคนคาดว่าจะเดินทางในช่วงวันหยุดขอบคุณพระเจ้าที่กำลังจะมาถึงโดยไม่สนใจคำเตือนจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเกี่ยวกับการแพร่ระบาด
 
ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
สหรัฐฯมีกำหนดเปิดเผยข้อมูลความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในวันอังคาร เพราะฉะนั้นวันพุธจะเป็นวันที่อัดแน่นไปด้วยข้อมูลทางเศรษฐกิจ โดยข้อมูลเกี่ยวกับการใช้จ่ายส่วนบุคคลชี้วัดว่ามีแนวโน้มจะชะลอตัวในเดือนตุลาคม ในขณะที่ตัวเลข GDP ในไตรมาสที่สามคาดว่าจะไม่ได้รับการเหลียวแล
รายงานอื่น ๆ รวมถึงตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกซึ่งจะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดหลังจากตัวเลขเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิดในสัปดาห์ที่แล้วซึ่งส่งสัญญาณว่าการฟื้นตัวของตลาดแรงงานอาจหยุดชะงัก  นอกจากนี้ยังมีข้อมูลดุลการค้า คำสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดขายบ้าน และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคก่อนวันหยุดขอบคุณพระเจ้าของวันพฤหัสบดี ถัดมาในวันพุธ ธนาคารกลางสหรัฐจะเผยแพร่รายงานการประชุมครั้งล่าสุดกับนักลงทุนเพื่อเฝ้าระวังการสนทนาเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนที่อาจเกิดขึ้นกับโปรแกรมการซื้อสินทรัพย์ ในขณะเดียวกันการปรากฏตัวของประธานาธิบดีเฟดประจำภูมิภาค Thomas Barkin และ Charles Evans ในวันจันทร์และ James Bullard ในวันอังคารก็เป็นที่จับตาด้วยเช่นกัน Black Fridayในปีปกติผู้บริโภคในสหรัฐฯจะเตรียมพร้อมสำหรับ "Black Friday" ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเทศกาลช้อปปิ้งในช่วงวันหยุดตามประเพณี แต่ไม่ใช่ปีนี้ ในขณะที่ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เพิ่มมากขึ้นทำให้ผู้บริโภคจำนวนมากเข้าร้านเพื่อลดราคา ทั้งนี้มีการคาดการณ์ว่ายอดซื้อของทางออนไลน์จะพุ่งสูงขึ้น Oxford Economics คาดว่ายอดขายในช่วงวันหยุดจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.6% จากปีที่แล้วเนื่องจากไวรัสโคโรนาและตลาดแรงงานที่แย่ลงMacy's Inc (NYSE:M) ยอดขายลดลง 20% ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง แต่ไม่ใช่ว่าทุกบริษัทจะแย่ลงไปซะทั้งหมด Walmart Inc (NYSE:WMT)คาดการณ์ว่ายอดขายจะดีช่วงเทศกาลวันหยุด ส่วนผลประกอบการของ Nordstrom Inc (NYSE:JWN), Gap Inc (NYSE:GPS) และ Dollar Tree Inc (NASDAQ:DLTR) จะตามมา
ดัชนีชี้วัดส่วนใหญ่คาดว่าตลาดจะหดตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากภาคบริการซึ่งจนถึงขณะนี้มีการใช้มาตรการที่เข้มงวด ส่งผลกระทบถึงภาคการผลิต
 
Brexit ดูเหมือนว่าสหราชอาณาจักรกำลังจะบรรลุข้อตกลงการค้าหลัง Brexit กับสหภาพยุโรปซึ่งจะควบคุมความสัมพันธ์ของพวกเขาหลังจากช่วงการเปลี่ยนแปลงสิ้นสุดลงในวันที่ 1 มกราคม 2564 ซึ่งเหลือเพียงหกสัปดาห์สหราชอาณาจักรกำลังจะบรรลุข้อตกลงการค้าหลัง Brexit สิ้นสุดลงกับสหภาพยุโรป ซึ่งจะชี้ชะตาความสัมพันธ์ของพวกเขาหลังจากช่วงการเปลี่ยนแปลงสิ้นสุดลงในวันที่ 1 มกราคม 2564 ซึ่งเหลือเวลาเพียงแค่หกสัปดาห์
 
ประเด็นปัญหา Brexit มา ๆ ไป ๆ อยู่หลายสัปดาห์แล้ว ซึ่งการเจรจาใกล้สิ้นสุดลง คาดว่าจะมีการตกลงรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ จนถึงวันสุดท้าย
 
แม้ว่าGBP/USDและหุ้นในสหราชอาณาจักรจะปรับตัวขึ้น บ่งชี้ว่ามีแรงหนุนจากความหวังในการมาของฉีดวัคซีนและข้อตกลง Brexit แต่ระหว่างทางก็อาจจะไม่สู้ดีนัก 
Tags:

TECHNICAL ANALYSIS

ARTICLES