ในวันนี้ราคา Bitcoin ได้ปรับตัวพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่ที่ระดับ $ 47,500 โดยเกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่ Tesla (NASDAQ:TSLA) ประกาศซื้อ BTC มูลค่ากว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ เหตุการณ์นี้ทำให้สัญญา Short position มูลค่ากว่า 555 ล้านดอลลาร์ถูก liquidated บัญชีไปอย่างรวดเร็วภายในสองชั่วโมงและเกิดขึ้นเมื่อสัญญา Open interest พุ่งแตะระดับ 13,700 ล้านดอลลาร์ ซึ่งอยู่ต่ำกว่าจุดสูงสุดตลอดกาลเพียงแค่ 3% เท่านั้น
การเคลื่อนไหวของราคาเหล่านี้ทำให้ต้นทุนในการถือ Long Position เพิ่มสูงขึ้นอย่างมากโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ใช้สัญญาฟิวเจอร์สแบบที่ไม่มีวันหมดอายุ (perpetual futures) ดังกราฟที่แสดงไว้ก่อนหน้านี้ผลรวมของสัญญา BTC Futures ที่ยังคงถูกเปิดอยู่ในปัจจุบันมีจุดสูงสดตลอดกาลอยู่ที่ระดับ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เมื่อใดก็ตามที่มีข่าวเชิงบวกอย่างกระทันหัน เป็นเรื่องปกติที่ผู้เล่นจะต้องเปิด Position ด้วยอัตราเลเวอเรจที่เพิ่มมากขึ้น โดยสิ่งนี้เกิดขึ้นทั้งกับฝั่งผู้ขาย Short sell ที่อัตราผลกำไรลดลงเนื่องจากการขาดทุน และฝั่งผู้ซื้อ Long Buyer ที่มีแนวโน้มเพิ่ม Postion ให้เยอะมากขึ้น โดยหลังจากการปั๊มราคาครั้งแรกเกิดขึ้นคาดว่าอัตรา funding rate (ค่าธรรมเนียมที่ฝั่ง Long ต้องจ่ายให้กับฝั่ง Short) จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังกราฟที่แสดงไว้ด้านบนค่าธรรมเนียมราย 8 ชั่วโมงที่เรียกเก็บระหว่างนักเทรดฝั่ง Long และฝั่ง Short เพื่อชดเชยความสมดุลของอัตราเลเวอเรจในที่สุดได้เพิ่มขึ้นแตะระดับ 0.25%
โดยอัตรานี้เทียบเท่ากับอัตราค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 5.4% ต่อสัปดาห์ ซึ่งค่อนข้างสำคัญสำหรับนักเทรดฟิวเจอร์ส เราควรทราบว่าแม้ราคา Bitcoin จะพิ่มขึ้นขึ้นอย่างที่เห็นในวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา แต่อัตรา funding rate ก็มีแนวโน้มที่จะปรับตัวเองให้มีความสมดุล เหตุผลหลักสองประการที่ทำให้เกิดสิ่งนี้ก็เพราะ ฝั่งผู้ซื้อที่ใช้อัตราเลเวอเรจฝากเงินเพิ่มมากขึ้นและ arbitrage desks ได้ทำการ Short สัญญา perpetual futures ในขณะที่ซื้อ Bitcoin Spot ไปพร้อมกัน อัตรา funding rate ที่แตกต่างกันตั้งแต่