ข้อมูลของควิก-แฟคเซ็ท ซึ่งครอบคลุมบริษัทกว่า 10,000 แห่ง ระบุว่า กำไรสุทธิรวมกันมีมูลค่าถึง 712.7 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเดือน ต.ค.-ธ.ค.
เพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อนหน้านี้ โดยบริษัทจีนมีผลกำไรเพิ่มขึ้น 40% ขณะที่ผลกำไรของบริษัทในเอเชียนอกจีนและญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 70%
ในจีน อุตสาหกรรมรถยนต์และอุตสาหกรรมด้านโครงสร้างพื้นฐานได้ประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลปักกิ่ง กำไรรายไตรมาสของอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิง บริษัทอีคอมเมิร์ซใหญ่สุดของจีน ทะยานกว่า 50% และยอดขายวันคนโสด 11 พ.ย.ปีที่แล้ว บริษัทก็ทำยอดขายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์
“จีนเป็นประเทศเดียวที่มีการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)เมื่อปีที่แล้ว ต้องขอบคุณการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจจีนที่ช่วยให้รายได้ ผลประกอบการของอาลีบาบารายไตรมาสเพิ่มขึ้น”แดเนียล จาง ประธานและประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร(ซีอีโอ)อาลีบาบา กล่าว
ส่วนอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมสำคัญในเอเชีย มีสัดส่วนของการทำกำไรประมาณ 30% ของการเติบโตของผลกำไรโดยรวม ซึ่งการที่แนวโน้มตลาดเปลี่ยนไปหาอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคม ช่วยให้ความต้องการคอมพิวเตอร์และเซอร์เวอร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจผลิตชิพ หรือเซมิคอนดักเตอร์ มีผลกำไรเพิ่มขึ้น 40% ขณะที่ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ของเกาหลีใต้และไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟคเจอริง โค ต่างมีกำไรจากการดำเนินการทั้งคู่
ขณะที่ผลประกอบการบริษัทญี่ปุ่นทะยาน 48% นิปปอน สตีล หวนกลับมาทำกำไรได้อานิสงส์จากยอดขายที่เพิ่มขึ้น ส่วนฮอนด้า มอเตอร์ ก็มีผลกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยฮอนด้า เพิ่มคาดการณ์กำไรสุทธิในปีงบการเงิน 2563 ที่จะสิ้นสุดในเดือนมี.ค.นี้ เป็น 4.65 แสนล้านเยน (4.4 พันล้านดอลลาร์) จากการคาดการณ์ก่อนหน้าที่ 3.9 แสนล้านเยน หลังยอดขายฟื้นตัว ขณะเดียวกัน บริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลกำไรจากการดำเนินงานของปีงบการเงิน 2563 ที่จะสิ้นสุดในเดือนมี.ค.นี้ ขึ้นเป็น 5.2 แสนล้านเยน จากคาดการณ์เดิมที่ 4.2 แสนล้านเยนที่คาดการณ์ไว้ในเดือนพ.ย.
ฮอนด้าได้ปรับลดแนวโน้มยอดขายรถยนต์ทั่วโลกลง 100,000 คันในไตรมาสเดือนม.ค-มี.ค. เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกและบริษัทได้ปรับลดคาดการณ์ยอดขายรถยนต์สำหรับปีงบประมาณ 2563 ที่จะสิ้นสุดในเดือนมี.ค.นี้ เป็น 4.5 ล้านคัน จากการคาดการณ์ก่อนหน้าที่ 4.6 ล้านคัน ด้านบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของญี่ปุ่น ได้ปรับทบทวนคาดการณ์รายได้สุทธิในปีงบการเงินที่จะสิ้นสุดในเดือนมี.ค. 2564 ขึ้นเป็น 1.9 ล้านล้านเยน (1.81 หมื่นล้านดอลลาร์) หรือเพิ่มขึ้น 33.8% จากการคาดการณ์ครั้งก่อนในเดือนพ.ย. หลังบริษัทมียอดขายเติบโตแข็งแกร่ง แม้อุตสาหกรรมยานยนต์ได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ก็ตามี
ในยุโรป ธุรกิจการบริการและค้าปลีกร่วงลงประมาณ 35% ส่วนธุรกิจบริการและค้าปลีกทั่วโลกเพิ่มขึ้นแค่ 4% เท่านั้น