สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันพุธ ที่ 10ก.พ. ปรับตัวขึ้น 32 เซนต์ ถือเป็นช่วงขาขึ้นที่ยาวนานที่สุดในรอบ 2 ปีคือนานถึง9วัน
โดยได้แรงหนุนจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ลดลงมากกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ และการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่าการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในวงกว้างในสหรัฐจะช่วยหนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนมี.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ ปิดที่ 58.68 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 38 เซ็นต์ ปิดที่ 61.47 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 6.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 2.7 ล้านบาร์เรล สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (เอพีไอ) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 3.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว
ด้านนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ คาดการณ์ว่า สภาคองเกรสจะสามารถลงมติให้การอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาชาวสหรัฐและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก่อนวันที่ 15 มี.ค. ซึ่งเป็นวันที่มาตรการช่วยเหลือผู้ว่างงานที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จะหมดอายุลง
ขณะที่ซาอุดีอาระเบีย ปรับลดกำลังการผลิต 1 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 8.125 ล้านบาร์เรล/วัน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.ไปจนถึงสิ้นเดือนมี.ค. ขณะที่รายงานระบุว่าโอเปกพลัสยังคงปรับลดกำลังการผลิตตามข้อตกลง