ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวลดลง 1.97 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยปรับตัวลดลงต่อเนื่องมาจากคืนวันพฤหัสบดี และร่วงลงต่อในวันศุกร์ทดสอบระดับต่ำสุดบริเวณ 1,810.49 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันหลักมาจากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์จากแรงช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากดอลลาร์ปรับตัวลงหลายวันติดต่อกัน
ขณะที่ความต้องการเสี่ยงในตลาดลดลงก่อนวันหยุดยาวในตลาดสหรัฐ จึงกระตุ้นให้เกิดแรงขายทำกำไรในตลาดหุ้นและสกุลเงินเสี่ยงบางสกุลจนเป็นปัจจัยหนุนดอลลาร์ให้ฟื้นตัวขึ้น ประกอบกับความรุนแรงเกี่ยวกับการระบาดของ COVID-19 ในสหรัฐทุเลาลงอย่างชัดเจน สะท้อนจากตัวเลขผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ในสหรัฐลดลงเหลือประมาณ 84,000 รายในวันเสาร์ ท่ามกลางความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนต้าน COVID-19 หลังจาก CDC สหรัฐเผยว่าในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีประชากรในสหรัฐ 38.29 ล้านคนได้รับวัคซีนอย่างน้อย 1 โดส และในจำนวนนั้นมี 14.07 ล้านคนที่ได้รับวัคซีนครบแล้วทั้ง 2 โดส
นอกจากนี้ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันเพิ่มจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ที่ดีดตัวสู่ระดับ 1.203% ในวันศุกร์จากแรงขายพันธบัตรก่อนวันหยุดยาวของสหรัฐ ขณะที่การคาดการณ์เงินเฟ้อขยับขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 6 ปีเป็นปัจจัยที่หนุนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวอีกทางหนึ่ง สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ราคาทองคำร่วงลงแรง ก่อนที่ราคาจะฟื้นตัวลดช่วงติดลบในช่วงปลายตลาด ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำไม่เปลี่ยนแปลง
สำหรับวันนี้ปริมาณการซื้อขายในตลาดทองคำอาจเบาบางกว่าปกติ เนื่องจากตลาดทองคำจีนปิดทำการในเทศกาลตรุษจีน ขณะที่ตลาดเงิน ตลาดทุน และตลาดโลหะมีค่านิวยอร์กจะปิดทำการเนื่องในวันประธานาธิบดีสหรัฐ