ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันอังคาร ที่ 23ก.พ. ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย 15 จุด หลังจากที่ประธานเฟด ส่งสัญญาณว่าเฟดจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไป ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 15.66 จุด หรือ 0.05% ปิดที่ 31,537.35 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 4.87 จุด หรือ 0.13% ปิดที่ 3,881.37 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 67.85 จุด หรือ 0.5% ปิดที่ 13,465.20 จุด
นอกจากนี้ นายพาวเวล ยังกล่าวว่า แรงกดดันด้านราคายังคงอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่มาก “เมื่อพิจารณาในรอบ 12 เดือน อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับเป้าหมาย 2% ของเรา” นายพาวเวลกล่าว ขณะเดียวกัน ประธานเฟดระบุว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อ แต่ก็ไม่ได้สร้างความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจสหรัฐ โดยจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ลดต่ำลง และความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนในวงกว้าง ได้สร้างความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
นายพาวเวล ยังกล่าวว่า ตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐได้ฟื้นตัวขึ้นแล้ว ขณะที่การลงทุนของภาคธุรกิจและภาคการผลิตได้ดีดตัวขึ้นเช่นกัน โดยได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากเฟดและสภาคองเกรส อย่างไรก็ดี นายพาวเวลไม่ได้ระบุถึงการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในขณะนี้แต่อย่างใด
ถ้อยแถลงของนายพาวเวลครั้งนี้ถือว่ามีความสำคัญ เนื่องจากนักลงทุนกำลังกังวลว่า การดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และตัวเลขเงินเฟ้อที่ส่งสัญญาณพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว อาจผลักดันให้เฟดยุติการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน หลังจากที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% ต่อไปอีกราว 2 ปี