นายฮอร์เก อาร์เรอาซา รัฐมนตรีฝ่ายกิจการต่างประเทศของเวเนซุเอลากล่าวหลังการประชุมกับนางบริลฮานเตว่า “เราได้ตัดสินใจประกาศให้นางอิซาเบล บริลฮานเต ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนอียูเป็นบุคคลไม่พึงปรารถนา” พร้อมเสริมว่า “เราต้องดำเนินการเช่นนี้เพราะสถานการณ์บังคับ”
นายอาร์เรอาซากล่าวว่า การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นหลังอียูตัดสินใจ 55 ครั้ง ซึ่งเป็นการคว่ำบาตรต่อเวเนซุเอลาในอียูหรือในสหรัฐ นายอาร์เรอาซาได้อธิบายว่า การกระทำของอียูเป็นการแทรกแซง และกฎบัตรสหประชาชาติก็ยินยอมให้มีมาตรการบีบบังคับต่อประเทศใดๆ ได้ก็ต่อเมื่อได้รับการอนุมัติจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) แล้วเท่านั้น
นายอาร์เรอาซาเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ยุโรปดำเนินการวิเคราะห์ไตร่ตรองเพื่อให้เลิกการแทรกแซง และเปลี่ยนทัศนคติที่แข็งกร้าว “เราหวังว่ายุโรปจะเปลี่ยนท่าทีเป็นการสร้างความสัมพันธ์ด้วยความเคารพ” นายอาร์เรอาซากล่าว
นายอาร์เรอาซาระบุด้วยว่า นายนิโคลัส มาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลาเคยแสดงความใจกว้างเมื่อเดือนก.พ. 2562 ที่ยอมให้คณะทูตจากยุโรปที่ไม่ยอมรับนายมาดูโรอยู่ในเวเนซุเอลา การประกาศให้เอกอัครราชทูตอียูเป็น “บุคคลไม่พึงปรารถนา” นั้นมีขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังจากอียูตัดสินใจคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่รัฐบาลของเวเนซุเอลาจำนวน 19 ราย