การเทรด Forex หาจุดเข้าจุดออกมีหลักการที่หลากหลายแล้วแต่ว่าใครจะเลือกใช้แบบไหน ซึ่งถ้าหากใครเข้าวงการ Forex มาได้สักระยะหนึ่งคงจะพอได้ยินคำว่า Elliott Waves กันมาบ้าง ซึ่งก็ถือเป็นทฤษฏีที่ใช้กันมาอย่างยาวนาน
ในการหาจุดเข้าออก Order เช่นกัน ซึ่งวันนี้เราจะมาสรุปให้ฟังว่าทฏษฏีนี้มีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง
ทฤษฎี Elliott Wave คืออะไร?
ทฤษฎี Elliott Wave เป็นทฤษฎีในการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้อธิบายการเคลื่อนไหวของราคาในตลาดการเงิน ทฤษฎีนี้ได้รับการพัฒนาโดยราล์ฟ เนลสัน เอลเลียต หลังจากที่เขาสังเกตและระบุรูปแบบคลื่นที่เกิดซ้ำ ๆ คลื่นสามารถระบุได้ในการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นและในพฤติกรรมผู้บริโภค นักลงทุนที่พยายามทำกำไรจากแนวโน้มของตลาดสามารถอธิบายได้ว่าเป็นคลื่น
• Elliott Waves เป็น fractals คลื่นแต่ละคลื่นสามารถแยกเป็นคลื่นย่อย ๆ ได้ ซึ่งเมื่อแบ่งออกมาแล้ว ก็จะมีลักษณะความคล้ายกันของตัวมันเองอยู่ทุกคลื่น นักคณิตศาสตร์มักจะเรียกปรากฏการนี้ว่า ความคล้ายตัวของมันเอง หรือ “self-similarity”
• ตลาดที่เกิดเทรนด์จะเคลื่อนไหวเป็นรูปแบบ คลื่น 5-3
• คลื่น 5 คลื่นแรก เรียกว่า Impulse wave.
• คลื่นใดคลื่นหนึ่งในสามคลื่นแบบ impulse (1, 3, หรือ5) จะเป็นคลื่นขยาย ซึ่งปกติจะเป็นคลื่นที่ 3
• คลื่นสามคลื่นหลังเรียกว่า คลื่น corrective จะใช้ตัวอักษรแทนการเรียกเป็นเลข
• คลื่นที่ 1, 3 และ 5 จะมีคลื่นเล็ก ๆ แบบ impulse 5 คลื่นอยู่ในนั้น 5 คลื่น ขณะที่คลื่น 2 – 4 จะมีคลื่นเล็ก ๆ แบบ Corrective อยู่สามคลื่นแทรกอยู่ในนั้น
• มีคลื่นแบบ Corrective อยู่ 21 ชนิด แต่ว่ามันมีพื้นฐานมาจากพื้นฐานของสามชนิดง่าย ๆ ที่จะทำความเข้าใจ
• รูปแบบพื้นฐานของ Corrective เหล่านั้น คือ ซิกแซก (zigzags), แบบราบ (flats), และแบบสามเหลี่ยม (triangles)
กฎ 3 ข้อของ ทฤษฎี Elliott Wave
คุณก็คงจะคิดเหมือนกันว่าการใช้ Elliot Wave ในการเทรดมันขึ้นอยู่กับความสามารถในการวิเคราะห์ตัวคลื่นได้ ในการพัฒนาการมองคลื่นของเราว่าตอนนี้ตลาดอยู่ในคลื่นที่เท่าไหร่ คุณจะสามารถบอกได้ว่าคุณควรจะเทรดด้านไหน Buy หรือ Sell และมีกฎสำคัญสามข้อที่คุณห้ามแหกกฎ เพื่อการวิเคราะห์คลื่น ดังนั้น ก่อนที่คุณจะกระโดดเข้าเทรดแบบทฤษฎี Elliott Wave ในการเทรดของคุณ คุณต้องจดบันทึกกฎต่อไปนี้ไว้ และจำไว้ว่าการวิเคราะห์คลื่นผิด จะทำให้เงินบัญชีของเราหายไปอย่างรวดเร็วมาก
• กฎข้อที่ 1 คลื่นที่ 3 จะไม่มีทางสั้นกว่าคลื่นที่ 1 และคลื่นที่ 5
• กฎข้อที่ 2 คลื่นที่ 2 จะไม่ลงไปต่ำกว่าจุดเริ่มต้นของคลื่นที่ 1
• กฎข้อที่ 3 คลื่นที่ 4 จะไม่สามารถลงไปจนถึงพื้นที่ของคลื่นที่ 1 ได้
และ มีแนวทางที่จะช่วยให้คุณระบุลักษณะของคลื่นได้อย่างถูกต้อง ซึ่งจะไม่เหมือนกับกฎทั้งสามข้อข้างบน ซึ่งมันเป็นแนวทางที่สามารถยืดหยุ่นได้ ดังนี้
• บางครั้งคลื่นที่ 5 จะไม่ลงไปต่ำกว่าจุดสิ้นสุดของคลื่นที่ 3 ซึ่งเรียกว่า การแบ่งเป็นส่วนๆ
• คลื่น 5 จะไม่ทะลุเส้นเทรนด์ไลน์ที่ลากเฉียงมาจากจุดเริ่มต้นของคลื่นๆที่สามและจุดเริ่มต้นของคลื่นๆที่ 5
• คลื่นที่ 3 จะยาว คม และขยายออกไป
• คลื่นที่ 2 และ 4 จะหลุดออกจากแนวเส้น Fibonacci
นอกจากนี้เรายังสามารถบอกได้ว่าทฤษฎี Elliott Wave เป็นการจัดลำดับจากคลื่นที่ใหญ่สุดไปหาคลื่นที่เล็กที่สุด ซึ่งประกอบด้วยคลื่นดังต่อไปนี้
ถ้าคุณมองดูให้ดี ๆ ตลาดนั้นเคลื่อนไหวเป็นแบบคลื่นจริง ๆ ทำให้อาจต้องใช้เวลานานมากในการวิเคราะห์ ขอให้คุณขยันเข้าไว้และอย่ายอมแพ้อดทนและสู้ต่อไป แล้วคุณจะมองหามันได้ไม่ยาก
Updated
2 years ago
(Nov 11, 2020 18:10)